ภาพยนต์หลายๆเรื่องในยุคนี้อาจจะมีหลากหลายคนเริ่มที่จะไม่อยากดูในโรง หรือ มักจะรอเข้าแพลตฟอร์มสตรีมมิงกันเยอะ แต่ด้วยเรื่องนี้จาก Nolan ผกก ระดับเทพที่มักจะทำภาพยนต์ออกมาที่มักจะต้องดูในโรงภาพยนต์จริงๆกันเพราะว่าเค้าสามารถ ขับศักยภาพของโรงหนังออกมาได้แบบสุด ทั้งเรื่องภาพ เรื่องเสียง และ เนื้อหาที่มันไปด้วยกันได้ในหลายๆครั้งถ้าพลาดชมในโรงภาพยนต์บอกเลยว่าเสียดายแน่ๆ และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมกล้าบอกว่า ถ้าไปดูในจอที่บ้าน หรือ รอออกจากโรง จะเสียใจแน่นอนครับ ทั้งเรื่องภาพ สัดส่วนในโรง IMAX ที่มากกว่าโรงปกติ และ เรื่องเสียงในโรง IMAX ที่จัดเต็ม เก้าอี้สั่น แนะนำโรง Paragon / Icon Siam ภาพจะสว่าง ลำโพงจะดีกว่าโรงอื่นๆครับ เป็นการดูหนังที่สุดมากๆ กล้าบอกว่ามันใช้ IMAX ได้คุ้มค่ามากที่สุดเรื่องนึงในปีนี้เลยก็ว่าได้ครับ อีกทั้งการที่เค้าใช้ ฟิลม์ 70 มม.ถ่าย และ ขาวดำ รวมถึงการไม่ใช้ CGI ในเรื่องนี้ คุณภาพตัวภาพที่ออกมาคือคมชัดและเนียนตามากๆ แม้ว่าเครื่องฉายในไทยจะไม่สุดแบบเมืองนอกที่สัดส่วนเต็มแบบฟิลม์ แต่ก็ดีกว่าโรงทั่วไปหลายเท่า
เนื้อเรื่องต้องบอกว่า อัดแน่นเนื้อหา และ บทพูดเยอะมาก ใครที่ตามไม่ทันหรือไม่ค่อยรู้จักตัวละคร อาจจะต้องใส่ใจในหลายๆบทพูดพอสมควร แต่ดูง่ายกว่าหนังของ Nolan เรื่องอื่นๆ ในเรื่องนี้เป็นในเชิง สารคดี หรือ หนัง ชีวประวัติได้เลยครับไม่ยุ่งยาก แต่เล่าสนุกและไหลลื่นไม่มึนอะไรนักคนที่ไม่ได้ตามเรื่อง ระเบิด หรือ สายฟิสิกส์ก็สามารถดูเข้าใจได้ครับ แต่ถ้าศึกษาเรื่องแนวนี้ หรือ ตามอยู่จะยิ่งอินไปมากกว่าเดิมในหลายๆตัวละครที่โผล่ขึ้นมาและอิงเรื่องจริงด้วย เรื่องเนื้อหาแน่นทั้ง การเมืองช่วงท้าย บทพูดที่มีนัยยะมากมาย และ การเล่าเรื่องราวของระเบิดที่กว่าจะมาเป็นแบบนี้ได้ยังไงที่เล่าสลับไปมาระหว่าง ก่อนทำระเบิด หลังทำ และ ช่วงตอนที่กำลังพัฒนา ได้ดีไม่ง่วงเท่าไรครับ ส่วนตัวบทตัวละครเยอะมาก แต่สามารถกระจายเป็นช่วงๆได้ดี ไม่มีอาการแผ่วและยิ่งเข้มข้นขึ้นในช่วงหลังๆไปอีก แต่ถ้าใครไม่ใช่สายบทแน่นๆแบบนี้เราจะเจอกับเนื้อหา บทพูด สาระความรู้แน่นๆไปทั้งหมด 3 ชั่วโมงแบบนี้มีง่วงได้บ้าง
ในแง่ของนักแสดงเป็นเรื่องที่นักแสดงเยอะมากแน่นมากและแต่ละคนคือระดับท็อปๆทั้งหมด แต่หนังสามารถกระจายบทในแต่ละช่วงเวลา ในแต่ละส่วนได้แบบลงตัว มีเด่นให้จดจำเยอะแยะมากอีกทั้ง นักแสดงนำอย่าง และ Cillian Murphy และ Robert Downey Jr. รวมถึง Emily Blunt แสดงได้จัดเต็ม สามารถเอาอยู่ได้ในหลายๆซีน และมีลุ้น Oscar ได้เลยครับ รวมถึงนักแสดงเสริมอีกมากมายที่เราคุ้นตากันแน่นอน ซึ่งในหนังที่บทพูดประชันกันแบบนี้เป็นจุดนึงที่เราจะเห็นการแสดงของนักแสดงหลายๆคนได้แบบเต็มที่ สีหน้า แววตา อารมณ์ซึ่งจุดนี้บทส่งให้นักแสดงหลายๆคนสามารถมีซีนได้ดีมาก ซึ่ง Nolan ผกก เค้าเก่งในแง่ของการส่งนักแสดงมากๆ และเรื่องนี้ก็สามารถทำได้ดี
ส่วนเรื่องงานภาพ และ เสียง ที่เราทราบกันมาก่อนว่า Nolan เองเนี่ยไม่ชอบใช้ CG และ ชอบใช้อะไรจริงๆ แม้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ ระเบิดนิวเคลียร์จริงๆ แต่ก็ไม่มีการใช้ CGI เลยครับ จำลองด้วยเทคนิคจริงทั้งหมดทุกฉากบอกเลยว่ามันสุดมากๆรวมถึง งานภาพที่ใช้ IMAX 70MM ถ่ายจริงๆ ในหลายๆฉาก และ เป็นขาวดำเรื่องแรกที่ใช้ IMAX Flim ด้วย ซึ่งการที่ใช้กล้องแบบนี้มันจะมีภาพที่คมชัดมากก แตกต่างกับหนังเรื่องอื่นๆ และ สัดส่วนภาพเต็มจอ IMAX ที่อลังการกว่าโรงทั่วไป รวมถึงการทำโทนสีในแต่ละยุคสมัยที่เล่าเรื่องผสมกันได้แบบลงตัว ขาวดำบ้าง โทนย้อนยุคบ้าง หรือ ยุคหลังสงครามบ้าง เราสามารถดูออกและทำโทนสีออกมาสวยมากๆครับ รวมถึงดีเทลงาน Production คือเนียนสวย และ อลังการ และที่ยอมเลยคือเรื่องเสียง ดีเทลเสียงระเบิด ดนตรีประกอบในหนัง ดีเทลเสียงดี แน่น และ เบสที่สั่นโรงที่นั่งได้ครับ แนะนำ 2 สาขาที่ลำโพงจะมากกว่าโรง IMAX อื่นๆ และ ทิศทางเสียงดีกว่าแน่นอน ถ้าไปโรงทั่วไป เก้าอี้อาจจะไม่สั่นแบบนี้ครับ แต่เรื่องนี้ใช้ IMAX ได้คุ้มค่าที่สุดในปีนี้เลยจริงๆแนะนำ
แน่นอนว่า Nolan เองนั้นทำหนังแต่ละเรื่องออกมานั้นอาจจะดูยาก หรือเป็นแนวเฉพาะจริงๆ อาจจะมีแค่บางเรื่องเช่น ไตรภาค Batman ที่อาจจะพอดูง่ายครับ แต่ในเรื่องนี้ก็อาจจะพูดได้ว่าเข้าใจง่ายกว่าเรื่องอื่นๆเพราะไปในแง่ของ ชีวประวัติมากกว่า ไม่มีแอคชั่น หรือ อะไรซับซ้อนมากนัก และ การใส่ใจงานโปรดักชั่น งานภาพ งานเสียงที่เค้าสื่อออกมาได้ดีมากๆในหลายๆเรื่องซึ่งถ้าไม่ดูในโรงหนังแบบนี้ เราจะไม่เจอประสบการณ์แบบนี้ได้เลยถ้าดูที่บ้านเราครับ ตัวหนังเอง ก็อาจจะมีบางจุดที่ไม่ได้เป๊ะมากเพราะเปิดมาก็ใส่เนื้อหามาเลยยาว 3 ชั่วโมงซึ่งอาจจะมีบางช่วงที่หลุดได้ครับ แต่ถ้าใครอินเรื่องแนวนี้ สนใจเรื่องแบบนี้ผมว่าไม่ได้น่าเบื่อหรือง่วงแน่ๆในหลายๆจังหวะ เสพงานภาพ งานเสียงก็คุ้ม และ ยิ่งได้รู้ประวัตหลายๆอย่าง การเมืองในยุคสมัยนั้น การแข่งกันในหลายๆประเทศ และ ความไว้ใจในแต่ละประเทศ การเล่นแง่หลายๆอย่างก็เล่าได้ดี สลับจังหวะหนังได้ดีครับ เป็นอีกเรื่องที่แนะนำและอยากให้ลองกับ IMAX
[CR] รีวิว OPPENHEIMER หนังที่ใช้โรง IMAX ได้คุ้มค่าที่สุด ภาพ เสียง เนื้อหาแน่น !
ภาพยนต์หลายๆเรื่องในยุคนี้อาจจะมีหลากหลายคนเริ่มที่จะไม่อยากดูในโรง หรือ มักจะรอเข้าแพลตฟอร์มสตรีมมิงกันเยอะ แต่ด้วยเรื่องนี้จาก Nolan ผกก ระดับเทพที่มักจะทำภาพยนต์ออกมาที่มักจะต้องดูในโรงภาพยนต์จริงๆกันเพราะว่าเค้าสามารถ ขับศักยภาพของโรงหนังออกมาได้แบบสุด ทั้งเรื่องภาพ เรื่องเสียง และ เนื้อหาที่มันไปด้วยกันได้ในหลายๆครั้งถ้าพลาดชมในโรงภาพยนต์บอกเลยว่าเสียดายแน่ๆ และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมกล้าบอกว่า ถ้าไปดูในจอที่บ้าน หรือ รอออกจากโรง จะเสียใจแน่นอนครับ ทั้งเรื่องภาพ สัดส่วนในโรง IMAX ที่มากกว่าโรงปกติ และ เรื่องเสียงในโรง IMAX ที่จัดเต็ม เก้าอี้สั่น แนะนำโรง Paragon / Icon Siam ภาพจะสว่าง ลำโพงจะดีกว่าโรงอื่นๆครับ เป็นการดูหนังที่สุดมากๆ กล้าบอกว่ามันใช้ IMAX ได้คุ้มค่ามากที่สุดเรื่องนึงในปีนี้เลยก็ว่าได้ครับ อีกทั้งการที่เค้าใช้ ฟิลม์ 70 มม.ถ่าย และ ขาวดำ รวมถึงการไม่ใช้ CGI ในเรื่องนี้ คุณภาพตัวภาพที่ออกมาคือคมชัดและเนียนตามากๆ แม้ว่าเครื่องฉายในไทยจะไม่สุดแบบเมืองนอกที่สัดส่วนเต็มแบบฟิลม์ แต่ก็ดีกว่าโรงทั่วไปหลายเท่า
เนื้อเรื่องต้องบอกว่า อัดแน่นเนื้อหา และ บทพูดเยอะมาก ใครที่ตามไม่ทันหรือไม่ค่อยรู้จักตัวละคร อาจจะต้องใส่ใจในหลายๆบทพูดพอสมควร แต่ดูง่ายกว่าหนังของ Nolan เรื่องอื่นๆ ในเรื่องนี้เป็นในเชิง สารคดี หรือ หนัง ชีวประวัติได้เลยครับไม่ยุ่งยาก แต่เล่าสนุกและไหลลื่นไม่มึนอะไรนักคนที่ไม่ได้ตามเรื่อง ระเบิด หรือ สายฟิสิกส์ก็สามารถดูเข้าใจได้ครับ แต่ถ้าศึกษาเรื่องแนวนี้ หรือ ตามอยู่จะยิ่งอินไปมากกว่าเดิมในหลายๆตัวละครที่โผล่ขึ้นมาและอิงเรื่องจริงด้วย เรื่องเนื้อหาแน่นทั้ง การเมืองช่วงท้าย บทพูดที่มีนัยยะมากมาย และ การเล่าเรื่องราวของระเบิดที่กว่าจะมาเป็นแบบนี้ได้ยังไงที่เล่าสลับไปมาระหว่าง ก่อนทำระเบิด หลังทำ และ ช่วงตอนที่กำลังพัฒนา ได้ดีไม่ง่วงเท่าไรครับ ส่วนตัวบทตัวละครเยอะมาก แต่สามารถกระจายเป็นช่วงๆได้ดี ไม่มีอาการแผ่วและยิ่งเข้มข้นขึ้นในช่วงหลังๆไปอีก แต่ถ้าใครไม่ใช่สายบทแน่นๆแบบนี้เราจะเจอกับเนื้อหา บทพูด สาระความรู้แน่นๆไปทั้งหมด 3 ชั่วโมงแบบนี้มีง่วงได้บ้าง
ในแง่ของนักแสดงเป็นเรื่องที่นักแสดงเยอะมากแน่นมากและแต่ละคนคือระดับท็อปๆทั้งหมด แต่หนังสามารถกระจายบทในแต่ละช่วงเวลา ในแต่ละส่วนได้แบบลงตัว มีเด่นให้จดจำเยอะแยะมากอีกทั้ง นักแสดงนำอย่าง และ Cillian Murphy และ Robert Downey Jr. รวมถึง Emily Blunt แสดงได้จัดเต็ม สามารถเอาอยู่ได้ในหลายๆซีน และมีลุ้น Oscar ได้เลยครับ รวมถึงนักแสดงเสริมอีกมากมายที่เราคุ้นตากันแน่นอน ซึ่งในหนังที่บทพูดประชันกันแบบนี้เป็นจุดนึงที่เราจะเห็นการแสดงของนักแสดงหลายๆคนได้แบบเต็มที่ สีหน้า แววตา อารมณ์ซึ่งจุดนี้บทส่งให้นักแสดงหลายๆคนสามารถมีซีนได้ดีมาก ซึ่ง Nolan ผกก เค้าเก่งในแง่ของการส่งนักแสดงมากๆ และเรื่องนี้ก็สามารถทำได้ดี
ส่วนเรื่องงานภาพ และ เสียง ที่เราทราบกันมาก่อนว่า Nolan เองเนี่ยไม่ชอบใช้ CG และ ชอบใช้อะไรจริงๆ แม้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ ระเบิดนิวเคลียร์จริงๆ แต่ก็ไม่มีการใช้ CGI เลยครับ จำลองด้วยเทคนิคจริงทั้งหมดทุกฉากบอกเลยว่ามันสุดมากๆรวมถึง งานภาพที่ใช้ IMAX 70MM ถ่ายจริงๆ ในหลายๆฉาก และ เป็นขาวดำเรื่องแรกที่ใช้ IMAX Flim ด้วย ซึ่งการที่ใช้กล้องแบบนี้มันจะมีภาพที่คมชัดมากก แตกต่างกับหนังเรื่องอื่นๆ และ สัดส่วนภาพเต็มจอ IMAX ที่อลังการกว่าโรงทั่วไป รวมถึงการทำโทนสีในแต่ละยุคสมัยที่เล่าเรื่องผสมกันได้แบบลงตัว ขาวดำบ้าง โทนย้อนยุคบ้าง หรือ ยุคหลังสงครามบ้าง เราสามารถดูออกและทำโทนสีออกมาสวยมากๆครับ รวมถึงดีเทลงาน Production คือเนียนสวย และ อลังการ และที่ยอมเลยคือเรื่องเสียง ดีเทลเสียงระเบิด ดนตรีประกอบในหนัง ดีเทลเสียงดี แน่น และ เบสที่สั่นโรงที่นั่งได้ครับ แนะนำ 2 สาขาที่ลำโพงจะมากกว่าโรง IMAX อื่นๆ และ ทิศทางเสียงดีกว่าแน่นอน ถ้าไปโรงทั่วไป เก้าอี้อาจจะไม่สั่นแบบนี้ครับ แต่เรื่องนี้ใช้ IMAX ได้คุ้มค่าที่สุดในปีนี้เลยจริงๆแนะนำ
แน่นอนว่า Nolan เองนั้นทำหนังแต่ละเรื่องออกมานั้นอาจจะดูยาก หรือเป็นแนวเฉพาะจริงๆ อาจจะมีแค่บางเรื่องเช่น ไตรภาค Batman ที่อาจจะพอดูง่ายครับ แต่ในเรื่องนี้ก็อาจจะพูดได้ว่าเข้าใจง่ายกว่าเรื่องอื่นๆเพราะไปในแง่ของ ชีวประวัติมากกว่า ไม่มีแอคชั่น หรือ อะไรซับซ้อนมากนัก และ การใส่ใจงานโปรดักชั่น งานภาพ งานเสียงที่เค้าสื่อออกมาได้ดีมากๆในหลายๆเรื่องซึ่งถ้าไม่ดูในโรงหนังแบบนี้ เราจะไม่เจอประสบการณ์แบบนี้ได้เลยถ้าดูที่บ้านเราครับ ตัวหนังเอง ก็อาจจะมีบางจุดที่ไม่ได้เป๊ะมากเพราะเปิดมาก็ใส่เนื้อหามาเลยยาว 3 ชั่วโมงซึ่งอาจจะมีบางช่วงที่หลุดได้ครับ แต่ถ้าใครอินเรื่องแนวนี้ สนใจเรื่องแบบนี้ผมว่าไม่ได้น่าเบื่อหรือง่วงแน่ๆในหลายๆจังหวะ เสพงานภาพ งานเสียงก็คุ้ม และ ยิ่งได้รู้ประวัตหลายๆอย่าง การเมืองในยุคสมัยนั้น การแข่งกันในหลายๆประเทศ และ ความไว้ใจในแต่ละประเทศ การเล่นแง่หลายๆอย่างก็เล่าได้ดี สลับจังหวะหนังได้ดีครับ เป็นอีกเรื่องที่แนะนำและอยากให้ลองกับ IMAX
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้