ลำบากหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองครับ ว่าใช้ Apps อะไรบ้าง

ผมใช้ Huawei มา 3 ปีกว่าแล้ว ไม่มี GMS แต่ผมก็ไม่รู้สึกว่าลำบากเลยแม้แต่นิดเดียว

App หลาย ๆ ตัว สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องมี GMS เช่น Microsoft 365, Youtube, Line, Netflix ฯลฯ

แต่ก็อย่าคาดหวังมาก ถึง Apps มันจะทำงานได้ แต่มันก็ทำงานได้ไม่ 100% ครับ บางตัวทำงานเบื้องหลังไม่ได้ เช่น Line จะไม่มีการแจ้งเตือนอะไรเลย

ส่วนเกมต่าง ๆ ก็มีทั้งที่เล่นได้ และเล่นไม่ได้ครับ ยิ่งพวกเกมที่ต้องซื้อแบบ In App Purchase จะซื้อแบบตรง ๆ ไม่ได้เลยเช่นกัน เพราะไม่มี GMS

ต้องไปหาวิธีอื่น ๆ เอาซึ่งมันก็ไม่ได้สมบูรณ์ 100% และมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยด้วย นั่นก็คือติดตั้ง Apps เหล่านี้

1. Livehouse

2. Gbox

3. Gspace

ซึ่ง Apps เหล่านี้จะมี GMS มาให้ใน Apps ทำให้คุณสามารถ Login Google ได้ และสามารถลง Apps / Games ใช้งานได้ แต่ก็จะเจอปัญหา

- Apps บางตัวเสียเงินรายเดือน

- Apps บางตัวฟรี แต่มีโฆษณาซ้ำซ้อนแบบเยอะมาก เยอะจนอยู่ในระดับไม่อยากใช้งานกันเลยทีเดียว

- Apps / Games บางตัวใช้งานไม่ได้เลย คือเปิดไม่ขึ้นเลย หรือใช้งานไปได้แป๊บนึงแล้ว App Close แบบไม่รู้สาเหตุ

- มีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย เพราะคุณต้องเอา Account / Password ของคุณไป Sign in ใน App ที่ไม่มีบน Play Store และไม่ได้รับการยืนยันเรื่องความปลอดภัยจาก Google แม้ว่าคุณจะเปิดใช้งาน 2-Factor Authentication เอาไว้ก่อนการใช้งาน มันก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะหาก Apps เหล่านี้เกิดถูก Hack ขึ้นมาในวันใดวันหนึ่ง แล้วโจรมันทำการขโมย Session มันก็เอาไปใช้งานต่อได้โดยไม่ต้อง Login และไม่ต้องใช้ 2-Factor Authentication อะไรเลย

สำหรับตัวผมเอง ผมไม่ใช้เลยไม่ว่าจะเป็น Livehouse, Gspace หรือ Gbox ผมใช้วิธีเอา Apk ของ Apps ที่ต้องการใช้งานมาลงใช้งานเลย ซึ่งถ้า Apps ไหนของ Google ใช้งานไม่ได้ เช่น Youtube ก็ไปหา App ของ Third Party มาใช้งานแทนครับ

ทุกวันนี้ผมใช้ Huawei แบบไม่ Sing in Account ครับ ไม่ว่าจะเป็นบัญชี Google หรือบัญชี Huawei ก็ไม่ได้ Sign in ครับ ส่วน Apps ก็จะใช้งาน Apps พวกที่อนุญาตให้ Login ผ่าน email หรือมี Account ของตัวเองที่ไม่พึ่งพา Google ครับ เช่น Microsoft 365

Huawei ตอบโจทย์การใช้งานหลัก ๆ ของผมอยู่นะครับคือ

1. งานเอกสาร Office 365 / WPS

2. Karaoke พกพา ใช้งานที่ไหนก็ได้ Nick Karaoke พร้อมเพลงเกือบ 1 แสนเพลงติดตัว

3. PC พกพา สามารถใช้งาน Dos, Windows 3.1, Windows 95, Windows 98 และ Windows ME ได้

4. เครื่องเล่นเกมเก่า ๆ Emulator ตั้งแต่ Famicom, NDS, 3DS, PS 1, PS 2, Wii และ Switch

5. Desktop Mode ที่มีมาในตัว ทำให้สามารถเปิดใช้งาน Apps พร้อม ๆ กันได้ 20+ Apps

6. Type C to Display ทำให้สามารถต่อจอ Duplicate ผ่านสาย USB C, HDMI, VGA, Display Port ได้ และทำให้สามารถดู Apps เกือบทุกตัวบนจอใหญ่ได้โดยไม่ติดปัญหาจอดำ

ทุกวันนี้นอกจาก Huawei ก็มีแค่ตัวเรือธงของ Samsung ครับที่สามารถใช้งาน Desktop Mode (SS เรียกว่า Samsung DeX) และมี Type C to Display ให้มา

แม้แต่ Huawei ก็เลิกทำ Desktop Mode ไปแล้ว ในรุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาส่วนใหญ่ไม่มี ส่วน Type C to Display รุ่นใหม่ ๆ ก็ไม่ค่อยจะมีแล้ว เท่าที่รู้ตัวที่ยังมีอยู่คือ Tablet รุ่น Pro ครับ

ซึ่งตัวที่คุณสนใจ Huawei P60 Pro ไม่มีทั้ง Desktop Mode และ Type C to Display เลยครับ (ผมสอบถามจากพนักงานขาย และไปสอบถามที่ศูนย์ซ่อม Huawei ซึ่งได้รับคำยืนยันว่าไม่มี) แต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้งานเป็นหลัก ก็ไม่เป็นประเด็นอะไรครับ

ปล. บน Huawei มีวิธีในการติดตั้ง Apps ได้หลายวิธี คือ

1. ใช้ Store ของ Huawei เองคือ App Gallery ซึ่งมี Apps ค่อนข้างน้อย แต่ Apps ที่จำเป็น ๆ ก็มีให้ใช้อยู่พอสมควรเช่น K Plus, SCB Easy, Krungthai NEXT, Lazada, Shopee, Discord, MS Teams ฯลฯ

2. ใช้ Store ของ Third Party เช่น APK Pure ในการติดตั้ง Apps

3. หา APK จากข้างนอกแล้วมาติดตั้ง ซึ่งต้องมีความรู้พอสมควร อย่างน้อยต้องดูแลตัวเองเป็นว่า Apps ที่เอามาลงไม่ใช่มัลแวร์ ไม่ใช่ App Remote ควบคุมเครื่อง

4. ลง Apps ผ่าน Livehouse, Gspace, Gbox ซึ่งจะสามารถ Sign in Google Account ได้ และสามารถใช้ Apps ที่เคยซื้อไว้แล้วได้ แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงว่าอาจถูกดัก Password ไปใช้งาน หรือถ้าหนักกว่านั้นคือโดนขโมย Session เอาไปใช้งานต่อเลย

ถ้าไม่ใช่สายเกม ไม่ใช่คนที่ชอบซื้อ In Apps Purchase คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการใช้งานนะครับ สายถ่ายรูป บน Huawei ก็ใช้งาน Apps ได้เยอะ เช่น Canva, Photoshop, Lightroom, Remini, Picsart, PowerDirector, VSCO, FilmoraGo ถ้าเน้นใช้งานคิดว่าไม่น่าจะลำบากอะไรนะครับ