จริง แยกเป็น2กรณี  พวกแรกคือผ่อนใกล้หมดเหลือไม่กี่งวดแล้วมีเหตุให้ต้องคืนรถหรือโดนยึด
พวกนี้เวลาขายทอดตลาด เอายอดขายมาหักลบหนี้ที่เหลือแล้วมียอดกลบพอดีหรือเป็นบวก
ไฟแนนซ์จะปิดหนี้หรือทอนเงินคืนให้ครับ

พวกที่สองคือเตรียมพร้อมสู้คดี วางงบสำรองไปก่อน1แสนจ้างทนายความส่วนตัว
เพื่อดูแลเอกสารขั้นตอนต่างๆตั้งแต่เริ่มคืนรถ และสู้คดีอีก3ชั้นศาล เดิมพันโอกาสชนะ 0.0001%
ถ้าฝั่งตัวแทนไฟแนนซ์ไม่บ้าจี้หลงเหลี่ยมเอกสารทนายลูกหนี้ไปเซ็นรับอะไรมั่วๆส่งเดช
ไฟแนนซ์ไม่มีทางแพ้คดีแน่นอน ซึ่งปกติไฟแนนซ์จะไม่เซ็นอะไรนอกเหนือปกติอยู่แล้วครับ ถ้าเลิกสัญญา
เขามีอำนาจเอารถคืนเต็มๆ

หลังโควิด ที่เป็นข่าวมีคดีฟ้องส่วนต่างเกือบ5หมื่นคดี มีคนชนะไฟแนนซ์มีคนเอาฎีกามาอวด กี่คน?
มันไม่ถึงสิบคดีเลยครับ คนที่ลงไปสู้คดีไม่ใช่ธรรมดา ต้องรู้กฎหมาย ต้องมีเงิน ต้องว่างจัด
ทนายถึงเอาฎีกามาอวดได้ แล้วทนายคนเดียวกันนั้นรับไปกี่สิบคดี ชนะทุกคดีมั้ย? ก็ไม่
พูดง่ายๆ ลูกหนี้ปกติที่หาเงินส่งงวดไม่ทันแทบไม่มีโอกาสคืนรถแบบไม่เสียส่วนต่าง
ตามฎีกาที่เอามาอวดกันในโลกโซเชียลหรอกครับ มันแค่แท๊กติกของคดีๆนึงที่โชว์เหลี่ยมมุมกฎหมาย
ไม่ใช่บทสรุปสูตรสำเร็จว่าคืนรถแบบนั้นแบบนี้ตามฎีกานั้นนี้แล้วไม่ต้องเสียส่วนต่าง
ถ้ามันง่ายขนาดที่แชร์ๆกัน ป่านนี้คนคืนรถไม่เสียส่วนต่างง่ายๆคงมีให้เห็นเกลื่อนแล้วครับ