ธรรมดาสำหรับตัวผมและครอบครัว ค่อนข้างจะเป็นครอบครัวประชาธิปไตย ในครอบครัวผมใครจะรักใครชอบใคร หรือเลือกใครก็ได้
หน้าที่ผมคือ เมื่อถึงวันเลือกตั้ง ผมก็จะมีหน้าที่ขับรถพาทุกคนไปที่หน่วยเลือกตั้ง ส่วนใครหรือพรรคใดจะได้เสียงส่วนใหญ่ ว่ายังไงผมก็ว่าอย่างนั้น
และประวัติผมและครอบครัวนั้น จึงไม่เคยไปร่วมลงถนนกับม็อบฝ่ายใดๆเลย การตั้งกระทู้ของผมในวันนี้
จึงเป็นการตั้งกระทู้ในทัศนะของโหรฯแบบล้วนๆ ซึ่งผมเคยแสดงทัศนะทางในโหรฯ กับอาจารย์บางท่านในพันทิป
หลังจากที่ได้รู้ผลการเลือกตั้งในครั้งล่าสุดนี้แล้ว ว่าหลังจากวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๖ ของปีนี้ ทักษาจรของดวงเมืองนั้นตกภูมิพระราหู(๘)
ดังนั้นถ้าใครลองสังเกตดู ก็จะเห็นได้เลยว่า.. การเลือกตั้งในครั้งนี้ ค่อนข้างจะมีการประกาศผลรับรองการเลือกตั้งที่ช้ากว่าในทุกๆครั้ง
ทั้งที่รู้ผลการเลือกตั้งไปเป็นเดือนแล้ว สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ดาวพฤหัส(๕)ซึ่งเป็นดาวแห่งปัญญาวิชาการ ข้อกฎหมาย และการเมือง
ซึ่งในอดีตนั้นเป็นดาวอุตสาหะ(กิจกรรมในข้อกฎหมายวิชาการและการเมือง) กลายเป็นดาวกาลีจรในขณะนี้นั่นเอง
ถ้าสังเกตจากกาลจักร-ลัคณ์จรของดวงเมืองดู ก็จะเห็นได้ทันทีว่า ตั้งแต่วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๕ จนถึงวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๗๓
เป็นช่วงที่ลัคณ์จรของดวงเมือง กำลังโคจรเข้าสู่ราศีพิจิกซึ่งเป็นเรือนมรณะถึง ๘ ปี แต่จุดสำคัญอยู่ที่ปีนี้ครับ
เพราะเป็นปีที่ดาวพฤหัส(๕)เป็นกาลีจร เมื่อดูผังของลัคณาจรของดวงเมืองจากราศีพิจิกก็จะเห็นได้ว่า
ณ ขณะนี้ ดาวพฤหัส(๕)ซึ่งเป็นกาลีจรนั้น เป็นเจ้าเรือนกดุมภะจร และปุตตะจร
ว่าที่นายกรัฐมนตรีที่กำลังจะถูกเสนอชื่อ ในวันพฤหัส(พรุ่งนี้วันกาลีจรดวงเมือง)
ก็โดนเล่นงานเรื่องหุ้นมาโดยตลอด ทั้งข่าวเด็กนักเรียนปีนรั้วโรงเรียนที่ถูกโยงมาจากพรรคดังกล่าว
แล้วถ้าลองสังเกตกันให้ดีๆ ก็จะเห็นได้ทันทีเลยว่า บังเอิญผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี
ในวันพฤหัสบดี(วันกาลีจรดวงเมือง)คือวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖ นั้น ทั้งชื่อ ทั้งสีของพรรคก็ไปพ้องกับ ความหมายของดาวพฤหัส(๕)พอดี
ดังนั้น การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากในรัฐสภาในครั้งนี้ ย่อมมีสิทธิ์ที่จะพลิกผันได้สูง ยิ่งดาวพฤหัส(๕)เป็นดาวแห่งนักวิชากการ และข้อกฎหมาย
การแก้ข้อกฎหมายบางมาตราที่พรรคดังกล่าวใช้ในการหาเสียง จึงส่งผลร้าย จนเกิดการถกเถียง จนนำมาสู่คะแนนเสียงที่ไม่ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา
อีกทั้งดาวพฤหัส(๕)ซึ่งเป็นดาวกาลีจร ซึ่งปัจจุบันนั้นก็กำลังโคจรอยู่ในราศีเมษ(ลัคณาเดิมของดวงเมือง)
แต่ในขณะนี้ราศีเมษนั้น กลับกลายเป็นเรือนอริจร ราศีเมษนั้นเป็นราศีแห่งการเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่ง
เมื่อดาวพฤหัส(๕)เป็นกาลีจรอยู่ในเรือนดังกล่าว ในทัศนะของโหรฯบุคคลที่มาจากพรรคสีส้มดังกล่าว จึงไม่สามารถที่จะฝ่ากระแสของกาลีจรไปได้
อีกทั้งดาวอาทิตย์(๑)ซึ่งเป็นดาวกัมมะจรและเดชจรจากราศีสิงห์(อดีตเป็นเจ้าเรือนปุตตะ,เด็ก,ผู้เยาว์) ก็โคจรเป็นเพชฌฆาฏในราศีเมถุน(เรือนสังคมโลก)
การก้าวขึ้นเป็นใหญ่ในทางการเมือง จากว่าที่นายกที่อายุยังน้อยย่อมไม่สมหวัง และก่อให้เกิดปัญหาลุกลามตามมาทางหน้าสาธารณชน
อีกทั้งในวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ดาวจันทร์(๒)ซึ่งเป็นศรีจรดวงเมือง และดาวมฤตยู(๐)ดาวแห่งอาเพศ ต่างก็โคจรเป็นโจโรฤกษ์
ทับดาวอังคาร(๓)ซึ่งเป็นดาวตนุลัคณ์ดวงเมืองเดิม ดวงดาวที่ส่งผลร้ายในหลายๆตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งไม่ได้ส่อไปในทางที่ประเทศไทย
จะได้พบเจอฟ้าที่สีทองผ่องอำไพใดๆเลย อีกทั้งวันเกิดของว่าที่นายกคนล่าสุด ก็เกิดมาใน "วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๒๓"
(ดาวอาทิตย์(๑)ในดวงชะตาของว่าที่นายก จึงเป็นดาวอายุ และเป็นเกษตรที่ราศีสิงห์ซึ่งเป็นเรือนกัมมะจรของดวงเมือง
ก็เป็นห้า(พินทุบาทว์กับดวงเมืองเดิม) จึงต้องอาเพศขึ้นเป็นผู้นำประเทศไม่ได้
เมื่อวันเกิดก็วันที่ ๕ ทั้งชื่อ ทั้งสีพรรค ก็ล้วนแต่ไปพ้องกับดาวพฤหัส(๕)ซึ่งเป็นดาวที่เป็นกาลีจรกับดวงเมือง
แล้ววันที่ ๑๓ กรกฏาคม ๒๕๖๖ ก็เป็นวันพฤหัสบดี ในทัศนะของโหรฯจึงย่อมต้องพบกับอุปสรรค
และเกิดการพลิกผันในทัศนะของโหรฯ ด้วยเหตุและผลดังที่กล่าวมาครับ!!
ขอแสดงความปรารถนาดี
ราชาสีหราช
***ดาวพฤหัส(๕)จรเป็นกาลีกับดวงเมือง เรื่องพลิกผันทางการเมืองย่อมเกิดขึ้น ในทัศนะของโหรฯ!!