สวัสดีเพื่อน พี่น้อง ทุกท่าน ครับ
ผมอยากจะขอแชร์ประสบการณ์ เรื่องความรัก ของคนคนหนึ่งที่เป็นคนพี่ชายของผม ที่เขาได้เล่าให้ผมฟังและอนุญาตให้ผมถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวนะครับ
เรื่อง ความรักของคนวันเลข 3
พี่ชายผมชื่อสมมติ "เคน" มีอายุ 31 ปี เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าตาถือว่าดีเลย ส่วนสูง 177 ผิวขาว หน้าคม รูปร่างสมส่วน เป็นคนชอบออกกำลังกาย ถ้าถามว่าดูดีขนาดไหน เท่าที่ผมเห็นประวัติคือ เป็นตำแหน่งเดือน ประจำคณะของมหาวิทยาลัยดังแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ ป.ตรี และ ป.โท รวมถึงมี Modering ตามจีบเยอะมากช่วงมหาลัย แต่เขาเป็นคนที่ไม่สนใจวงการบันเทิง จึงได้ใช้ชีวิตเป็นเด็กผู้ชายปกติสามัญทั่วไป.........ด้วยความที่บุคลิกภายนอกที่ดูดี ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะตั้งแต่เข้ามหาลัยจนเรียนจบ ทำให้พี่เคนเป็นคนที่มีประสบการณ์เรื่องความรักค่อนข้างมาก พอฟังแค่นี้พอจะคาดการณ์หน้าตา บุคลิก นิสัย คร่าวๆ ออกแล้วนะครับ ฉะนั้นจะขอเล่าเลยว่าความรักวัยเลข 3 ของเขาเป็นยังบ้าง??
พี่เคนได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง ขอสมมติชื่อ "เจนนี่" ซึ่งเป็นผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง ผมยาว หุ่นดี เป็นสาวสวยคนหนึ่ง ซึ่งพี่เคนได้รู้จักกับเจนนี่ผ่าน Application หาคู่ช่องทางหนึ่ง โดยทั้งคู่ได้คุยกันอย่างถูกคอ และนัดพบเจอกันตามประสาเพื่อนใหม่ ที่ต้องการทำความรู้จักกัน ซึ่งใช้ระยะเวลาคุยกัน 2-3 เดือน กว่าจะตัดสินใจเป็นแฟนกัน โดยไปมาหาสู่กันทั้งทางบ้านพี่เคน และพี่เจนนี่ (อย่างที่เขาว่า : น้ำผึ้งหวาน กลิ่นก็ยังหอม อะไรๆก็ดีไปหมด) จนวันหนึ่งก็มีความจริงบางอย่างที่เป็นจุดเปลี่ยนใหญ่หนึ่งในชีวิต ......
สิ่งนั้นคือ .....พี่เจนนี่ของพี่เคนที่เข้าใจว่าโสดมาตลอด ความจริงคือ พี่เจนนี่เขาแต่งงาน "มีทะเบียนสมรสแล้ว" ซึ่งสิ่งที่พี่เคนรับรู้เบื้องต้นคือ พี่เจนนี่เลิกกับแฟนเก่า และไม่ได้ติดต่อกันซึ่งฟังดูปกติใช่ไหมครับ!! แต่ความจริงที่พบคือ แฟนเก่าหรือผู้ชายคนเก่าของพี่เจนนี่ เขาทักข้อความมาหาพี่เคนครับ และข้อความนั้นคือรูปพี่เจนนี่กับเด็กน้อยวัย 4 ขวบ ....ณ วินาทีนั้น พี่เคนเหมือนโลกเงียบ หยุดหมุน ภาพนิ่ง จนมีสายโทรศัพท์ของพี่เจนนี่เข้ามาครับ สิ่งที่พี่เจนนี่พูดคือ "ขอโทษ" ขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงทั้งหมด...
ความจริงของพี่เจนนี่คือ ... เขาจดทะเบียนกับแฟนเก่า ซึ่งผมขอขยายความเพื่อให้ความเป็นธรรมกับพี่เจนนี่ด้วยว่า ..... เหตุผลที่ต้องจดทะเบียน เพราะ...
1.เขาทำธุรกิจ เปิดบริษัทมาด้วยกัน
2.แฟนเก่า ผู้ชายเคยนอกใจ ทำให้พี่เจนนี่ต้องการความมั่นใจในอนาคตจากฝ่ายชาย
3.เรื่องการเงิน ทางภาษี และลดหย่อนต่างๆ
จากเหตุผลต่างๆ ทั้งหมดนี่จึงเป็นที่มาของใบสมรสฉบับนี้นั้นเอง แต่ยังมีประเด็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก นั้นคือ เด็กน้อย วัย 4 ขวบ ซึ่งสิ่งที่เขาพูดถึงเกี่ยวกับเด็กคนนั้นคือ "เขาเป็นลูกติดจากฝั่งผู้ชาย" โดยหลังจากพี่เคนได้ฟัง.... ความคิดในหัวคือ ควรจะทำอย่างไร??
แต่สิ่งที่พี่เคนเลือกคือ การให้พี่เจนนี่ไปแสดงความชัดเจนกับตัวเอง และกับพี่เคน หลังจากนั้นพี่เจนนี่เลือกครับ เลือกที่จะหย่ากับแฟนเก่า! ซึ่งสิ่งที่ทุกคนอาจจะสงสัยคือ แล้วเด็กน้อยคนนั้นจะทำอย่างไร?? และ... ใช่ครับอยู่กับแม่ของพี่เจนนี่ ซึ่งมันก็ยังคงเป็นคำถามที่ค้างคาใจพี่เคนมาตลอดว่า... ทำไมพ่อเขาถึงทิ้งลูกได้ลงคอ /ทำไมพี่เจนนี่ต้องรับน้องคนนั้นมาเลี้ยงด้วย ระหว่างที่ปัญหายังไม่จบ ก็มีปัญหาใหญ่ที่เข้ามา นั้นคือ หมายศาลครับ ...... คำสั่งฟ้องการมีชู้ของพี่เจนนี่และพี่เคนครับ ซึ่งยังคงดำเนินมาอยู่จนถึงปัจจุบันนี่
จะเห็นได้ว่าการเริ่มต้นความรักในช่วง 5-7 เดือนแรกนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ทั้งคู่ก็ฝ่าฟันก็มาได้ จนครบ 2 ปีครับ แต่ความสัมพันธ์นี้กำลังอยู่ในจุดที่เปราะบางอีกครั้ง เนื่องด้วยความจริงบางอย่างที่ถูกปกปิดไว้มาถึง..... นั้นคือ
*******เด็กน้อยคนนั้นเป็นลูกของพี่เจนนี่ครับ มันคือสิ่งที่พี่เจนนี่กลัวจะเสียพี่เคนไปในวันนั้น จึงได้ไม่เคยบอกจนมาถึงวันนี้ ซึ่งความจริงนี่ก็ถูกเปิดเผยด้วยบุครลที่ใกล้ชิดของพี่เจนนี่ ที่เขาสงสารพี่เคนที่ไม่รู้อะไรเลยครับ ******
สุดท้ายนี้ความรักย่อมมีวันจืดจางครับ หากเราไม่หมั่นเติมหัวใจให้กัน เหมือนกวีท่านหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า " ใกล้กันจนดูแคลน" มันเป็นแบบนั้นเลยครับ
....จากเหตุการณ์หลายอย่าง ทำให้พี่เจนนี่ย้ายมาอยู่จากบ้านเดิมที่ซื้อกับแฟนเก่า เขาต้องออกมาอยู่กับพี่เคนที่คอนโด ซึ่งพี่เคนก็คอย support เรื่องการเป็นอยู่ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ให้รถยนต์ขับไปใช้งาน การดูแลเรื่องอื่นๆที่คู่รักเขาทำกัน การเลี้ยงข้าว เซอร์ไพซ ของขวัญต่างๆ เนื่องด้วยพี่เคนมีฐานะทางบ้านค่อนข้างดี การงานเงินเดือน 50-70k การเงินมั่นคง ฟังดูพี่ช่ยผมช่างดูชีวิตดีจังเลย แต่ทุกคนบนโลกล้วนไม่มีความสมบูรณ์แบบหรอกครับ โดยจะขออธิบายนิสัยของพี่เคน และพี่เจนไว้อย่างนี้
สำหรับพี่เคน(คร่าวๆนะครับ)
1.เป็นคนที่เก็บเงิน บริหารเงิน ด้วยรวามที่จบปริญาญาโทการเงิน ทำให้ค่อนข้างมีวินัยมาก
2.แม้จะเก็บเงินเก่ง แต่ใช้เงินยากมาก ก่อนจะซื้ออะไร จะคิดซ้ำ คิดเยอะ คิดมาก จนบางครั้งก้ไม่ได้ซื้ออะไรเลย
3.เป็นคนกินง่ายมาก ง่ายแบบง่ายจิงๆจนของแปลกๆ ไม่ค่อยกิน เช่น ชอบไข่เจียว ถ้าวันนึงมีเนื้อนกกระจอกเทศมาให้ แม้จะเป็นของดีและแพง แต่เขาจะไม่กินครับ (มันอาจจะไม่แปลกสำหรับบางคนก้ได้นะ แต่คนที่ไม่เข้าใจก็จะไม่เข้าใจจริงๆ)
4.รักอิสระไม่ชอบการบังคับ หรือกดดัน มองว่าชีวิตคือการหาควาทสุขที่ไม่เดือดร้อนใคร
5.เป็นคนจิตใจดี เห็นใจผู้อื่น กลัวการทำร้ายความรุ้สึก แม้กระทั้งแฟนเก่าที่ทักมา ก็พยายามที่จะคุยดีๆ เป็นคนที่เชื่อว่า แฟนเก่าสามารถเป็นเพื่อนได้ หรือวาดภาพว่า ถ้าแฟนเก่าเรากับแฟนปัจจุบัน รุ้จัก สนิทกันได้มันคงจะดี (แต่พี่เคนเขาเป็นคนที่ซื่อ หรือมองโลกที่บางครั้งอาจจะดีเกินไป จนบางคนอาจจะไม่เข้าใจก็ได้)
6.เป็นคนที่ค่อนข้างเนี้ยบเรื่อง ความสะอาด ย้ำนะครับสะอาด แต่ไม่อนามัย เข่น บ้านจะมีฝุ่นก็ ไม่กังวลเท่ากับของที่วางไม่เป็นระเบียบ
สำหรับพี่เจนนี่(คร่าวๆเหมือนกัน)
1.เป็นคนที่กล้าได้กล้าเสีย ถ้าอยากทำอะไรจะทำเลย ไม่คิดเยอะ มองว่าเจอปัญหาก็ค่อยแก้ดีกว่าไม่ทำเลย
2.มองหาความสำเร็จอยู่ตลอด แต่ชอบที่จะหาผู้ร่วมความสำเร็จที่คิดเห็นเหมือนกัน หรือสนับสนุนและเป็นผู้นำด้วย
3.เป็นคนอารมณ์ร้อน ถ้าโมโห พูดจาไม่ดี กิริยาไม่ดี เช่น พูดคำหยาบ กุ วรนุชมาเต็ม (พี่เคนไม่พูดกุ กับแฟนเลย)
4.เป็นคนที่ไม่เป็นระเบียบ คือใช้ตรงไหนวางตรงนั้นเสมอ (พี่เคนก็จะคอยตามเก็บกวาดตลอดเวลา แม้วันที่กลับจากงานเหนื่อยๆ)
5.เป็นคนที่ถ้ามีเงิน ก็จะซื้อของให้แฟนเสมอๆ (แต่ก็เป็นคนหนี้เยอะด้วย)
จากข้างต้นพอจะเข้าใจรูปร่าง และลักษณนิสัยของทั้งคู่แล้วนะครับ
จนมาถึงปัญหาที่พี่เคนกำลังครุ่นคิดครับ ซึ่งสำหรับผมก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้สติในการตัดสินใจครับ เพื่อความเข้าใจจะขอเขียนเป็นข้อๆให้นะครับ
1 คำถาม: เรื่องเด็กน้อยคนนั้น จนปัจจุบันนี้ พี่เคนยังไม่เคยเล่าให้พ่อแม่ หรือเพื่อนคนไหนฟังเลย ซึ่งถ้าเล่าละก็มันคงยาวเหมือนที่ผมพยายามอธิบายมาตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นสถานะแม่บุญธรรม หรือแม่จริงๆก็ตาม พี่เคนควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีครับ????
2.คำถาม: พี่เจนนี่ชอบทะเลาะกับพี่เคน ด้วยนิสัยที่พี่เคนเป็นคนไม่ได้แสวงหาความสำเร็จ แต่เป็นการหาความสุขในการใช้ชีวิต จึงทำให้การใช้ชีวิตประจำวันมันมีความน่าเบื่อ ราบเรียบ จนรู้สึกไม่มีอะไรเลย....ฟังดูมันไม่อะไรมากนะครับ แต่พอคิดดีๆ มันคือการมองเป้าหมาย และการเข้าใจควาทรุ้สึก และให้เกียรติของแต่ละฝ่ายนะครีบ ซึ่งพี่เคนควรจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไรดีครับ????
3.คำถาม: ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ พี่เคนรุ้สึกเป็นฝ่ายที่เสียสละมากกว่า จนถึงจุดที่เขาถามตัวเองว่า ทำไมเราเอาใจคนอื่นมาอยุ่หน้าตัวเองตลอด จนจิตใจเริ่มอ่อนล้า เหนื่อยกับความสัมพันธ์ ซึ่งพี่เจนนี่ชัดเจนอยู่ว่า อยากได้แฟนที่ให้เงิน อยากได้แฟนที่คอยสนีบสนุนความคิดตัวเอง หรือคิดเหมือนกัน ซึ่งพี่เคนเข้าใจทุกอย่าง แต่ก็ช่วยในวิธีแบบของตัวเขาเอง ซึ่งมันจะจัดการกับความรุ้สึกอย่างไร????
4.คำถาม: ความสัมพันธ์ที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง Take มากกว่า Give อยู่ตลอด มันเป็นความรักที่สุขภาพดีจริงหรือป่าวววว???
ปล.ผมเชื่อนะว่า การให้เกียรติ และไม่ตัดสินความคิดของผู้อื่น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่คนเราจะอยุ่ร่วมกันจะต้องเข้าใจ
เพราะคนเรารักกันที่ เพราะ "ความชอบ" แต่จะอยู่ด้วยกันต้องรับ "ข้อเสียของอีกฝ่ายได้มากกว่า" (คิดไว้เลยว่า ถ้าต้องทะเลาะกับคนหน้าเดิมไปตลอดชีวิตจะยังรักและทนอยู่ได้ไหม 😄 )
ความรักของผู้ชายวัยเลข 3
ผมอยากจะขอแชร์ประสบการณ์ เรื่องความรัก ของคนคนหนึ่งที่เป็นคนพี่ชายของผม ที่เขาได้เล่าให้ผมฟังและอนุญาตให้ผมถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวนะครับ
เรื่อง ความรักของคนวันเลข 3
พี่ชายผมชื่อสมมติ "เคน" มีอายุ 31 ปี เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าตาถือว่าดีเลย ส่วนสูง 177 ผิวขาว หน้าคม รูปร่างสมส่วน เป็นคนชอบออกกำลังกาย ถ้าถามว่าดูดีขนาดไหน เท่าที่ผมเห็นประวัติคือ เป็นตำแหน่งเดือน ประจำคณะของมหาวิทยาลัยดังแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ ป.ตรี และ ป.โท รวมถึงมี Modering ตามจีบเยอะมากช่วงมหาลัย แต่เขาเป็นคนที่ไม่สนใจวงการบันเทิง จึงได้ใช้ชีวิตเป็นเด็กผู้ชายปกติสามัญทั่วไป.........ด้วยความที่บุคลิกภายนอกที่ดูดี ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะตั้งแต่เข้ามหาลัยจนเรียนจบ ทำให้พี่เคนเป็นคนที่มีประสบการณ์เรื่องความรักค่อนข้างมาก พอฟังแค่นี้พอจะคาดการณ์หน้าตา บุคลิก นิสัย คร่าวๆ ออกแล้วนะครับ ฉะนั้นจะขอเล่าเลยว่าความรักวัยเลข 3 ของเขาเป็นยังบ้าง??
พี่เคนได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง ขอสมมติชื่อ "เจนนี่" ซึ่งเป็นผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง ผมยาว หุ่นดี เป็นสาวสวยคนหนึ่ง ซึ่งพี่เคนได้รู้จักกับเจนนี่ผ่าน Application หาคู่ช่องทางหนึ่ง โดยทั้งคู่ได้คุยกันอย่างถูกคอ และนัดพบเจอกันตามประสาเพื่อนใหม่ ที่ต้องการทำความรู้จักกัน ซึ่งใช้ระยะเวลาคุยกัน 2-3 เดือน กว่าจะตัดสินใจเป็นแฟนกัน โดยไปมาหาสู่กันทั้งทางบ้านพี่เคน และพี่เจนนี่ (อย่างที่เขาว่า : น้ำผึ้งหวาน กลิ่นก็ยังหอม อะไรๆก็ดีไปหมด) จนวันหนึ่งก็มีความจริงบางอย่างที่เป็นจุดเปลี่ยนใหญ่หนึ่งในชีวิต ......
สิ่งนั้นคือ .....พี่เจนนี่ของพี่เคนที่เข้าใจว่าโสดมาตลอด ความจริงคือ พี่เจนนี่เขาแต่งงาน "มีทะเบียนสมรสแล้ว" ซึ่งสิ่งที่พี่เคนรับรู้เบื้องต้นคือ พี่เจนนี่เลิกกับแฟนเก่า และไม่ได้ติดต่อกันซึ่งฟังดูปกติใช่ไหมครับ!! แต่ความจริงที่พบคือ แฟนเก่าหรือผู้ชายคนเก่าของพี่เจนนี่ เขาทักข้อความมาหาพี่เคนครับ และข้อความนั้นคือรูปพี่เจนนี่กับเด็กน้อยวัย 4 ขวบ ....ณ วินาทีนั้น พี่เคนเหมือนโลกเงียบ หยุดหมุน ภาพนิ่ง จนมีสายโทรศัพท์ของพี่เจนนี่เข้ามาครับ สิ่งที่พี่เจนนี่พูดคือ "ขอโทษ" ขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงทั้งหมด...
ความจริงของพี่เจนนี่คือ ... เขาจดทะเบียนกับแฟนเก่า ซึ่งผมขอขยายความเพื่อให้ความเป็นธรรมกับพี่เจนนี่ด้วยว่า ..... เหตุผลที่ต้องจดทะเบียน เพราะ...
1.เขาทำธุรกิจ เปิดบริษัทมาด้วยกัน
2.แฟนเก่า ผู้ชายเคยนอกใจ ทำให้พี่เจนนี่ต้องการความมั่นใจในอนาคตจากฝ่ายชาย
3.เรื่องการเงิน ทางภาษี และลดหย่อนต่างๆ
จากเหตุผลต่างๆ ทั้งหมดนี่จึงเป็นที่มาของใบสมรสฉบับนี้นั้นเอง แต่ยังมีประเด็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก นั้นคือ เด็กน้อย วัย 4 ขวบ ซึ่งสิ่งที่เขาพูดถึงเกี่ยวกับเด็กคนนั้นคือ "เขาเป็นลูกติดจากฝั่งผู้ชาย" โดยหลังจากพี่เคนได้ฟัง.... ความคิดในหัวคือ ควรจะทำอย่างไร??
แต่สิ่งที่พี่เคนเลือกคือ การให้พี่เจนนี่ไปแสดงความชัดเจนกับตัวเอง และกับพี่เคน หลังจากนั้นพี่เจนนี่เลือกครับ เลือกที่จะหย่ากับแฟนเก่า! ซึ่งสิ่งที่ทุกคนอาจจะสงสัยคือ แล้วเด็กน้อยคนนั้นจะทำอย่างไร?? และ... ใช่ครับอยู่กับแม่ของพี่เจนนี่ ซึ่งมันก็ยังคงเป็นคำถามที่ค้างคาใจพี่เคนมาตลอดว่า... ทำไมพ่อเขาถึงทิ้งลูกได้ลงคอ /ทำไมพี่เจนนี่ต้องรับน้องคนนั้นมาเลี้ยงด้วย ระหว่างที่ปัญหายังไม่จบ ก็มีปัญหาใหญ่ที่เข้ามา นั้นคือ หมายศาลครับ ...... คำสั่งฟ้องการมีชู้ของพี่เจนนี่และพี่เคนครับ ซึ่งยังคงดำเนินมาอยู่จนถึงปัจจุบันนี่
จะเห็นได้ว่าการเริ่มต้นความรักในช่วง 5-7 เดือนแรกนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ทั้งคู่ก็ฝ่าฟันก็มาได้ จนครบ 2 ปีครับ แต่ความสัมพันธ์นี้กำลังอยู่ในจุดที่เปราะบางอีกครั้ง เนื่องด้วยความจริงบางอย่างที่ถูกปกปิดไว้มาถึง..... นั้นคือ
*******เด็กน้อยคนนั้นเป็นลูกของพี่เจนนี่ครับ มันคือสิ่งที่พี่เจนนี่กลัวจะเสียพี่เคนไปในวันนั้น จึงได้ไม่เคยบอกจนมาถึงวันนี้ ซึ่งความจริงนี่ก็ถูกเปิดเผยด้วยบุครลที่ใกล้ชิดของพี่เจนนี่ ที่เขาสงสารพี่เคนที่ไม่รู้อะไรเลยครับ ******
สุดท้ายนี้ความรักย่อมมีวันจืดจางครับ หากเราไม่หมั่นเติมหัวใจให้กัน เหมือนกวีท่านหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า " ใกล้กันจนดูแคลน" มันเป็นแบบนั้นเลยครับ
....จากเหตุการณ์หลายอย่าง ทำให้พี่เจนนี่ย้ายมาอยู่จากบ้านเดิมที่ซื้อกับแฟนเก่า เขาต้องออกมาอยู่กับพี่เคนที่คอนโด ซึ่งพี่เคนก็คอย support เรื่องการเป็นอยู่ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ให้รถยนต์ขับไปใช้งาน การดูแลเรื่องอื่นๆที่คู่รักเขาทำกัน การเลี้ยงข้าว เซอร์ไพซ ของขวัญต่างๆ เนื่องด้วยพี่เคนมีฐานะทางบ้านค่อนข้างดี การงานเงินเดือน 50-70k การเงินมั่นคง ฟังดูพี่ช่ยผมช่างดูชีวิตดีจังเลย แต่ทุกคนบนโลกล้วนไม่มีความสมบูรณ์แบบหรอกครับ โดยจะขออธิบายนิสัยของพี่เคน และพี่เจนไว้อย่างนี้
สำหรับพี่เคน(คร่าวๆนะครับ)
1.เป็นคนที่เก็บเงิน บริหารเงิน ด้วยรวามที่จบปริญาญาโทการเงิน ทำให้ค่อนข้างมีวินัยมาก
2.แม้จะเก็บเงินเก่ง แต่ใช้เงินยากมาก ก่อนจะซื้ออะไร จะคิดซ้ำ คิดเยอะ คิดมาก จนบางครั้งก้ไม่ได้ซื้ออะไรเลย
3.เป็นคนกินง่ายมาก ง่ายแบบง่ายจิงๆจนของแปลกๆ ไม่ค่อยกิน เช่น ชอบไข่เจียว ถ้าวันนึงมีเนื้อนกกระจอกเทศมาให้ แม้จะเป็นของดีและแพง แต่เขาจะไม่กินครับ (มันอาจจะไม่แปลกสำหรับบางคนก้ได้นะ แต่คนที่ไม่เข้าใจก็จะไม่เข้าใจจริงๆ)
4.รักอิสระไม่ชอบการบังคับ หรือกดดัน มองว่าชีวิตคือการหาควาทสุขที่ไม่เดือดร้อนใคร
5.เป็นคนจิตใจดี เห็นใจผู้อื่น กลัวการทำร้ายความรุ้สึก แม้กระทั้งแฟนเก่าที่ทักมา ก็พยายามที่จะคุยดีๆ เป็นคนที่เชื่อว่า แฟนเก่าสามารถเป็นเพื่อนได้ หรือวาดภาพว่า ถ้าแฟนเก่าเรากับแฟนปัจจุบัน รุ้จัก สนิทกันได้มันคงจะดี (แต่พี่เคนเขาเป็นคนที่ซื่อ หรือมองโลกที่บางครั้งอาจจะดีเกินไป จนบางคนอาจจะไม่เข้าใจก็ได้)
6.เป็นคนที่ค่อนข้างเนี้ยบเรื่อง ความสะอาด ย้ำนะครับสะอาด แต่ไม่อนามัย เข่น บ้านจะมีฝุ่นก็ ไม่กังวลเท่ากับของที่วางไม่เป็นระเบียบ
สำหรับพี่เจนนี่(คร่าวๆเหมือนกัน)
1.เป็นคนที่กล้าได้กล้าเสีย ถ้าอยากทำอะไรจะทำเลย ไม่คิดเยอะ มองว่าเจอปัญหาก็ค่อยแก้ดีกว่าไม่ทำเลย
2.มองหาความสำเร็จอยู่ตลอด แต่ชอบที่จะหาผู้ร่วมความสำเร็จที่คิดเห็นเหมือนกัน หรือสนับสนุนและเป็นผู้นำด้วย
3.เป็นคนอารมณ์ร้อน ถ้าโมโห พูดจาไม่ดี กิริยาไม่ดี เช่น พูดคำหยาบ กุ วรนุชมาเต็ม (พี่เคนไม่พูดกุ กับแฟนเลย)
4.เป็นคนที่ไม่เป็นระเบียบ คือใช้ตรงไหนวางตรงนั้นเสมอ (พี่เคนก็จะคอยตามเก็บกวาดตลอดเวลา แม้วันที่กลับจากงานเหนื่อยๆ)
5.เป็นคนที่ถ้ามีเงิน ก็จะซื้อของให้แฟนเสมอๆ (แต่ก็เป็นคนหนี้เยอะด้วย)
จากข้างต้นพอจะเข้าใจรูปร่าง และลักษณนิสัยของทั้งคู่แล้วนะครับ
จนมาถึงปัญหาที่พี่เคนกำลังครุ่นคิดครับ ซึ่งสำหรับผมก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้สติในการตัดสินใจครับ เพื่อความเข้าใจจะขอเขียนเป็นข้อๆให้นะครับ
1 คำถาม: เรื่องเด็กน้อยคนนั้น จนปัจจุบันนี้ พี่เคนยังไม่เคยเล่าให้พ่อแม่ หรือเพื่อนคนไหนฟังเลย ซึ่งถ้าเล่าละก็มันคงยาวเหมือนที่ผมพยายามอธิบายมาตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นสถานะแม่บุญธรรม หรือแม่จริงๆก็ตาม พี่เคนควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีครับ????
2.คำถาม: พี่เจนนี่ชอบทะเลาะกับพี่เคน ด้วยนิสัยที่พี่เคนเป็นคนไม่ได้แสวงหาความสำเร็จ แต่เป็นการหาความสุขในการใช้ชีวิต จึงทำให้การใช้ชีวิตประจำวันมันมีความน่าเบื่อ ราบเรียบ จนรู้สึกไม่มีอะไรเลย....ฟังดูมันไม่อะไรมากนะครับ แต่พอคิดดีๆ มันคือการมองเป้าหมาย และการเข้าใจควาทรุ้สึก และให้เกียรติของแต่ละฝ่ายนะครีบ ซึ่งพี่เคนควรจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไรดีครับ????
3.คำถาม: ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ พี่เคนรุ้สึกเป็นฝ่ายที่เสียสละมากกว่า จนถึงจุดที่เขาถามตัวเองว่า ทำไมเราเอาใจคนอื่นมาอยุ่หน้าตัวเองตลอด จนจิตใจเริ่มอ่อนล้า เหนื่อยกับความสัมพันธ์ ซึ่งพี่เจนนี่ชัดเจนอยู่ว่า อยากได้แฟนที่ให้เงิน อยากได้แฟนที่คอยสนีบสนุนความคิดตัวเอง หรือคิดเหมือนกัน ซึ่งพี่เคนเข้าใจทุกอย่าง แต่ก็ช่วยในวิธีแบบของตัวเขาเอง ซึ่งมันจะจัดการกับความรุ้สึกอย่างไร????
4.คำถาม: ความสัมพันธ์ที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง Take มากกว่า Give อยู่ตลอด มันเป็นความรักที่สุขภาพดีจริงหรือป่าวววว???
ปล.ผมเชื่อนะว่า การให้เกียรติ และไม่ตัดสินความคิดของผู้อื่น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่คนเราจะอยุ่ร่วมกันจะต้องเข้าใจ
เพราะคนเรารักกันที่ เพราะ "ความชอบ" แต่จะอยู่ด้วยกันต้องรับ "ข้อเสียของอีกฝ่ายได้มากกว่า" (คิดไว้เลยว่า ถ้าต้องทะเลาะกับคนหน้าเดิมไปตลอดชีวิตจะยังรักและทนอยู่ได้ไหม 😄 )