ผมเป็นนักศึกษาจบใหม่ป้ายแดงจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ในโซนภาคใต้
ถามว่าทำไมถึงเดินสอบในสายราชการและรัฐวิสาหกิจอย่างเดียว ไม่ไปทำงานบริษัทก่อน ผมจะขอตอบแบบนี้ครับว่า
"ที่บ้านของผมคุณพ่อรับราชการ พ่ออยากจะให้สอบเข้ารับราชการอย่างเดียว แต่ส่วนตัวผมแล้วก็ไม่ค่อยอยากจะทำในสายราชการเท่าไหรนัก ใจจิงผมอยากจะทำคือรัฐวิสาหกิจจะมี กฟผ. กฟน. กฟภ. ซึ่งตรงกับสาขาของผมที่ได้เรียนมาคือสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า และแน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลย เพราะต้องมีคุณสมบัติให้ครบไม่ว่าจะเป็น 1.ผลคะแนน TOEIC 2.ใบกว. และแน่นอนว่าผมที่ถนัดคำนวณก็ต้องอ่อนภาษาตามกันมา ก็เลยลองดูสักตั้ง "
แต่ในทางพ่อผมก็ยังจะให้รับราชการให้ได้ก็ไม่เป็นไรผมจะสอบให้ท่านสบายใจ
เริ่มด้วยสนามแรกคือ สอบภาค.ก
>> ผมได้อ่านอย่างบ้าคลั่งด้วยไฟที่กำลังร้อนอยู่ภายในตัวซึ่งผมได้ไปศึกษาหาข้อมูลแล้วว่าข้อสอบของรัฐวิสาหากิจจะมีพวกวิชาความรู้ทั่วไปด้วยนั้นก็คือยิงปืนนั้นเดียวได้นกถึงสองตัว ผมก็เลยอ่านและทุ่มเทอย่างมาก และผลปรากฎว่า
>>สอบผ่านในรอบเดียวครับ<<
โชคช่วยมาก5555
สนามที่สองคือ กรมทางหลวง
>> หลังจากประกาศผลภาค ก. ได้สักประมาณหนึ่งเดือนก็มีประกาศรับสมัครของกรมทางหลวงตำแหน่งวิศวกรไฟฟ้า 1 ตำแหน่ง (ท้อเลย) แต่ให้คิดสะว่าไปลองข้อสอบละกัน ก็เลยอ่านอย่างบ้าคลั่งอีกรอบและผลปรากฏว่า
>>สอบผ่านและได้ขึ้นบัญชีไว้ในลำดับที่ 4
ผมก็ได้สอบงานราชการให้พ่อได้สบายใจไปละ และต่อจากนี้คือเป้าหมายจิงๆของผมละ เริ่มมมมมมม !
หลังจากประกาศผลการสอบของกรมทางหลวงผมก็ได้สมัครสอบโทอิคไป ในเดือนธันวาคมและเป็นที่แน่นอนว่าระดับภาษาอังกฤษของผมคือ -100 % 5555
ในมหาวิทยาลัยก็ได้แค่ C มาตลอดไม่เคยไป B กับเค้าเลย ผมไม่คิดจะมายอมแพ้แค่นี้แน่นอนก็เลยอ่านและท่องศัพท์ทุกเวลาไม่หยุดพัก ในแอพโทรศัพท์มือถือมีอะไรเกี่ยวกับภาษาอังกฤษโหลดมาให้หมดแต่ผมมีเวลาเตรียมตัวแค่ 3 สัปดาห์ก่อนสอบเท่านั้นเอง และผลปรากฏว่า
>> ไม่ผ่านเกณฑ์ได้มาแค่ 470 ซึ่งขั้นต่ำต้องได้ 550 ขึ้นไป <<
ทำไงละทีนี้คิดสะว่าจากความรู้ติดลบสอบได้ 470 ก็ถือว่าโอเคแล้วละ หลังจากนั้นก็เอาใหม่ผมใช้เวลาสองเดือนในการเตรียมตัวสอบใหม่อีกครั้งและผลปรากฏว่า
>> ผ่านเกณฑ์ ได้มา 640 <<< โชคช่วยจิงๆ
และหลังจากสอบโทอิคไปไม่นาน กฟน.ก็ได้เปิดสอบ เอาละวะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนร่างเป็นปีศาจผมได้อ่านจนบ้าคลั่งอีกครั้งโดยผมถือคติที่ว่า อ่านจนกว่าผมจะตายไปข้างนึง 555 ซึ่งเป็นการสอบครั้งแรกที่ผมไม่รู้แนวข้อสอบอะไรเลยแต่ก็มีเนื้อหาที่จะออกบอกมาให้ แต่ก็นั่นแหละผมไม่รู้ว่าจะอ่านเน้นตรงไหนยังไงคือเคว้งมากกเหมือนงมเข็มในจักรวาล555
แต่คิดว่าผมจะยอมแพ้หรอ ไม่เลยสักนิดผมหาซื้อหนังสือมาอ่านไม่ก็ชีทที่เคยเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยมาอ่าน อ่านแล้ว อ่านอยู่ และอ่านต่อไป 55 คุ้นๆนะ ผมใช้เวลาอ่านวันละ 8 ชม. และผลปรากฏว่า
>> ผมสอบผ่านข้อเขียนและรอบสัมภาษณ์ติดตัวจริงเป็นที่เรียบร้อยครับ<<
มันคุ้มจิงๆกับการรอคอย
--------------------------------------------
จากทั้งหมดที่ผมได้เขียนมานี้ไม่ได้ต้องการจะมาโอ้อวดหรือต้องการจะบอกว่าที่ผมได้ทำงานนั้นดีกว่าที่อื่นแต่อย่างใด
แต่ผมอยากจะบอกว่า ทุกคนล้วนมีความฝันและเป้าหมายของตัวเองอยู่แล้วไม่ว่าจะทำธุรกิจ หรือจะเรียนต่อโท เอก อะไรก็แล้วแต่ผมอยากจะให้ทุกคนสู้ในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเป็น อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครเป็นอันขาดไม่นั้นจะทำให้เราหมดกำลังใจและอย่าไปฟังคำคนที่พูดเข้ามาทำให้เราไขว้เขว ถ้าเป็นไปได้ก็เลิกเล่นโซเชียลให้น้อยลงเพราะนี้คือตัวอันตรายที่ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมาย
แนะนำหนังสือดีๆครับ
1. atomic habit เพราะชีวิตดีได้กว่าที่ เป็น
2. คนสำเร็จเค้ามีนิสัยแบบไหน (ดีมากๆเล่มนี้อยากจะให้อ่าน)
3. ฮาร์วาร์ด เล่ม 1-2 ( ผมน่าจะได้เพราะสองเล่มนี้เลย เป็นหนังสือที่คอยเติมไฟไม่ให้มอดดับลงมีกำลังที่จะสู้ต่อไป)
ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนที่จิงมีเรื่องอยากจะมาแชรฺ์อีกมากแต่หมดแรงล้าวว
แชร์ประสบการณ์สอบวิศวกรไฟฟ้า ราชการ และ รัฐวิสาหกิจ
ถามว่าทำไมถึงเดินสอบในสายราชการและรัฐวิสาหกิจอย่างเดียว ไม่ไปทำงานบริษัทก่อน ผมจะขอตอบแบบนี้ครับว่า
"ที่บ้านของผมคุณพ่อรับราชการ พ่ออยากจะให้สอบเข้ารับราชการอย่างเดียว แต่ส่วนตัวผมแล้วก็ไม่ค่อยอยากจะทำในสายราชการเท่าไหรนัก ใจจิงผมอยากจะทำคือรัฐวิสาหกิจจะมี กฟผ. กฟน. กฟภ. ซึ่งตรงกับสาขาของผมที่ได้เรียนมาคือสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า และแน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลย เพราะต้องมีคุณสมบัติให้ครบไม่ว่าจะเป็น 1.ผลคะแนน TOEIC 2.ใบกว. และแน่นอนว่าผมที่ถนัดคำนวณก็ต้องอ่อนภาษาตามกันมา ก็เลยลองดูสักตั้ง "
แต่ในทางพ่อผมก็ยังจะให้รับราชการให้ได้ก็ไม่เป็นไรผมจะสอบให้ท่านสบายใจ
เริ่มด้วยสนามแรกคือ สอบภาค.ก
>> ผมได้อ่านอย่างบ้าคลั่งด้วยไฟที่กำลังร้อนอยู่ภายในตัวซึ่งผมได้ไปศึกษาหาข้อมูลแล้วว่าข้อสอบของรัฐวิสาหากิจจะมีพวกวิชาความรู้ทั่วไปด้วยนั้นก็คือยิงปืนนั้นเดียวได้นกถึงสองตัว ผมก็เลยอ่านและทุ่มเทอย่างมาก และผลปรากฎว่า
>>สอบผ่านในรอบเดียวครับ<<
โชคช่วยมาก5555
สนามที่สองคือ กรมทางหลวง
>> หลังจากประกาศผลภาค ก. ได้สักประมาณหนึ่งเดือนก็มีประกาศรับสมัครของกรมทางหลวงตำแหน่งวิศวกรไฟฟ้า 1 ตำแหน่ง (ท้อเลย) แต่ให้คิดสะว่าไปลองข้อสอบละกัน ก็เลยอ่านอย่างบ้าคลั่งอีกรอบและผลปรากฏว่า
>>สอบผ่านและได้ขึ้นบัญชีไว้ในลำดับที่ 4
ผมก็ได้สอบงานราชการให้พ่อได้สบายใจไปละ และต่อจากนี้คือเป้าหมายจิงๆของผมละ เริ่มมมมมมม !
หลังจากประกาศผลการสอบของกรมทางหลวงผมก็ได้สมัครสอบโทอิคไป ในเดือนธันวาคมและเป็นที่แน่นอนว่าระดับภาษาอังกฤษของผมคือ -100 % 5555
ในมหาวิทยาลัยก็ได้แค่ C มาตลอดไม่เคยไป B กับเค้าเลย ผมไม่คิดจะมายอมแพ้แค่นี้แน่นอนก็เลยอ่านและท่องศัพท์ทุกเวลาไม่หยุดพัก ในแอพโทรศัพท์มือถือมีอะไรเกี่ยวกับภาษาอังกฤษโหลดมาให้หมดแต่ผมมีเวลาเตรียมตัวแค่ 3 สัปดาห์ก่อนสอบเท่านั้นเอง และผลปรากฏว่า
>> ไม่ผ่านเกณฑ์ได้มาแค่ 470 ซึ่งขั้นต่ำต้องได้ 550 ขึ้นไป <<
ทำไงละทีนี้คิดสะว่าจากความรู้ติดลบสอบได้ 470 ก็ถือว่าโอเคแล้วละ หลังจากนั้นก็เอาใหม่ผมใช้เวลาสองเดือนในการเตรียมตัวสอบใหม่อีกครั้งและผลปรากฏว่า
>> ผ่านเกณฑ์ ได้มา 640 <<< โชคช่วยจิงๆ
และหลังจากสอบโทอิคไปไม่นาน กฟน.ก็ได้เปิดสอบ เอาละวะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนร่างเป็นปีศาจผมได้อ่านจนบ้าคลั่งอีกครั้งโดยผมถือคติที่ว่า อ่านจนกว่าผมจะตายไปข้างนึง 555 ซึ่งเป็นการสอบครั้งแรกที่ผมไม่รู้แนวข้อสอบอะไรเลยแต่ก็มีเนื้อหาที่จะออกบอกมาให้ แต่ก็นั่นแหละผมไม่รู้ว่าจะอ่านเน้นตรงไหนยังไงคือเคว้งมากกเหมือนงมเข็มในจักรวาล555
แต่คิดว่าผมจะยอมแพ้หรอ ไม่เลยสักนิดผมหาซื้อหนังสือมาอ่านไม่ก็ชีทที่เคยเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยมาอ่าน อ่านแล้ว อ่านอยู่ และอ่านต่อไป 55 คุ้นๆนะ ผมใช้เวลาอ่านวันละ 8 ชม. และผลปรากฏว่า
>> ผมสอบผ่านข้อเขียนและรอบสัมภาษณ์ติดตัวจริงเป็นที่เรียบร้อยครับ<<
มันคุ้มจิงๆกับการรอคอย
--------------------------------------------
จากทั้งหมดที่ผมได้เขียนมานี้ไม่ได้ต้องการจะมาโอ้อวดหรือต้องการจะบอกว่าที่ผมได้ทำงานนั้นดีกว่าที่อื่นแต่อย่างใด
แต่ผมอยากจะบอกว่า ทุกคนล้วนมีความฝันและเป้าหมายของตัวเองอยู่แล้วไม่ว่าจะทำธุรกิจ หรือจะเรียนต่อโท เอก อะไรก็แล้วแต่ผมอยากจะให้ทุกคนสู้ในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเป็น อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครเป็นอันขาดไม่นั้นจะทำให้เราหมดกำลังใจและอย่าไปฟังคำคนที่พูดเข้ามาทำให้เราไขว้เขว ถ้าเป็นไปได้ก็เลิกเล่นโซเชียลให้น้อยลงเพราะนี้คือตัวอันตรายที่ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมาย
แนะนำหนังสือดีๆครับ
1. atomic habit เพราะชีวิตดีได้กว่าที่ เป็น
2. คนสำเร็จเค้ามีนิสัยแบบไหน (ดีมากๆเล่มนี้อยากจะให้อ่าน)
3. ฮาร์วาร์ด เล่ม 1-2 ( ผมน่าจะได้เพราะสองเล่มนี้เลย เป็นหนังสือที่คอยเติมไฟไม่ให้มอดดับลงมีกำลังที่จะสู้ต่อไป)
ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนที่จิงมีเรื่องอยากจะมาแชรฺ์อีกมากแต่หมดแรงล้าวว