Living with Yourself: ชีวิตติดเซลฟ์
Creator - Timothy Greenberg
ล่าสุด ได้รับชมซีรีส์ขนาดสั้น (ตอนละ 26 นาที) บน Netflix เรื่อง
Living with Yourself (2019) ปรากฏว่า
"ประทับใจมาก" ซีรีส์มีจุดที่ชอบหลายอย่าง จนต้องมาเขียนรีวิวทิ้งไว้สักหน่อย
เรื่องย่อ
LIVING WITH YOURSELF Trailer (2019) Paul Rudd, Netflix Series
"ไมล์ส" (Paul Rudd) ชายวัยกลางคนที่มีชีวิตน่าเบื่อหน่าย เขากำลังประสบปัญหารุมเร้า ทั้งจากหน้าที่การงานและปัญหากับภรรยา
วันหนึ่งไมล์สได้รับคำเชิญให้ไปที่สปาลึกลับ ซึ่งทุกคนที่ใช้บริการต่างบอกว่า
"ชีวิตพวกเขาดีขึ้น" หลังจากเข้าสปาแห่งนี้
ทุกอย่างดูไปได้สวย ทว่าปัญหากลับเกิด เมื่อหลังออกจากสปา ไมล์สดันพบว่า บนโลกนี้ไม่ได้มี "ไมล์ส" แค่คนเดียว แต่ยังมีไมล์สในอีกเวอร์ชันตามมาอีกด้วย !
ความรู้สึกหลังชม
- จุดแรกที่ชอบ ขกยกให้เรื่อง
"Big idea" ซีรีส์มีไอเดียเรื่องที่แปลกและว้าวในโทนไซไฟ - โรแมนติกคอมเมดี้ ทั้งยังจับเราได้ตั้งแต่โมเมนต์แรกไปจนถึงฉากสุดท้ายของเรื่อง เพื่อที่จะตามดูว่า จนแล้วจนรอด ชีวิตของ
"ไมล์ส" ในเวอร์ชั่นใหม่และเก่าจะจบลงอย่างไร
- ประเด็นที่สำคัญที่สุด คือ
การสร้างสถานการณ์ความวายป่วงของ "ไมล์ส" ในสองเวอร์ชั่น
เวอร์ชั่นเก่า เป็นไมล์สที่น่าเบื่อ แต่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับภรรยามายาวนาน ขณะที่ไมล์สในเวอร์ชั่นใหม่ สดใส สมาร์ท เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา เป็นคนดีชนิดที่เวอร์ชั่นเก่าเทียบไม่ติด หากแต่เขาไม่ได้เป็นต้นฉบับ
เช่นนั้นแล้ว เวอร์ชั่นไหนคือสิ่งที่ดีกว่า และเป็นสิ่งที่
"เคต" (ภรรยาของไมล์ส) เฝ้าตามหา ไมล์สในเวอร์ชั่นเก่าจะเอาชนะเวอร์ชั่นใหม่ได้ไหม ?
ซีรีส์เล่าถึงประเด็นนี้ได้อย่างน่าประทับใจ !
- วิธีการดำเนินเรื่องในแต่ละตอน ถือว่าน่าสนใจ ซีรีส์จะเปิดสตอรี่เข้าที่กลางเรื่องเสมอ เพื่อสร้างความสงสัยให้กับผู้ชม ก่อนที่จะ Flash back ย้อนกลับไปที่ต้นเรื่อง และดำเนินเรื่องมาบรรจบกับสิ่งที่ทิ้งเอาไว้ให้เราสงสัยในช่วงแรก
จุดนี้ช่วยเพิ่มความสร้างสรรค์ในการดำเนินเรื่อง และทำให้แต่ละตอนไม่น่าเบื่อด้วย narrative ที่เฉียบคม นอกจากนี้ ยังมีมุกตลกหลาย ๆ ช็อตที่หยอดเข้ามาด้วยจังหวะที่แม่นยำ ทำให้เราอมยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง
- ซีรีส์ให้บทสรุปที่ดี เกี่ยวกับ
"การอยู่บนความพอดี" และอย่าลืมที่จะพัฒนาตัวเอง ควบคู่ไปกับการรักษาตัวตน
"ตัวตน" คือเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร มันเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจและทำให้ทุกคนรู้ว่า
"เราเป็นเรา" ขณะเดียวกัน ก็อย่าลืมปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อคนที่เรารัก
-
Paul Rudd แสดงได้โดดเด่น โดยเฉพาะการเล่นเป็น
"ไมล์ส" ในสองเวอร์ชั่น แถมด้วยมีซีนดราม่าที่น่าประทับใจ (พอลได้ชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากบทนี้ด้วย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ซีนที่ไมล์สและเคตเต้นรำกันในบ้าน ฮามาก
Living With Yourself Full Dance Scene
สรุป - เป็นซีรีส์ Original Netflix ที่เชียร์ให้ทุกคนได้ดู ซีรีส์มีมีประเด็นที่สร้างสรรค์ กระชับสั้น ด้วยโทนคอมเมดี้ที่ขบขัน (ฟีลลิ่งคล้าย ๆ เรื่อง Beef ผสม)
ดังนั้นใครสนใจแนะนำเลย ดูได้บน Netflix!
____________________________________
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพูดคุยติดต่อ
IG: benjireview
Living with Yourself (2019) - สู้ไหวไหม ถ้ามีเราในเวอร์ชั่นที่ดีกว่ามาเป็นคู่แข่ง ?
เรื่องย่อ
วันหนึ่งไมล์สได้รับคำเชิญให้ไปที่สปาลึกลับ ซึ่งทุกคนที่ใช้บริการต่างบอกว่า "ชีวิตพวกเขาดีขึ้น" หลังจากเข้าสปาแห่งนี้
ทุกอย่างดูไปได้สวย ทว่าปัญหากลับเกิด เมื่อหลังออกจากสปา ไมล์สดันพบว่า บนโลกนี้ไม่ได้มี "ไมล์ส" แค่คนเดียว แต่ยังมีไมล์สในอีกเวอร์ชันตามมาอีกด้วย !
ความรู้สึกหลังชม
- จุดแรกที่ชอบ ขกยกให้เรื่อง "Big idea" ซีรีส์มีไอเดียเรื่องที่แปลกและว้าวในโทนไซไฟ - โรแมนติกคอมเมดี้ ทั้งยังจับเราได้ตั้งแต่โมเมนต์แรกไปจนถึงฉากสุดท้ายของเรื่อง เพื่อที่จะตามดูว่า จนแล้วจนรอด ชีวิตของ "ไมล์ส" ในเวอร์ชั่นใหม่และเก่าจะจบลงอย่างไร
- ประเด็นที่สำคัญที่สุด คือ การสร้างสถานการณ์ความวายป่วงของ "ไมล์ส" ในสองเวอร์ชั่น
เวอร์ชั่นเก่า เป็นไมล์สที่น่าเบื่อ แต่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับภรรยามายาวนาน ขณะที่ไมล์สในเวอร์ชั่นใหม่ สดใส สมาร์ท เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา เป็นคนดีชนิดที่เวอร์ชั่นเก่าเทียบไม่ติด หากแต่เขาไม่ได้เป็นต้นฉบับ
เช่นนั้นแล้ว เวอร์ชั่นไหนคือสิ่งที่ดีกว่า และเป็นสิ่งที่ "เคต" (ภรรยาของไมล์ส) เฝ้าตามหา ไมล์สในเวอร์ชั่นเก่าจะเอาชนะเวอร์ชั่นใหม่ได้ไหม ?
ซีรีส์เล่าถึงประเด็นนี้ได้อย่างน่าประทับใจ !
จุดนี้ช่วยเพิ่มความสร้างสรรค์ในการดำเนินเรื่อง และทำให้แต่ละตอนไม่น่าเบื่อด้วย narrative ที่เฉียบคม นอกจากนี้ ยังมีมุกตลกหลาย ๆ ช็อตที่หยอดเข้ามาด้วยจังหวะที่แม่นยำ ทำให้เราอมยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง
- ซีรีส์ให้บทสรุปที่ดี เกี่ยวกับ "การอยู่บนความพอดี" และอย่าลืมที่จะพัฒนาตัวเอง ควบคู่ไปกับการรักษาตัวตน
"ตัวตน" คือเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร มันเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจและทำให้ทุกคนรู้ว่า "เราเป็นเรา" ขณะเดียวกัน ก็อย่าลืมปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อคนที่เรารัก
- Paul Rudd แสดงได้โดดเด่น โดยเฉพาะการเล่นเป็น "ไมล์ส" ในสองเวอร์ชั่น แถมด้วยมีซีนดราม่าที่น่าประทับใจ (พอลได้ชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากบทนี้ด้วย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดังนั้นใครสนใจแนะนำเลย ดูได้บน Netflix!