เปลี่ยนที่ทำงานบ่อยๆกับอยู่ที่เดิมนานๆ แบบไหนก้าวหน้ากว่ากัน

เงินเดือน ความเจริญก้าวหน้า แบบไหนดีกว่า
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
คิดแบบ job hopper หรือ specialist หละ เลือกแบบไหน

ถ้าเด้งเอาเงินมันดี แต่ถึงจุดนึงคุณจะเล่นบทเดิมไม่ได้แล้วนะครับ เพราะมันตัน คุณไม่มีความเป็นสเปเชียลเขามองออกครับว่าคุณเด้งงานบ่อยคุณหวังแค่เงินเดือน ยังไงก็ดูออกเพียงแค่อ่าน resume เพราะบริษัทมันไม่ได้ใหญ่ขึ้น แต่งานเท่าเดิม exp เท่าเดิม

แต่รกจำนวนแบบ 1-2 ปี ไปบริษัทอะไรก็ไม่รู้ไปเรื่อย เขาดูออกเลยด้วยซ้ำว่าคุณย้ายงานเพราะเงินและเบื่อภาระงาน

HR เคยสอนมาว่า resume ที่มีบริษัทเยอะๆ แต่ไม่เป็นที่รู้จัก มันไม่ได้ดูโก้หลอกนะ เพราะมัน low profile เกินไป

แต่สกิลและทักษะคุณโคตรจะตันเลยเพราะทำงานแต่เดิมมาตลอดเหมือนเดิมมาตลอด เช่น ทำงาน word excel คุณก็อยู่แค่นั้น ที่ละ 1-2 ปี ที่ใหม่จ่ายดีคุณก็ไป แล้วก็ทักษะเดิม word excel ไปเรื่อยๆ ต่อให้ผ่านไป 6 ปี 3 ที่ ก็ทำ word excel เหมือนเดิมจะไปได้แค่ไหน ทั้งๆที่เขาไป BI และ อื่นๆ เล่นอย่างอื่นหมดแล้ว

คิดแบบทำงานแม่บ้านนั่งกวาดพื้นก็จะอยู่แบบงานแม่บ้านนั่งกวาดพื้น ทั้งๆที่ เรามีเทคโนโลยีอื่นที่ดีกว่าแค่นั่งกวาดพื้นตั้งเยอะ คุณขาดการพัฒนาเพื่อเป็น specialist แต่หลงผิดแล้วเอาคำว่า routine มาเป็นความชำนาญพิเศษ

ทั้งที่คนที่เขาเก่งและเล่นเป็น เขาพัฒนาตัวเองด้วย แล้วก็หวังเงินด้วย งานแบบใหม่ สังคมแบบใหม่ เพื่อพัฒนาตัวให้เป็น specialist ในแต่ละด้านทุกอย่างมี career path หมดทุกอาชีพ แต่มีจุดตันไม่เท่ากัน เงินเดือนและผลประโยชน์ก็ไม่เท่ากันอีก แต่มีนมีความ challenge สูงแน่นอน

แต่ถ้าถูกบริษัทขังไว้ตำแหน่งเดิมนาน จนไม่ได้รับการ promote อย่างที่หวัง goal/target มันไม่ได้เลย มันก็ควรคิดอย่าง job hopper ไว้บ้างถ้ามันยังมีหนทางไปให้ไปต่อแล้วยังอยากไปต่อ

ึดังนั้นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดคือ ไม่ใช่การเลือกครับ ควรมีทั้งสองอย่างในตัวเองแล้วใช้ให้ถูกเวลา คนที่รู้จะรู้ว่า ต้อง job hopper ให้เป็น แล้วยังได้เป็นทั้ง specialist ที่มีทักษะสูงขึ้นด้วย ผลประโยชน์ดีขึ้นด้วย

แต่ผลสุดท้ายมันจะมีจุดอิ่มตัวอยู่คือ ไปไม่ได้มากกว่านี้และงานมันจบแค่ตรงนี้ นี่คือ end game แล้ว คุณต้องไปหวังผลประโยชน์อย่างอื่นแทนเช่น สวัสดิการ

โลกการทำงานคิดแค่นี้ก็พอครับ ยังใช้คำว่า "ไม่เลือกงานไม่ยากจนกันอยู่อีกหรอ" ในเมื่อบางอย่างถึงจะดูมืดบอด แต่ถ้าหัดนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็น มันไม่เคยเจอทางตันหลอกนะ

ทั้งๆ ที่การพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่บริษัทอยากเลือกคุณแน่ๆ มันได้ผลประโยชน์ทั้ง เงินเดือน เวลา ความเจริญก้าวหน้า เลือกได้ทุกข้อเลยด้วยซ้ำ ทำไมต้องเลือกงานอะครับ ทำไมไม่ลองคิดว่าให้งานเลือกเราบ้างหละ??

ดีกว่าไปอ้างว่าโชคชะตานั่นนู่นนี่ คุณแค่ลงทุนซื้อเครื่องดูฝุ่นแล้วกวาดพื้นน้อยลงเองครับ?? ถึงจะไม่ได้ผลประโยชน์กับบริษัท แต่คุณไม่ต้องกวาดทีละนิดกว่าจะหมด ยังคงเป็นแม่บ้านเหมือนเดิมแต่สบายขึ้น

ไหนจะไม้ถูพื้นแบบไฟฟ้าอีก แค่เดินลากจบเลย ต้องมาถูไปถูกลับบ่อยทำไม ไปโฟกัสจุดอับที่เริ่มหมองก็พอ นี่แหละคิดอย่างพัฒนาตัวเองเสมอ

ถึงจะย้ายงานไม่ได้แต่เครื่องทุ่นแรงหนะ เพียบครับ แล้วมันก็ช่วยแก้ปัญหาการย้ายงานไม่ได้เพราะเราตันจริงๆ อาชีพแม่บ้านมันก็จบแค่ตรงนี้แหละเป็นหัวหน้าแม่บ้านไม่ได้ตำแหน่งอะไรเพิ่มเลย มันมีจุดอิ่มเหมือนกัน

เครื่องไม้เครื่องมือก็คือสวัสดิการในรูปแบบหนึ่ง ถ้าบริษัทไม่ให้ กุหาเองก็ได้เครื่องนึงแค่ 2000 แถมใช้ไฟฟรีด้วย ใช้งานที่บ้านได้ด้วย

ทุกวันนี้ผมยังแนะนำป้าแม่บ้านเวลาเดินผ่านที่คอนโดว่า ป้าเอาไหมเครื่องใช้ไฟฟ้าดูดฝุ่นใช้เสร็จอย่าลืมมาวางหน้าห้องผมก็พอ รักษาดีๆ ป้าแกก็เกรงใจหนะครับกลัวทำพัง ผมยังไปขายนโยบายซื้อเครื่องมือทำความสะอาดไว้เป็นสวัสดิการคอนโดแทนเลย

ต่อจากนี้ไปผมก็ไม่ต้องการป้าระดับสเปเชียลแล้ว ขอแค่ป้ายังมีใจรักทำงานแล้วเอาสวัสดิการตรงนั้นไปใช้ให้เป็นก็พอใจแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่