ก่อนที่เพดานดาวจะมีคอนเสิร์ตกลางแจ้ง จิมมี่ สมุนคนโปรดของ
นายพลชวนกำลังจะวางแผนบุกเพดานดาวเพื่อเอาใจนาย
โชคดีที่กริชโหดร่วมประชุมด้วย เขาจึงปรามจิมมี่ไว้
"ทำแบบนี้คิดว่านายจะชอบเหรอ"
"แต่ที่นั่น มันมีแต่คนที่เราเกลียด อยากจะฆ่า
ถ้าจะสอยเจ้าชายสักคนสองคน จะเป็นไรไป"
"กูถามว่าทำแบบนี้ นายจะชอบเหรอ" กริชโหดถามย้ำ
ทุกคนเงียบกริบ กริชโหดเลยได้โอกาส จึงกล่าวต่อว่า
"สิ่งที่นายพลชวนต้องการจริง ๆ คือความเป็นใหญ่
ตอนนี้ท่านยังไม่อยากให้มีใครตายหรอก มันยังไม่จำเป็น"
เมื่อกริชโหดพูดถึงขนาดนั้น จิมมี่จึงยอมยุติ
……………………………………………
36 หนุ่มได้คุยกันอยู่ในห้องรับรองพิเศษของเพดานดาว
ศรีจิตราทำที่นี่เสียใหม่จนเกือบจำไม่ได้
พวกเขาจับกลุ่มคุยกันในหลายเรื่อง แน่นอนที่หลายคน
ได้แสดงความยินดีกับเจ้าชายปารีส
ส่วนอีกหลายคนก็จับกลุ่มคุยกันตามอัธยาศัย
สองคนที่ชอบคุยกันมากในช่วงหลังคือกษัตริย์หลุยส์กับนายกกวิน
"เป็นไงบ้าง กลุ่มอำนาจเก่ายังวุ่นวายอยู่ไหม"
"มากเลยครับ แต่ผมก็พยายามเต็มที่ ๆ จะจัดการทุกอย่างให้ดีที่สุด
เท่าที่ผมจะทำได้ แต่พรรคผม งูเห่าเยอะมาก
เยอะจนไม่รู้ว่าจะปราบยังไงดี"
"อืม สมัยนี้ ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก เราก็ช่วยเหลือประชาชน
โดยตรงกันไปก่อนก็แล้วกัน โดยเฉพาะผู้ยากไร้"
"ครับผม"
....................................................................
เจ้าชายปารีสหาโอกาสคุยกับเจ้าชายอองตวนก่อนที่คอนเสิร์ตด้านนอกจะเริ่มขึ้น
"ขอบใจนายมากเลยที่มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานของเรา"
ทั้งสองสนิทกันตั้งแต่ยังเด็กเพราะเจ้าชายปารีสเคยไปอยู่ที่โชกุนโพเมื่อตอนเด็ก
ทำให้ความผูกพันฉันเพื่อนยังคงแน่นแฟ้น
"งานสำคัญแบบนี้ เราไม่ยอมพลาดแน่ ๆ"
"แล้ววันนี้ทำไมไม่ชวนกษัตริย์โพสีมาด้วยล่ะ"
"ชวนมาไม่ได้หรอก ขานั้นเขาต้องคอยเอาใจราชินีเหมันต์ ฮองเฮาหยวนหยวน
เจ้าจอมชิงชิงและก็สนมเอกเหวินฟาง ยิ่งมาพักที่โรงแรมเจนนีวาด้วยกัน
ทำให้มีเวลาใกล้ชิดกันมากขึ้น ตอนอยู่ที่โชกุนโพ พี่โพสีมักขลุกอยู่กับนายกดาวิน
พวกเขาช่วยกันบริหารประเทศ มีเรื่องประชุมกันบ่อยมาก จนสาว ๆ ของพี่โพสีบ่นกันระงม
ไหนจะนางสนมอีก 34 คน ทุกคนบ่นเหมือนกันหมดว่าเวลาของพี่โพสีทุ่มให้กับดาวินคนเดียวเลย"
"ประเทศนายนี่วางแผนดีนะ ให้กษัตริย์กับนายกช่วยกันบริหาร น่าจะมีที่เดียวในโลก"
"ก็น่าจะอย่างนั้น"
เมื่อด้านนอกส่งสัญญาณ หนุ่ม ๆ ทั้ง 36 คนได้ออกมาตรงเวทีคอนเสิร์ต
"โห ทำไมกลองชุดมันมากมายขนาดนั้นอ่ะครับ" จักพรรดิทักขึ้น
"อืม คงต้องมีช๊อตเด็ดแน่นอน"จักรพันธ์ตอบน้องชาย
36 หนุ่มได้เข้าไปตรงที่ยืนหมดแล้ว สำหรับคนดูนั้น ไม่ได้จัดที่นั่งไว้ให้
เพราะคาดว่าหนุ่ม ๆ น่าจะโยกกันอย่างเต็มที่
บนอาคารบัวบาน สาว ๆ ก็เฝ้ารอการถ่ายทอดสดอย่างใจจดใจจ่อ
และแล้วนักร้องหลักก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าชายมฆวินทร์
วันนี้พระองค์เท่มาก หล่อคมและมีเสน่ห์สุด ๆ หนุ่ม ๆ ฮือฮากันใหญ่
เจ้าชายมฆวินทร์กล่าวว่าขอมอบบทเพลงทั้งหมดนี้ให้กับเจ้าชายปารีส
และเจ้าหญิงวิมลลักษณา ขอให้น้องรักทั้งสองจงมีความสุขกับชีวิตหลังอภิเษกฯ
หลังจากนั้นเจ้าชายมฆวินทร์ก็ทรงร้องเพลงทั้งภาษาอังกฤษสลับกับภาษาจีนอย่างเมามัน
จนมาถึงเพลงสุดท้าย พระองค์ทรงถอดเสื้อออก ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย
เพลงสุดท้ายนี้ ทรงใช้นักดนตรีจำนวนมาก เพื่อความเมามัน โดยทรงมอบให้เจ้าชายปารีสเป็นพิเศษ
หลังจากกลุ่มสาว ๆ เหน็ดเหนื่อยกับการโยกตามจังหวะดนตรีของคอนเสิร์ตของเจ้าชายมฆวินทร์แล้ว
ก็หันมานั่งกินดื่มเพื่อพักผ่อนอิริยาบถ หลังจากนั้นศรีจิตราก็ขึ้นไปบนเวทีเล็ก
ด้านบนของอาคารบัวบานก็มีเวทีเล็กเตรียมไว้ให้ และศรีจิตราก็ได้มอบเพลง
ให้กับเจ้าหญิงวิมลลักษณาและทุก ๆ คน ซึ่งเป็นเพลงที่ทุก ๆ คนชื่นชอบกันมาก
หลังจากคอนเสิร์ตด้านนอกได้จบลงแล้ว หนุ่ม ๆ ทั้ง 36 คนก็ได้เข้าไปกินดื่มกันต่อด้านใน
ด้านในก็มีเวทีเล็กให้หนุ่ม ๆ ผลัดกันมาร้องเพลงได้ด้วย ช่วงที่ฮือฮามากที่สุด
คือการร้องเพลง Imagine ของกษัตริย์หลุยส์ เจ้าชายจามร เจ้าชายอังเดร เจ้าชายปารีส
เจ้าชายโพสิน เจ้าชายฝาง อัศดาวุธ จางเจียง โจนาธาน และเจียงหัว
อีกช่วงหนึ่งที่น่าจดจำคือการร้องเพลง It's My Life ของสามพี่น้องหนุ่มหล่อ
จักรพันธ์ จักรพรรดิ และจักรภพ โดยมีจักรภพอยู่ตรงกลางและเป็นเสียงร้องหลัก
และที่น่าประทับใจอย่างมากคือการลุกขึ้นมาเต้นอย่างเท่สุด ๆ ของเฟอดินาน
อัศดาวุธ ทัชภูมิ เจียงหัว เจ้าชายอินทรีย์ เจ้าชายโพสิน เจ้าชายโอลิเวอร์และเจ้าชายบันทู
ภันดรน่าจะเป็นหนุ่มที่นั่งนิ่งที่สุด ก่อนถึงคอนเสิร์ตกลางแจ้ง คนที่เขามองมากที่สุดก็คือชายชาญ
รองลงมาก็คือเจ้าชายฝาง เจ้าชายเทซก เจ้าชายเมฆินและจักรพรรดิ
พอไปยืนชมคอนเสิร์ตกลางแจ้ง ซึ่งมีเขาคนเดียวที่ยืนนิ่ง ไม่ไหวติง จิตใจก็อ่อนระทวยไปกับเจ้าชายมฆวินทร์
พอกลับมาด้านในกลายเป็นนายกกวิน จอห์น กาเร็ต จักรภพ และเจ้าชายโพสินที่เพิ่มความร้อนแรง
ให้กับตัวเขา แต่ที่แน่ ๆ คืนนี้ เขากำลังตกหลุมรักเจ้าชายอินทรีย์กับเจ้าชายบันทู
แต่แค่นี้น่าจะยังไม่พอ นอกจากผู้ชายมากเสน่ห์กลุ่มนี้แล้ว ยังมีกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มคือภาคธุรกิจ
เขากำลังคิดในใจว่ามหาเวหนน่าจะจัดงานอะไรสักอย่างเพื่อกวาดหนุ่มหล่อทั้งโสฬสมาอยู่รวมกัน
เวลาเห็นหนุ่มหล่ออยู่รวมกันแล้วทำอะไรเท่ ๆ แมน ๆ เขาชอบมาก ๆ หรือแม้แต่ได้เห็น
ความสัมพันธ์ที่ดูแนบแน่นของอ้ศดาวุธกับจางเจียง ทัชภูมิกับโรบิน กษัตริย์หลุยส์กับสหัส
และเฟอดินานกับกาเร็ต ก็ทำให้เขาจิ้นไปไกล แต่ที่ทำให้เขาแทบหัวใจวายคือการถอดเสื้อ
ร้องเพลง Livin' On A Prayer ของเจ้าชายบันทู เขาอยากจะแดดิ้นอยู่ตรงนั้นไปเลย
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 56
นายพลชวนกำลังจะวางแผนบุกเพดานดาวเพื่อเอาใจนาย
โชคดีที่กริชโหดร่วมประชุมด้วย เขาจึงปรามจิมมี่ไว้
"ทำแบบนี้คิดว่านายจะชอบเหรอ"
"แต่ที่นั่น มันมีแต่คนที่เราเกลียด อยากจะฆ่า
ถ้าจะสอยเจ้าชายสักคนสองคน จะเป็นไรไป"
"กูถามว่าทำแบบนี้ นายจะชอบเหรอ" กริชโหดถามย้ำ
ทุกคนเงียบกริบ กริชโหดเลยได้โอกาส จึงกล่าวต่อว่า
"สิ่งที่นายพลชวนต้องการจริง ๆ คือความเป็นใหญ่
ตอนนี้ท่านยังไม่อยากให้มีใครตายหรอก มันยังไม่จำเป็น"
เมื่อกริชโหดพูดถึงขนาดนั้น จิมมี่จึงยอมยุติ
……………………………………………
36 หนุ่มได้คุยกันอยู่ในห้องรับรองพิเศษของเพดานดาว
ศรีจิตราทำที่นี่เสียใหม่จนเกือบจำไม่ได้
พวกเขาจับกลุ่มคุยกันในหลายเรื่อง แน่นอนที่หลายคน
ได้แสดงความยินดีกับเจ้าชายปารีส
ส่วนอีกหลายคนก็จับกลุ่มคุยกันตามอัธยาศัย
สองคนที่ชอบคุยกันมากในช่วงหลังคือกษัตริย์หลุยส์กับนายกกวิน
"เป็นไงบ้าง กลุ่มอำนาจเก่ายังวุ่นวายอยู่ไหม"
"มากเลยครับ แต่ผมก็พยายามเต็มที่ ๆ จะจัดการทุกอย่างให้ดีที่สุด
เท่าที่ผมจะทำได้ แต่พรรคผม งูเห่าเยอะมาก
เยอะจนไม่รู้ว่าจะปราบยังไงดี"
"อืม สมัยนี้ ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก เราก็ช่วยเหลือประชาชน
โดยตรงกันไปก่อนก็แล้วกัน โดยเฉพาะผู้ยากไร้"
"ครับผม"
....................................................................
เจ้าชายปารีสหาโอกาสคุยกับเจ้าชายอองตวนก่อนที่คอนเสิร์ตด้านนอกจะเริ่มขึ้น
"ขอบใจนายมากเลยที่มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานของเรา"
ทั้งสองสนิทกันตั้งแต่ยังเด็กเพราะเจ้าชายปารีสเคยไปอยู่ที่โชกุนโพเมื่อตอนเด็ก
ทำให้ความผูกพันฉันเพื่อนยังคงแน่นแฟ้น
"งานสำคัญแบบนี้ เราไม่ยอมพลาดแน่ ๆ"
"แล้ววันนี้ทำไมไม่ชวนกษัตริย์โพสีมาด้วยล่ะ"
"ชวนมาไม่ได้หรอก ขานั้นเขาต้องคอยเอาใจราชินีเหมันต์ ฮองเฮาหยวนหยวน
เจ้าจอมชิงชิงและก็สนมเอกเหวินฟาง ยิ่งมาพักที่โรงแรมเจนนีวาด้วยกัน
ทำให้มีเวลาใกล้ชิดกันมากขึ้น ตอนอยู่ที่โชกุนโพ พี่โพสีมักขลุกอยู่กับนายกดาวิน
พวกเขาช่วยกันบริหารประเทศ มีเรื่องประชุมกันบ่อยมาก จนสาว ๆ ของพี่โพสีบ่นกันระงม
ไหนจะนางสนมอีก 34 คน ทุกคนบ่นเหมือนกันหมดว่าเวลาของพี่โพสีทุ่มให้กับดาวินคนเดียวเลย"
"ประเทศนายนี่วางแผนดีนะ ให้กษัตริย์กับนายกช่วยกันบริหาร น่าจะมีที่เดียวในโลก"
"ก็น่าจะอย่างนั้น"
เมื่อด้านนอกส่งสัญญาณ หนุ่ม ๆ ทั้ง 36 คนได้ออกมาตรงเวทีคอนเสิร์ต
"โห ทำไมกลองชุดมันมากมายขนาดนั้นอ่ะครับ" จักพรรดิทักขึ้น
"อืม คงต้องมีช๊อตเด็ดแน่นอน"จักรพันธ์ตอบน้องชาย
36 หนุ่มได้เข้าไปตรงที่ยืนหมดแล้ว สำหรับคนดูนั้น ไม่ได้จัดที่นั่งไว้ให้
เพราะคาดว่าหนุ่ม ๆ น่าจะโยกกันอย่างเต็มที่
บนอาคารบัวบาน สาว ๆ ก็เฝ้ารอการถ่ายทอดสดอย่างใจจดใจจ่อ
และแล้วนักร้องหลักก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าชายมฆวินทร์
วันนี้พระองค์เท่มาก หล่อคมและมีเสน่ห์สุด ๆ หนุ่ม ๆ ฮือฮากันใหญ่
เจ้าชายมฆวินทร์กล่าวว่าขอมอบบทเพลงทั้งหมดนี้ให้กับเจ้าชายปารีส
และเจ้าหญิงวิมลลักษณา ขอให้น้องรักทั้งสองจงมีความสุขกับชีวิตหลังอภิเษกฯ
หลังจากนั้นเจ้าชายมฆวินทร์ก็ทรงร้องเพลงทั้งภาษาอังกฤษสลับกับภาษาจีนอย่างเมามัน
จนมาถึงเพลงสุดท้าย พระองค์ทรงถอดเสื้อออก ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย
เพลงสุดท้ายนี้ ทรงใช้นักดนตรีจำนวนมาก เพื่อความเมามัน โดยทรงมอบให้เจ้าชายปารีสเป็นพิเศษ
หลังจากกลุ่มสาว ๆ เหน็ดเหนื่อยกับการโยกตามจังหวะดนตรีของคอนเสิร์ตของเจ้าชายมฆวินทร์แล้ว
ก็หันมานั่งกินดื่มเพื่อพักผ่อนอิริยาบถ หลังจากนั้นศรีจิตราก็ขึ้นไปบนเวทีเล็ก
ด้านบนของอาคารบัวบานก็มีเวทีเล็กเตรียมไว้ให้ และศรีจิตราก็ได้มอบเพลง
ให้กับเจ้าหญิงวิมลลักษณาและทุก ๆ คน ซึ่งเป็นเพลงที่ทุก ๆ คนชื่นชอบกันมาก
หลังจากคอนเสิร์ตด้านนอกได้จบลงแล้ว หนุ่ม ๆ ทั้ง 36 คนก็ได้เข้าไปกินดื่มกันต่อด้านใน
ด้านในก็มีเวทีเล็กให้หนุ่ม ๆ ผลัดกันมาร้องเพลงได้ด้วย ช่วงที่ฮือฮามากที่สุด
คือการร้องเพลง Imagine ของกษัตริย์หลุยส์ เจ้าชายจามร เจ้าชายอังเดร เจ้าชายปารีส
เจ้าชายโพสิน เจ้าชายฝาง อัศดาวุธ จางเจียง โจนาธาน และเจียงหัว
อีกช่วงหนึ่งที่น่าจดจำคือการร้องเพลง It's My Life ของสามพี่น้องหนุ่มหล่อ
จักรพันธ์ จักรพรรดิ และจักรภพ โดยมีจักรภพอยู่ตรงกลางและเป็นเสียงร้องหลัก
และที่น่าประทับใจอย่างมากคือการลุกขึ้นมาเต้นอย่างเท่สุด ๆ ของเฟอดินาน
อัศดาวุธ ทัชภูมิ เจียงหัว เจ้าชายอินทรีย์ เจ้าชายโพสิน เจ้าชายโอลิเวอร์และเจ้าชายบันทู
ภันดรน่าจะเป็นหนุ่มที่นั่งนิ่งที่สุด ก่อนถึงคอนเสิร์ตกลางแจ้ง คนที่เขามองมากที่สุดก็คือชายชาญ
รองลงมาก็คือเจ้าชายฝาง เจ้าชายเทซก เจ้าชายเมฆินและจักรพรรดิ
พอไปยืนชมคอนเสิร์ตกลางแจ้ง ซึ่งมีเขาคนเดียวที่ยืนนิ่ง ไม่ไหวติง จิตใจก็อ่อนระทวยไปกับเจ้าชายมฆวินทร์
พอกลับมาด้านในกลายเป็นนายกกวิน จอห์น กาเร็ต จักรภพ และเจ้าชายโพสินที่เพิ่มความร้อนแรง
ให้กับตัวเขา แต่ที่แน่ ๆ คืนนี้ เขากำลังตกหลุมรักเจ้าชายอินทรีย์กับเจ้าชายบันทู
แต่แค่นี้น่าจะยังไม่พอ นอกจากผู้ชายมากเสน่ห์กลุ่มนี้แล้ว ยังมีกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มคือภาคธุรกิจ
เขากำลังคิดในใจว่ามหาเวหนน่าจะจัดงานอะไรสักอย่างเพื่อกวาดหนุ่มหล่อทั้งโสฬสมาอยู่รวมกัน
เวลาเห็นหนุ่มหล่ออยู่รวมกันแล้วทำอะไรเท่ ๆ แมน ๆ เขาชอบมาก ๆ หรือแม้แต่ได้เห็น
ความสัมพันธ์ที่ดูแนบแน่นของอ้ศดาวุธกับจางเจียง ทัชภูมิกับโรบิน กษัตริย์หลุยส์กับสหัส
และเฟอดินานกับกาเร็ต ก็ทำให้เขาจิ้นไปไกล แต่ที่ทำให้เขาแทบหัวใจวายคือการถอดเสื้อ
ร้องเพลง Livin' On A Prayer ของเจ้าชายบันทู เขาอยากจะแดดิ้นอยู่ตรงนั้นไปเลย