จิตอาสายุคใหม่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

กระทู้สนทนา
วันนี้ผู้นำชุมชนก็ดี ผู้หลักผู้ใหญ่ก็ดี ยังอินกับจิตอาสาแบบยุคสมัยเดิมๆ กิจกรรมโครงการยังคิดว่าไม่ได้เป็นแบบเดิม ความจริง อสม.ก็ดี กลุ่มแม่บ้านก็ดี กลุ่มอาสาต่างๆก็ดี คนเดิมแบกต่อไม่ไหวเต็มทีแล้วคงไม่เกิน5-10ปีนี้ จิตอาสาผลัดรุ่นยากมากจะมาเติม เพราะรุ่นปัจจุบันอายุเฉลี่ย60ขึ้นทั้งนั้น ไม่ว่าจะ อสม.แม่บ้าน แม้กระทั่งกลุ่มหนุ่มสาวสมาชิกก็ยังเป็นผู้สูงอายุทั่งนั้น(ยกเว้นรอบนอกชนบทไกลๆอาจดีเลย์มีกลุ่มที่เข้มแข็งอยู่บ้างแต่จะแปรเปลี่ยนในไม่ช้าแรงกระเพื่อมเช่นคลื่นทะเล) ข้อระวังถ้าผู้เกี่ยวข้องยังวิเคราะห์ว่าปัญหาอยู่ที่ภาวะผู้นำหรือปัญหาอยู่ที่ตัวผู้นำเป็นหลักที่ไม่มีพาวเวอร์มากพอบอกเลยว่าคิดผิด สังคมเกษตรกรรมในอดีตชุมชนตื่นเช้ายันนอนไปมาหาสู่กันได้ การปกครองอาศัยผู้ใหญ่กำนันเป็นหลักมีอำนาจในพื้นที่มากแต่วันนี้ฟังชั่นการบำบีดทุกข์บำรุงสุขมีพัฒนาการไปไกลแล้วไม่ต้องหมอบคลานขอร้องอ้อนวอนไปทำบัตรประชาชนที่ว่าการอำเภอเช่นในอดีต ขนาดขยะก็ยังมีเทศบาลมาเก็บกวาดให้ น้ำกินน้ำใช้มีใช้จนฟุ่มเฟือยขนาดเอาประปาไปทำสวนเกษตรกันเลย กล่าวโดยสรุป วิถีชีวิตปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นแบบทำงานประจำออกบ้านกัน6-7โมงเช้า กลับถึงบ้านตะวันตกดินแล้วจึงยากที่จะรวมกลุ่มอาสาเช่นในอดีต ยิ่งรุ่นต่อไปจะมาสืบรุ่นยิ่งยากไปอีกเพราะมีวิถี ไลฟ์สไตล์ นิสัยเป็นแบบปัจเจกกันไปหมดแล้ว แค่ถามลูกหลานวันนี้รู้จักใครบ้างข้างบ้าน ชื่อผู้นำในหมู่บ้านเป็นใคร เด็กๆไม่สนใจจะรู้แล้วด้วยซ้ำ วันนี้ต้องยอมรับความจริงข้อนี้จะวิเคราะห์ชุมชนอยู่ดีมีสุขปรัชญาโน้นนี่แล้วใช้งบประมาณตำน้ำพริกละลายแม่น้ำไม่ก่อประโยชนสิ้นเปลีองกันเปล่าๆ ผู้มีอำนาจวันนี้ต้องทบทวนวางยุทธศาสตร์บนข้อมูลในความเป็นจริงได้แล้ว อย่าฝืนโลก ใช้ไอที ใช้การมีส่วนร่วมผ่านมือถือมากขึ้นเพราะคนในชุมชนเขามารวมกันตรงนี้หมดแล้ว ประหยัดทรัพยากร คิดใหม่จะทำอย่างไรให้เกิดจิตอาสาชุมชนใหม่นี้ดีกว่า ไม่ใช่ทนทำแบบเดิมผลลัพธ์แบบเดิมไปเรื่อยๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่