***การตั้งชื่อด้วยฤกษ์ ตามหลักโหราศาสตร์ไทย โดย.. ราชาสีหราช

กว่า ๓๐ ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ผมเปิดสำนักโหรชินสีห์ เมื่อครั้งที่ยังอยู่ในวัยอายุเพียง ๒๐ เศษๆ
ก็คงจะในราวปี ๒๕๓๗ เป็นต้นมา จากการอยากเป็นนักกฎหมาย(เรียนกฎหมาย)
แต่ด้วยความเป็นสายเลือดของลูกนักเขียนและนักโหราศาสตร์ ทำให้ผมเกิดความรักชอบ
ในศาสตร์พยากรณ์ จนได้รับการสืบทอดจากคุณพ่อของผม และไปเรียนเพิ่มเติมตามสมาคมต่างๆ ที่ได้มีการเปิดสอนกันในยุคสมัยนั้น
จนผมมีโอกาสได้รับความเมตตาจาก ผู้ใหญ่ซึ่งเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ "นิตยสารดวงเศรษฐี"ในขณะนั้น
ซึ่งท่านได้มอบหมาย ให้ผมได้รับผิดชอบคอลัมน์ "การใส่อัญมณี และการตั้งชื่อเพื่อแก้และเสริมดวงชะตา"
ซึ่งผมน่าจะเป็น คอลัมน์นิสต์ที่มีอายุที่น้อยที่สุดในกองบรรณาธิการนิตยสารดวงเศรษฐีในสมัยนั้น
ซึ่งผมรับผิดชอบในคอลัมน์ดังกล่าว ตั้งแต่ปี ๒๕๓๗ จนถึงปี ๒๕๔๓ ซึ่งปัจจุบันนิตยสารดวงเศรษฐีนั้น
ได้มีการเลิกตีพิมพ์ไปนานแล้ว ซึ่งผลมาจากความเจริญของโลกไอทีในยุคปัจจุบัน
.
จากการคร่ำหวอดอยู่แวดวงโหราศาสตร์ วงการพระเครื่อง ทั้งยังได้รับเกียรติรับเชิญไปยังต่างประเทศตลอด ในช่วงปี ๒๕๕๐ - ๒๕๖๒
จึงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของบุคคลมาอย่างหลากหลาย ทั้งสูงขึ้นและตกต่ำลง ด้วยผลของดวงดาวที่ควบคุมชะตาชีวิตไว้
ซึ่งจากหลักสถิติอันอย่างยาวนานที่ผม ได้เห็นและรวบรวมเก็มมาตลอด นั่นก็คือ.. ผลร้ายที่มาจาก "ชื่อ"ของเจ้าชะตาที่ได้มีการบังคับไว้นั่นเอง..
ตัวอย่างของการตั้งชื่อด้วยฤกษ์ ที่บุคคลดังต่อไปนี้ ที่ได้รับผลร้าย จากดวงดาวในดวงชะตาที่ส่งผล
ซึ่งตัวอย่างที่ผมจะได้นำมาลงดังต่อไปนี้ เป็นชื่อจริงดวงชะตาจริง แต่จะสงวนชื่อเล่นของเจ้าชะตา และปรับจังหวัดที่เกิดเล็กน้อย
โดยผมได้รับอนุญาตจากเจ้าของดวงชะตาทุกดวง เพื่อนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นความรู้ แบบเป็นวิทยาทาน ให้กับผู้ที่สนใจในเชิงวิชาการ
.
เพราะมีบุคคลจำนวนมากที่ไม่สามารถ ค้นหาที่มาของสาเหตุ ที่ทำให้ชีวิตของตนเองนั้น เกิดความล้มเหลว ประสบกับปัญหาที่รุมเร้า
จนหลายท่านนั้นก็ถึงกับล้มละลายไปกับชีวิตในทางโลก ไม่ว่าจะเป็นการงาน และระบบครัวเรือน
ดังนั้นตัวอย่างของชื่อเหล่านี้ก็คือคำตอบว่า ทำไมชีวิตของบุคคลเหล่านั้น จึงต้องประสบชะตากรร
ซึ่งเสมือนกับเป็นการซ้ำเติม ให้วิถีชีวิตในทางโลกของเจ้าชะตา จะต้องเลวร้ายลง เพราะชื่อของเจ้าของดวงชะตาเป็นเหตุ
ที่ล้วนแล้วแต่เดินตามดวงดาวที่ส่งผลร้าย หรืออยู่ในภพภูมิที่ส่งผลเสีย เมื่อดวงดาวเหล่านั้นต้องฤกษ์เลวร้ายที่บังคับเอาไว้
ตลอดจนภพภูมิที่ส่งผลลบในด้านความเสื่อมเสีย เมื่อบุคคลที่นำชื่อเหล่านั้นไปใช้
ก็ยากนักที่รอดพ้น จนชีวิตของเจ้าชะตาจำต้องเสียโอกาส หรืออนาคตจึงได้พังทลายลง
ดังตัวอย่างของชื่อและดวงชะตาดังต่อไปนี้ครับ..
.
๑.ดวงชะตาแรกเป็นดวงชะตาเพศชาย ซึ่งมีดาวอังคาร(๓)ตำแหน่งเดชตามทักษา โคจรอยู่ในเรือนอริ
ทั้งต้องฤกษ์เพชฌฆาฏในขณะที่ตนเกิด เมื่อเจ้าชะตานำพยัญชนะในวรรคของดาวอังคาร(๓)มาตั้งเป็นชื่อ
เจ้าชะตาจึงต้องเสียชื่ออื้อฉาว เกิดคดีความ เสียเครดิตในวงกว้างในสังคมที่ตนอยู่ๆเสมอ
๒.ดวงชะตาถัดมาเป็นดวงชะตาของสุภาพสตรี ที่มีดาวพุธ(๔)เป็นศรีตามทักษาพยากรณ์
ดาวพุธ(๔)ของเจ้าชะตาจึงเป็นทั้งดาวตนุลัคณ์ ทั้งเป็นเจ้าเรือนพันธุ เมื่อโคจรเป็นมรณะทั้งเป็นโจโรฤกษ์
เมื่อเจ้าชะตานำพยัญชนะในวรรคของดาวพุธ(๔)มาตั้งนำชื่อ ชีวิตของเจ้าชะตาจึงต้องเกิดความทุกข์ระทมใจ
ทั้งตนเองทั้งเครือญาติและวิถีชีวิตในทางโลก

๓.ดวงชะตาถัดมาเป็นดวงชะตาของสุภาพสตรี ซึ่งมีดาวเสาร์(๗)เป็นศรีตามทักษาพยากรณ์
ดาวเสาร์(๗)จึงเป็นทั้งเจ้าเรือนปัตนิ(คนรัก) ทั้งเป็นเจ้าเรือนมรณะ เมื่อดาวเสาร์(๗)ในดวงชะตาโคจรส่งผลร้าย
ทั้งเป็นประ(ร้าย)ทั้งโคจรมาในฤกษ์เพชฌฆาฏ เจ้าชะตาจึงต้องประเคราะห์ภัยในเรื่องของชีวิตคู่
และการครองเรือน(คู่ครองเจ้าอารมณ์ ทำมาหากินไม่ขึ้น ทั้งติดสารเสพติด)อย่างแก้ไม่ตก 
๔.ดวงชะตาถัดมาเป็นดวงชะตาของเพศชาย มีดาวเสาร์(๗)เป็นเดชตามทักษาพยากรณ์
ดาวเสาร์(๗)ในดวงชะตาโคจรเป็นมหาอุจจ์ แต่กลับโคจรอยู่ในเรือนวินาสน์ ทั้งโคจรมาในฤกษ์เพชฌฆาฏ
เมื่อเจ้าชะตาตั้งชื่อโดยนำเอาพยัญนะในวรรคของดาวเสาร์(๗)ขึ้นนำชื่อ
ชีวิตของเจ้าชะตาจึงต้องเสียชื่อเพราะเพื่อนร่วมงานอย่างหนัก(ผลของดาวเสาร์(๗)เป็นเจ้าเรือนสหัชชะในดวงชะตา)
ตลอดจนเจ้าชะตาจึงเป็นบุคคลที่ดุและมีอารมณ์ที่รุนแรง ซึ่งผลมาจากตำแหน่งเดชในดวงชะตา ต้องฤกษ์เพชฌฆาฏบังคับไว้
๕.ดวงชะตาถัดมาคือดวงชะตาของสภาพสตรี เจ้าชะตาเกิดมาในวันอังคาร(๓)มีดาวพฤหัส(๕)เป็นศรีตามทักษาพยากรณ์
ดาวพฤหัส(๕)จึงเป็นดาวตนุลัคณ์และเป็นทั้งเจ้าเรือนกัมมะ(งาน)ตามจักรราศี
เมื่อดาวพฤหัส(๕)ในขณะที่เจ้าชะตาเกิดโคจรเป็นนิจ(ร้าย) ทั้งโคจรมาในฤกษ์โจโรฤกษ์
ทั้งเป็นดาวตนุเศษ(จิตใจ)ของเจ้าชะตา เมื่อเจ้าชะตาตั้งชื่อโดยนำเอาพยัญชนะในวรรคของดาวพฤหัส(๕)มาตั้งนำชื่อ
ชื่อของเจ้าชะตาจึงส่งผลร้าย เจ้าชะตาจึงมีหน้าที่การงานที่ไม่สูง ชีวิตจึงต้องเคร่งเครียดและตรากตรำ ในเรื่องของการงานอยู่ตลอดเวลาอย่างแก้ไม่ตก
๖.ดวงถัดมาเป็นดวงชะตาเพศชาย ที่เกิดมาในวันเสาร์(๗) ซึ่งมีพระราหู(๘)เป็นเดชตามทักษาพยากรณ์
เจ้าชะตาค่อนข้างจะเป็นคนที่ดุมากเจ้าอารมณ์ ทั้งมีอารมณ์ที่มีความแปรปรวนเป็นอย่างสูง
เพราะเหตุที่ว่าเจ้าชะตามีพระราหู(๘)ซึ่งเป็นเดช โคจรมาในฤกษ์เพชฌฆาฏในขณะที่เกิด
เจ้าชะตานำเอาพยัญชนะในวรรคของพระราหู(๘)ขึ้นนำชื่อ เจ้าชะตาจึงมีปัญหากับคนรอบตัวตลอด
อีกทั้งชีวิตมักจะเดินอยู่ในหนทางที่เสื่อมอยู่เสมอ ด้วยผลร้ายของฤกษ์เพชฌฆาฏที่ส่งผลร้ายบังคับชีวิตของเจ้าชะตาไว้ 

(มีต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่