พ่อเป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกร (มีเล่มเขียว) แต่พี่ชายมีม.33 ทำงานประจำ ตัวเรามีม.39 จ่ายประกันสังคมด้วยตัวเอง ปัจจุบันขายของออนไลน์เป็นอาชีพหลัก แต่พ่อเคยมีบ้านเล็กและมีลูกด้วยกัน 1 คน (พ่อจดทะเบียนสมรสกับแม่เรา ไม่เคยหย่ากัน ปัจจุบันก็ยังถือทะเบียนสมรสร่วมกับแม่เราอยู่) ปัจจุบันพ่ออายุมากแล้ว ไม่สามารถทำการเกษตรไหว และพี่ชายไม่อยากทำการเกษตร จึงคุยกันว่าจะให้เรารับต่อ 

ขออนุญาตสอบถามดังนี้
1. การที่เรามี ม 39 จะยังสามารถรับโอนสิทธิที่ดิน สปก ได้มั้ยคะ
2. เข้าใจว่าการโอนสิทธิที่ดิน สปก ให้บุตรต้องได้รับความยินยอมจากครอบครัว กรณีนี้รวมถึงลูกจากบ้านเล็กก็ต้องมาเซ็นยินยอมให้ด้วยมั้ยคะ 
3. หากจะเปลี่ยนชื่อหัวหน้าครัวเรือน (ชื่อในเล่มเขียว) เป็นเราไปเลย แต่คุณสมบัติของผู้ที่จะขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ คือ ต้องเป็นเกษตรกร แต่ปัจจุบันเรายังไม่มีชื่อเป็นสิทธิในที่ดินใดเลย กรณีนี้เราจะต้องให้พ่อโอนสิทธิที่ดิน สปก ให้เราก่อนถึงจะเปลี่ยนชื่อหัวหน้าครัวเรือนได้ใช่มั้ยคะ (หรือสามารถไปทำทั้งหมดนี้พร้อมกันได้เลย) 
4. พ่อยังมีที่ดินที่เป็นที่มือเปล่าอีกแปลง ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างขออนุญาต (จนท.เกษตรอำเภอสอนเราใช้แอพ ling ในการเดินวัดที่น่ะค่ะ แล้วให้ปริ้นรูปส่งแนบกับเอกสารขออนุญาติ เราก็ลืมถามว่าสรุปแล้วมันคือที่ที่มีชื่อเอกสารสิทธิว่าอะไร) มีลักษณะเป็นเนินเขา ด้านหลังติดลำธาร ถัดออกไปเป็นภูเขา มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นที่ดิน สทก ตามความเข้าใจที่เราเสิร์ชหาข้อมูลเอง แต่ที่ดินประเภทนี้เราไม่มีความรู้เลย มันสามารถปลูกหรือทำอะไรได้บ้าง เห็นแปลงข้างๆ เขาปลูกไม้ยูคา แปลว่าน่าจะปลูกไม้ยืนต้นได้ เราเลยอยากปลูกต้นสนประดิพัท สร้างบ้าน 1 หลังที่เปิดขายกาแฟหน้าบ้านหารายได้เสริมไปด้วย จะสามารถทำในที่ดินประเภทนี้ได้มั้ยคะ 
5. นิยามของคำว่า มีคุณสมบัติเป็นเกษตรกร คือยังไงคะ ในเมื่อ 1 ครอบครัวสามารถมีเล่มเขียวได้เพียง 1 เล่ม คือ จะมีคนได้ขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรเพียงคนเดียว แล้วปกติเวลาทำแรงทำการเพาะปลูกใดๆ พ่อก็จะจ้างคนมาช่วยตลอด พูดง่ายๆ คือ เราไม่เคยได้ลงมือปลูกอะไรในที่ดินของพ่อเลย นอกจากช่วยหาข้อมูล หาต้นกล้า เมล็ดพันธุ์ ซื้อปุ๋ย 

ขอบคุณค่ะ <_ _)>