คือผมไปดูราคาย้อนหลัง แล้วลองเอามาทำกราฟสถิติราคาทอง เป็นราคาทองต่อบาทแต่ละปี ย้อนไป 58 ปี จนถึงปัจจุบัน กราฟมูลค่าทองมันชันขึ้นตลอด
ตอนแรกก็ไม่ค่อยสนใจหรอกครับ แต่ด้วยที่ว่าเก็บเป็นเงินสดแล้วมูลค่าเงินเฟียสมันเฟ้อมันด้อยค่าทุกปี แล้วไม่รู้จะเก็บเงินที่เหลือเก็บบางส่วนไปพักไว้ที่ไหนเพื่อประกันความเสี่ยงเรื่องมูลค่า จะลงทุนอย่างอื่นฟามรู้ก็ยังไม่ถึง เลยจะหาที่พักเงินก่อน ที่จริงก็อยากจะลงทุนที่ดินอสังหานะครับ แต่ไม่มีปัญญาและไม่มีเงินทุยเงินเยอะขนาดนั้นครับ
ผมก็เลยคิดว่าทองคำ สากลยอมรับมาอย่างช้านานแล้ว แล้วยิ่งไปดูสถิติย้อนหลัง ยิ่งเก็บไว้นานมูลค่ามีแนวโน้มเพิ่ม พอจะต่อสู้เงินเฟ้อได้อยู่
เลยคิดแบบโง่ๆเลยครับว่าแบ่งงานจากการทำงานเหงื่อออกตามรูขุมขนแล้วได้เงินมาเอาแบ่งไม่ทยอยซอยถี่ซื้อทองเก็บ รอตอนราคาย่อแดงลงค่อยซื้อทีละไม้ เดี๋ยวนี้ร้านทองใหญ่ๆ แบ่งซื้อได้ ไม้เล็กไม้ละพันบาทพอไหว พอได้สลึงหรือบาท เราไปขอแลกเป็นทองจริงได้ (เดี๋ยวผมลองออมได้สักบาทว่าจะลองไปแลกดูครับ แล้วขุดฝังโบกปูนปิดสนิทไว้กลางบ้านเหมือน จอห์นวิค ครับ) คิดว่าจะสะสมไปเรื่อยเพื่อให้มันเป็นสมบัติเก่าตอนแก่ครับ
เพราะสิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะต้องเจอ คือ ความแก่ หนังเหี่ยวยาน เรี่ยวแรงไม่เหมือนเดิม เพราะถึงตอนนั้นเราก็จะทำงานไม่เหมือนเดิมแล้วครับ ถึงตอนนั้นทองคำเป็นสมบัติเก่า ค่อยเอามาขายกินได้ เพราะถ้าเทียบ ทองคำ กับ ที่ดินอสังหา คือว่าทองคำขายง่ายกว่า สภาพคล่องเปลี่ยนมือปล่อยของได้เร็วกว่า คือผมคิดโง่ๆซื่อๆแบบนี้เลยครับ
คือถ้าไม่มีงานทำไม่มีรายได้ตอนแก่ แต่ถ้ามีทองคำ ผมคิดว่าเอาทองไปขายแลกซื้อกินไข่ต้มได้หลายฟองอยู่ครับ
ที่จริงผมก็อยากได้ที่ดินสักแปลงนะครับ เพื่อเอาไว้ทำเกษตรผลิตอาหารยามแก่ตอนไม่มีงานทำไม่มีรายได้ แต่ที่ดินมันแบ่งขายเหมือนทองไม่ได้ ที่แบบว่าแบ่งเป็นเซ็นติเมตรทยอยซื้อทองคำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าอยากได้ที่ดินก็ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ หรือไม่ไปกู้ทำงานส่งดอกแบงค์แบบนั้นไม่เอาครับเครียด
คือผมเป็นคนเก็บเงินเก่ง มีทักษะมาตั้งแต่เด็กได้มาตอนชอบอดข้าวอาหารกลางวันที่แม่ให้มาซื้อข้าวกินที่โรงเรียนแต่ผมชอบอดข้าวกลางวันแล้วออมเงินไว้ไปเล่นเกมที่ร้านตอนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เลยมีทักษะวินัยอดออมเงินสูงมาจนถึงตอนโตครับ เลยมีเงินเหลือเก็บไว้ทุกเดือน
ตอนนี้ผมนึกไม่ออกจริงๆ ที่จะเก็บเงินเหลือเงินออมไว้ที่ไหนนอกจากทองคำ
จะให้เอาไปฝากประกันเงินออม คือ ผมไม่มีฟามรู้เรื่องตีความสัญญาเงื่อนไขตัวเล็กๆ ในสัญญาประกัน ยิ่งบอกว่าจะออม 5 ปี 10 ปี แล้วบังคับออมฟิกทุกเดือนไม่ไหว เพราะถ้าเป็นผ่านไปปีที่ 3 แล้วผมไม่มีข้าวกินจำเป็นต้องถอนมาซื้อไข่ต้มกินประทังชีวิตก็ไม่ได้เดี๋ยวผิดไขเขาอีกครับ ถ้าเป็นทองคำเอาไปแลกที่ร้านมาเป็นเงินซื้อไข่ต้มกินได้เลยครับ
จะเอาไปลงในหุ้นก็กลัวโดนหุ้นปั่น ไม่มีฟามรู้ว่าบริษัทไหนงบการเงินยังไง บัญชีแต่งหรือเปล่าดูตัวเลขไม่เป็น หุ้นไหนราคาเกินมูลค่าบลาๆ ดูไม่เป็นครับ
ก็เลยลงทุนแบบโง่ๆ ในทองคำ ที่มีมาแต่โบราณกาลนี่แหละครับ พอเกิดสงครามแบกหีบทองคำหนีทางเรือก็ยังทันครับ
เป็น ยสตน. นะครับ
เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับทองคำบ้างครับ ?
ปล.ผมไปเจอช่างร้านทองใน ตต เขาแนะนำให้เก็บทองแท่ง 1 บาท หรือ 5 บาทขึ้นไป ต่ำกว่านั้นแลกขายขาดทุน
เค้าบอกว่า ทองคำแท่ง 1 บาท เวลาแลกขายจะเสียค่าบล็อค 150-250 บาท รอครึ่งปี อันนี้ไม่แน่ใจหมายถึงมูลค่าคืนทุน+กำไรรึเปล่า
ถ้าเป็น 5 บาทขึ้นไปไม่เสียค่าบล็อค รอขายได้เงินประมาณ 15 วัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมไม่ได้บ้านะครับ
ทำไมทองคำผ่านไปหลายปี มูลค่าถึงขึ้นตลอดไม่ยอมเจ๊งราคาผ่านไป 58 ปี ขึ้นมา 7900% บาทหลักร้อยสู่หลักหมื่น ลงทุนทองโง่ๆดีไหม
คือผมไปดูราคาย้อนหลัง แล้วลองเอามาทำกราฟสถิติราคาทอง เป็นราคาทองต่อบาทแต่ละปี ย้อนไป 58 ปี จนถึงปัจจุบัน กราฟมูลค่าทองมันชันขึ้นตลอด
ตอนแรกก็ไม่ค่อยสนใจหรอกครับ แต่ด้วยที่ว่าเก็บเป็นเงินสดแล้วมูลค่าเงินเฟียสมันเฟ้อมันด้อยค่าทุกปี แล้วไม่รู้จะเก็บเงินที่เหลือเก็บบางส่วนไปพักไว้ที่ไหนเพื่อประกันความเสี่ยงเรื่องมูลค่า จะลงทุนอย่างอื่นฟามรู้ก็ยังไม่ถึง เลยจะหาที่พักเงินก่อน ที่จริงก็อยากจะลงทุนที่ดินอสังหานะครับ แต่ไม่มีปัญญาและไม่มีเงินทุยเงินเยอะขนาดนั้นครับ
ผมก็เลยคิดว่าทองคำ สากลยอมรับมาอย่างช้านานแล้ว แล้วยิ่งไปดูสถิติย้อนหลัง ยิ่งเก็บไว้นานมูลค่ามีแนวโน้มเพิ่ม พอจะต่อสู้เงินเฟ้อได้อยู่
เลยคิดแบบโง่ๆเลยครับว่าแบ่งงานจากการทำงานเหงื่อออกตามรูขุมขนแล้วได้เงินมาเอาแบ่งไม่ทยอยซอยถี่ซื้อทองเก็บ รอตอนราคาย่อแดงลงค่อยซื้อทีละไม้ เดี๋ยวนี้ร้านทองใหญ่ๆ แบ่งซื้อได้ ไม้เล็กไม้ละพันบาทพอไหว พอได้สลึงหรือบาท เราไปขอแลกเป็นทองจริงได้ (เดี๋ยวผมลองออมได้สักบาทว่าจะลองไปแลกดูครับ แล้วขุดฝังโบกปูนปิดสนิทไว้กลางบ้านเหมือน จอห์นวิค ครับ) คิดว่าจะสะสมไปเรื่อยเพื่อให้มันเป็นสมบัติเก่าตอนแก่ครับ
เพราะสิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะต้องเจอ คือ ความแก่ หนังเหี่ยวยาน เรี่ยวแรงไม่เหมือนเดิม เพราะถึงตอนนั้นเราก็จะทำงานไม่เหมือนเดิมแล้วครับ ถึงตอนนั้นทองคำเป็นสมบัติเก่า ค่อยเอามาขายกินได้ เพราะถ้าเทียบ ทองคำ กับ ที่ดินอสังหา คือว่าทองคำขายง่ายกว่า สภาพคล่องเปลี่ยนมือปล่อยของได้เร็วกว่า คือผมคิดโง่ๆซื่อๆแบบนี้เลยครับ
คือถ้าไม่มีงานทำไม่มีรายได้ตอนแก่ แต่ถ้ามีทองคำ ผมคิดว่าเอาทองไปขายแลกซื้อกินไข่ต้มได้หลายฟองอยู่ครับ
ที่จริงผมก็อยากได้ที่ดินสักแปลงนะครับ เพื่อเอาไว้ทำเกษตรผลิตอาหารยามแก่ตอนไม่มีงานทำไม่มีรายได้ แต่ที่ดินมันแบ่งขายเหมือนทองไม่ได้ ที่แบบว่าแบ่งเป็นเซ็นติเมตรทยอยซื้อทองคำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าอยากได้ที่ดินก็ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ หรือไม่ไปกู้ทำงานส่งดอกแบงค์แบบนั้นไม่เอาครับเครียด
คือผมเป็นคนเก็บเงินเก่ง มีทักษะมาตั้งแต่เด็กได้มาตอนชอบอดข้าวอาหารกลางวันที่แม่ให้มาซื้อข้าวกินที่โรงเรียนแต่ผมชอบอดข้าวกลางวันแล้วออมเงินไว้ไปเล่นเกมที่ร้านตอนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เลยมีทักษะวินัยอดออมเงินสูงมาจนถึงตอนโตครับ เลยมีเงินเหลือเก็บไว้ทุกเดือน
ตอนนี้ผมนึกไม่ออกจริงๆ ที่จะเก็บเงินเหลือเงินออมไว้ที่ไหนนอกจากทองคำ
จะให้เอาไปฝากประกันเงินออม คือ ผมไม่มีฟามรู้เรื่องตีความสัญญาเงื่อนไขตัวเล็กๆ ในสัญญาประกัน ยิ่งบอกว่าจะออม 5 ปี 10 ปี แล้วบังคับออมฟิกทุกเดือนไม่ไหว เพราะถ้าเป็นผ่านไปปีที่ 3 แล้วผมไม่มีข้าวกินจำเป็นต้องถอนมาซื้อไข่ต้มกินประทังชีวิตก็ไม่ได้เดี๋ยวผิดไขเขาอีกครับ ถ้าเป็นทองคำเอาไปแลกที่ร้านมาเป็นเงินซื้อไข่ต้มกินได้เลยครับ
จะเอาไปลงในหุ้นก็กลัวโดนหุ้นปั่น ไม่มีฟามรู้ว่าบริษัทไหนงบการเงินยังไง บัญชีแต่งหรือเปล่าดูตัวเลขไม่เป็น หุ้นไหนราคาเกินมูลค่าบลาๆ ดูไม่เป็นครับ
ก็เลยลงทุนแบบโง่ๆ ในทองคำ ที่มีมาแต่โบราณกาลนี่แหละครับ พอเกิดสงครามแบกหีบทองคำหนีทางเรือก็ยังทันครับ
เป็น ยสตน. นะครับ
เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับทองคำบ้างครับ ?
ปล.ผมไปเจอช่างร้านทองใน ตต เขาแนะนำให้เก็บทองแท่ง 1 บาท หรือ 5 บาทขึ้นไป ต่ำกว่านั้นแลกขายขาดทุน
เค้าบอกว่า ทองคำแท่ง 1 บาท เวลาแลกขายจะเสียค่าบล็อค 150-250 บาท รอครึ่งปี อันนี้ไม่แน่ใจหมายถึงมูลค่าคืนทุน+กำไรรึเปล่า
ถ้าเป็น 5 บาทขึ้นไปไม่เสียค่าบล็อค รอขายได้เงินประมาณ 15 วัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้