จากเหตุการณ์ที่รถบรรทุกขับรถขวางรถพยาบาลจนทำให้น้องอายุเพียง 10 เดือนต้องเสียชีวิต ซึ่งตัวคุณแม่ก็ได้ให้สัมภาษณ์ในช่องข่าวหลายรายการ
เล่าคร่าวๆ แม่ได้บอกว่าน้องนั้นเป็นโรคตับแข็งมาตั้งแต่เกิด ต้องมีการเลือดบ่อยๆ แต่พอมากลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา น้องมีอาการกระอักเลือด เลยนำตัวไปส่งที่รพ.ชลบุรี ต่อมาได้มีการนำตัวส่งต่อไปรพ.รามาธิบดี โดยเส้นทางนั้นใช้เลี่ยงเมืองชลบุรี ขึ้นทางพิเศษบูรพาวิถี ไปลงอุรุพงษ์เพื่อนำตัวไปส่งที่รพ.รามาธิบดีต่อไป เนื่องจากพ่อของน้องได้มีการนัดเปลี่ยนถ่ายตับกัน 
แต่พอระหว่างทางบนถ.เลี่ยงเมืองชลบุรี ก็ได้มีรถบรรทุกคันหนึ่งขับแช่ขวาขวางรถฉุกเฉิน เป็นระยะทางมากกว่า 10 กม. เนื่องจากแม่ให้สัมภาษณ์ว่ารถบรรทุกขับขวางก่อนจะถ่ายคลิปซะอีก หลังจากนั้นอาการของน้องก็ยังไม่ดีขึ้น จนน้องมีอาการความดันตก ชีพจรตกต่ำ จนอาการเข้าขั้นวิกฤต จนต้องมาปั๊มหัวใจกลางทางพิเศษบูรพาวิถี และต้องส่งน้องเข้าไปรักษาฉุกเฉินที่รพ.รวมใจประชารักษ์ ที่อ.บางบ่อ สมุทรปราการ แต่สุดท้ายน้องก็เสียชีวิตลง ไม่อาจยื้อชีวิตไว้ได้

ทีนี้จุดที่น่าฉงนของคนขับรถบรรทุก เขาบอกมาว่าตอนน้ั้นเขากำลังฟังเพลงอยู่ ตรงนี้ไม่ทราบว่าใช้หูฟังด้วยหรือเปล่า แต่จุดปัญหาตรงนี้ก็คือว่า เขาเปิดหน้าต่างแล้วเอาแขนพาดหน้าต่างอยู่ขณะขับรถ ซึ่งแม่ได้บอกว่าเห็นแขนของเขาออกมานอกหน้าต่าง แล้วมาบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ซึ่งมันเป็นคำแก้ตัวเดิมๆ มุกเดิมๆ เสื่อมๆ ที่คนขวางรถฉุกเฉินใช้แก้ตัวกัน แล้วดูท่าทีไม่ได้หดหู่อะไรเลย

ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เขาเปิดหน้าต่าง เอาแขนพาด ไซเรนก็เปิด ไซเรนก็ดัง ต่อให้เสียบหูฟังฟังเพลง ยังไงก็ได้ยิน แสดงว่าคนขับรถบรรทุกไม่ได้สนใจอะไรเลย หรืออาจไม่มีจิตใจความเป็นมนุษย์แล้วก็ได้ 

นี่เป็นประเทศเดียวในโลกมั้ง ที่เจอรถฉุกเฉินแล้วขับแช่ไม่ยอมหลบ ไม่อยากพูดอะไนมากกว่านี้แล้ว สุดท้ายผมขอสาปแช่ง ขอประนามใครก็ตามที่ขับรถขวางรถฉุกเฉิน ขอให้มันไม่ตายดี แค่นี้