เลเซอร์หน้า pico ดีจริงมั้ย แล้วตัวไหนดี

เราอยากเลเซอร์หน้า เพราะมีรอยสิว หลุมสิว รูขุมขนกว้าง อยากหน้าใสๆแบบคนอื่นบ้างค่ะ
...ใครเคยทำตัวไหนแล้วผลลัพธ์ออกมาดี บอกเราหน่อยนะคะ

- ทำ Pico laser ตัวไหนดี
- ใช้เครื่องรุ่นอะไร
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนครับว่า Pico laser หรือ Picosecond laser แบ่งเป็นความยาวคลื่น 2 ประเภทครับ คือ 755nm และ 1064nm ซึ่ง Pico ทั้งสองประเภทนี้ก็จะมีความเก่งไม่เหมือนกัน

- 755nm เหมาะกับการจัดการปัญหาสีผิวที่เกิดจากเมลานิน เช่น รอยดำสิว ปาน ฝ้า กระ ไฝ เพราะเลเซอร์ใน wavelength (ความยาวคลื่น) 755nm มันจะจับเฉพาะสีดำ และแทบไม่จับสีแดง เพราะงั้นยิงเข้าไปในผิวแล้ว พวกฝ้า กระ ก็จะถูกให้ระเบิดหรือระเหิดไปโดยที่ไม่ไปจับพวกเส้นเลือด (สีแดง) ซึ่งการใช้ 1064nm ในการกำจัดเม็ดสีนั้น ความสามารถในการจับสีดำของ 1064nm นั้นต่ำกว่า 755nm ประมาณ 3 เท่า (ดูตารางด้านล่าง) ซึ่งหมายความว่า พลังงานที่ใช้ยิงเพื่อให้ได้ผลเท่ากับ 755nm ก็ต้องสูงขึ้นอย่างน้อย 3 เท่า ซึ่งก็จะทำให้ระดับการจับเส้นเลือดมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมหลังทำ Pico แบบ 1064nm แล้วหน้าจะต้องเลือดสาด เพราะเมื่อหมอจะต้องใส่พลังงานระดับนั้นเข้าไปทั่วหน้า เส้นเลือดจะถูกทำให้เกิดบาดแผลเป็นจุดเลือดออกจำนวนมากนั่นเอง แต่หลังทำด้วย 755nm ผิวหน้าก็จะแค่แดงระเรื่อๆ อมชมพู อย่างมากกว่าแดงมะเขือเทศไปซัก 2-3 ชั่วโมงก็หายแดง ไมทิ้งร่องรอยใดๆ เอาไว้กวนใจ

- 1064nm เหมาะกับการจัดการเรื่องประเภทหลุมสิว ผิวหน้าขรุขระมากกว่า 755nm ถ้าพูดง่ายๆ ก็คือ อำนาจการทะลุทลวงของ 1064nm ที่จะไปจัดการกับมีมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นในการรักษาปัญหาพวกหลุมบนหน้า และการที่เลือดจะสาดเพื่อการรักษาหลุมนั้นก็เป็นเรื่องปกติ แต่แน่นอน เมื่อไหร่ก็ตามที่ผิวหนังมีบาดแผล โอกาสของการเกิดแผลเป็นหรือรอยดำก็มีมากขึ้น แต่ด้วยความที่ Pico laser เป็นเทคโนโลยีที่ทำงานโดยไม่เกิดความร้อนในผิว ก็เป็นการลดโอกาสในการเกิดรอยดำ
** จริงๆ แล้ว เครื่องที่ดีกว่า Pico laser ในการจัดการหลุมสิวคือพวกเครื่อง Erbium YAG เพราะการเจียผิวโดยรอบหลุมนั้นทำได้สวยกว่ามาก คมกว่า เป็นเทคโนโลยีที่มีตามโรงเรียนแพทย์ชั้นนำ เป็นเครื่องที่เน้นการรักษาโรค เช่น รักษาหลุมสิว ตัดติ่งเนื้อ ฯลฯ (เป็นเทคโนโลยีที่มาทดแทน CO2) แต่เนื่องจาก Erbium YAG เป็นเครื่องที่ทำให้ผิวเกิดความร้อน จึงทำให้มีโอกาสเกิดรอยดำหลังทำได้**



สรุปแล้ว คนที่ต้องการจัดการเรื่องเม็ดสี ควรมองหาคลินิกที่ใช้ Pico laser แบบ 755nm ใครที่อยากจัดการเรื่องความเรียบของผิว โดยเฉพาะเรื่องหลุมสิว ผิวส้ม ก็ใช้ 1064nm แค่ขอให้เข้าใจว่า Pico มันแยกเป็น 2 ประเภท ไม่ใช่เอะอะทำไปโดยไม่รู้อะไรเลย จะโดนคลินิกหลอกเอาครับ

ในตลาดปัจจุบัน เท่าที่ศึกษามา Pico ทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะอิตาลี อเมริกา เกาหลี จะเป็น 1064nm ทั้งหมด (Discovery / Enlighten / PicoPlus / Pico Care ฯลฯ) จะมีแค่ PicoSure ที่เป็นของอเมริกา ที่เป็น Pico 755nm ครับ (ผมขอไม่พูดถึง Pico ปลอมนะครับ พวกนั้นน่าจะไม่ใช่ Pico ใดๆ เลย เป็นแค่เครื่องอะไรก็ไม่รู้แล้วอ้างว่าตัวเองเป็น Picosecond laser)

แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมคลินิกที่มี pico laser (เอาแค่เครื่องแท้ๆ มีอย. นะครับ) จะมีแต่ pico แบบ 1064nm? ทำไม Picosure ที่เป็น 755nm มันไม่นิยมเหรอ? คำตอบง่ายๆ (ที่คลินิกอาจจะไม่อยากให้รู้) ก็คือ เครื่องพวก Discovery ที่เป็น 1074nm นั้นมันทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะกำจัดเม็ดสี รูขุมขน ผิวขรุขระ มันเลยคุ้มค่าการลงทุน แต่มันก็เป็นเป็ดครับ ทำได้ทุกอย่างแต่ไม่เก่งที่สุดซักอย่าง และอีกอย่างก็คือ เครื่องพวก 1064nm มันไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้แล้วต้องเปลี่ยนเหมือน 755nm เพราะฉะนั้น ในแง่ของการลงทุน มันคุ้มกับคลินิกที่จะเอา 1064nm มาลงมากกว่า 755nm ครับ

และๆๆๆ สำคัญที่สุดนอกจากการเลือกระหว่าง 755 กับ 1064 นั้น ก็คือความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ทำการรักษาให้กับเรานะครับ ของพวกนี้มันต้องมีชั่วโมงบินสูงพอสมควรเพื่อให้ทำการรักษาได้ออกมาอย่างที่ควรเป็น คือ ปลอดภัย และ เห็นผล เครื่องแท้ๆ ของเมกากับยุโรปส่วนใหญ่ราคา 4-5 ล้านอัพทั้งนั้น ไม่มีคลินิกไหนที่ใช้ของระดับนั้นแล้วมาคิดราคา 999.-/ครั้งหรอก อย่าหลอกตัวเองเลยครับ ถ้าจ่ายไม่ไหวก็อย่าทำซะจะดีกว่า เพราะผลลัพธ์ที่จะได้มาจากการทำ Pico ปลอมนั้น ตอนแก้มันจะแพงกว่าเยอะมากครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่