การเลือกนเรียนคณะ EneT-B หรือคณะเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ด้านกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์ นั้นเป็นเสมือนการเรียนทั้งสองอย่างก็คือทางด้านวิศวกรรมและนิเทศ production
ก็คือจะมีวิชาทางด้านนิเทศคือ วิชาเกี่ยวกับ การตัดต่อภาพโดยใช้โปรแกรมต่าง ๆ ของ Adobe ซึ่งเป็นวิชาที่ผมเห็นว่าไม่ค่อยมีประโยชน์เพราะว่าที่สอนส่วนมากเป็นการเอา template มาจากเว็ปแล้วมาทำการแก้เล็กน้อย มีวิชาปั้น 3D จาก Blender มีการทำการสร้างภาพยนตร์แต่ไม่ได้มีกล้องหรืออุปกรณ์ให้นะ มีวิชาจัดแสงเวทีและอื่น ๆ
ต่อมาทางด้านวิศวกรรมก็จะเรียนพื้นฐานอิเล็กทั่วไปช่วงปีหนึ่ง ปีสองเช่น เช่น Electronic engineer Meterial , Meachanic Engineer และพวก cal1 2 3 etc แต่ปัญหาคือวิชาในส่วนของ electronic นั้นก็ไม่ได้เข้มข้นมากแต่จะเน้นไปที่ทางวิชาเฉพาะที่เป็นของ Broadcast เลยเช่นวิชา radio engineer ซึ่งทำให้เวลาจบมาทำงานทางด้านสาย electronic ตรง ๆ ไม่ได้เพราะไม่ได้เรียนจำพวก circuit design electromagnetic control system etc ซึ่งเป็นวิชาหลักของ electronic engineer ซึ่งก็อาจจะขัดแย้งกันเองบ้างเพราะว่าชื่อคณะคือ electronic engineer แต่จบมาทำงานเป็น electronic engineer ไม่ได้ซึ่งเทียบกับ electronic engineer ของทางมหาลัยอื่น ๆ แท้ ๆ ไม่ได้เลยแต่ก็เข้าใจได้เพราะว่าเน้นเรียนวิชาเฉพาะมากกว่าก็คือการ broadcasting ซึ่งจำพวกหลักของการเรียน broadcast ก็จะมี studio ไว้ใช้กระจายภาพไปทั่วมหาลัยเป็นคนคอยคุมอยู่ซึ่งไว้ให้นักศึกษาฝึกผน
.
.
ซึ่งหลักสูตรนี้เหมาะกับใครไม่เหมาะกับ
สำหรับคนที่เหมาะนั้นคือ
- คนที่อยากเรียนแล้วจบมาทำงานเกี่ยวกับทางด้านกระจายภาพและเสียงโดยตรงเลยตามสถานีโทรทัศน์ซึ่งจะเหมาะสมมาก
สำหรับคนที่ไม่เหมาะเลยก็คือ
- พวกที่อยากเรียนทางด้านนิเทศตรง ๆ ไม่เอาทางวิศวกรรมเลย
- พวกที่อยากเป็นสายทาง electronic engineer ตรง ๆ ไม่อ้อมเลยไม่สนพวกตัดต่อ พวกภาพ เสียง
- ความจริงก็ที่กล่าวมาก็อาจจะเป็นข้อเสียของคณะนี้ก็คือ " ไม่สุดสักทาง " หากตรงไปทางด้านวิศวกรรมเลยพวกวิชาด้าน production ก็จะด้อยมาก ๆ ถ้าไปด้าน production ก็ไม่สามารถเรียกได้เต็มปากว่าเป็นคณะวิศวกรรม
- ซึ่งตามความเห็นผมคือควรจะเน้นไปทางด้านวิศวกรรมเลยดีกว่าเพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นวิศวกรรมควรจะเรียนแค่ production พอใช้งานได้พอรู้เรื่องและเรียนเกี่ยวกับ electronic engineer มากกว่านี้เพราะจบมาก็ได้วุฒิ วศ.บ.
หวังว่าเป็นแนวทางสำหรับคนจะเข้าคณะนี้ได้ในอนาคต
พิจารณาก่อนมาเรียนคณะ EnET - B ของวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มจพ.
ก็คือจะมีวิชาทางด้านนิเทศคือ วิชาเกี่ยวกับ การตัดต่อภาพโดยใช้โปรแกรมต่าง ๆ ของ Adobe ซึ่งเป็นวิชาที่ผมเห็นว่าไม่ค่อยมีประโยชน์เพราะว่าที่สอนส่วนมากเป็นการเอา template มาจากเว็ปแล้วมาทำการแก้เล็กน้อย มีวิชาปั้น 3D จาก Blender มีการทำการสร้างภาพยนตร์แต่ไม่ได้มีกล้องหรืออุปกรณ์ให้นะ มีวิชาจัดแสงเวทีและอื่น ๆ
ต่อมาทางด้านวิศวกรรมก็จะเรียนพื้นฐานอิเล็กทั่วไปช่วงปีหนึ่ง ปีสองเช่น เช่น Electronic engineer Meterial , Meachanic Engineer และพวก cal1 2 3 etc แต่ปัญหาคือวิชาในส่วนของ electronic นั้นก็ไม่ได้เข้มข้นมากแต่จะเน้นไปที่ทางวิชาเฉพาะที่เป็นของ Broadcast เลยเช่นวิชา radio engineer ซึ่งทำให้เวลาจบมาทำงานทางด้านสาย electronic ตรง ๆ ไม่ได้เพราะไม่ได้เรียนจำพวก circuit design electromagnetic control system etc ซึ่งเป็นวิชาหลักของ electronic engineer ซึ่งก็อาจจะขัดแย้งกันเองบ้างเพราะว่าชื่อคณะคือ electronic engineer แต่จบมาทำงานเป็น electronic engineer ไม่ได้ซึ่งเทียบกับ electronic engineer ของทางมหาลัยอื่น ๆ แท้ ๆ ไม่ได้เลยแต่ก็เข้าใจได้เพราะว่าเน้นเรียนวิชาเฉพาะมากกว่าก็คือการ broadcasting ซึ่งจำพวกหลักของการเรียน broadcast ก็จะมี studio ไว้ใช้กระจายภาพไปทั่วมหาลัยเป็นคนคอยคุมอยู่ซึ่งไว้ให้นักศึกษาฝึกผน
.
.
ซึ่งหลักสูตรนี้เหมาะกับใครไม่เหมาะกับ
สำหรับคนที่เหมาะนั้นคือ
- คนที่อยากเรียนแล้วจบมาทำงานเกี่ยวกับทางด้านกระจายภาพและเสียงโดยตรงเลยตามสถานีโทรทัศน์ซึ่งจะเหมาะสมมาก
สำหรับคนที่ไม่เหมาะเลยก็คือ
- พวกที่อยากเรียนทางด้านนิเทศตรง ๆ ไม่เอาทางวิศวกรรมเลย
- พวกที่อยากเป็นสายทาง electronic engineer ตรง ๆ ไม่อ้อมเลยไม่สนพวกตัดต่อ พวกภาพ เสียง
- ความจริงก็ที่กล่าวมาก็อาจจะเป็นข้อเสียของคณะนี้ก็คือ " ไม่สุดสักทาง " หากตรงไปทางด้านวิศวกรรมเลยพวกวิชาด้าน production ก็จะด้อยมาก ๆ ถ้าไปด้าน production ก็ไม่สามารถเรียกได้เต็มปากว่าเป็นคณะวิศวกรรม
- ซึ่งตามความเห็นผมคือควรจะเน้นไปทางด้านวิศวกรรมเลยดีกว่าเพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นวิศวกรรมควรจะเรียนแค่ production พอใช้งานได้พอรู้เรื่องและเรียนเกี่ยวกับ electronic engineer มากกว่านี้เพราะจบมาก็ได้วุฒิ วศ.บ.
หวังว่าเป็นแนวทางสำหรับคนจะเข้าคณะนี้ได้ในอนาคต