พ่อที่เป็นมะเร็ง เขียนพินัยกรรมให้พี่ชายที่เหลวแหลกทั้งหมด

พ่อที่เป็นมะเร็ง เขียนพินัยกรรมให้พี่ชายที่เหลวแหลกทั้งหมด

ครอบครัวเรามี กันอยู่ 5 คน พ่อ แม่ พี่ชาย เรา น้องสาว  

พ่อเป็นมะเร็งกระดูก ลุกลาม ไปทั่วร่างกายแล้ว หมอก็ตอบไม่ได้ว่าพ่ออยู่ได้ถึงเมื่อไหร่ คาดว่าไม่น่าเกิน 1 ปี
ตอนนี้ก็เริ่ม ติดเตียง เดินไม่ค่อยไหวแล้ว

เรากับแม่ไม่โอเคเลยกับพ่อเลยที่ตัดสินใจแบบนี้ ของที่พ่อมีก็แค่ บ้านตึกแถว 1 ห้องติดถนนใหญ่ (ซื้อขายกันประมาณ 6 ล้านกว่า)
รถ altis เก่าๆ อีก 1 คัน  และเงิน อีก แสนกว่าบาท

รถกับเงิน เราไมว่านะถ้าพ่อจะให้พี่ แต่บ้านนี้ เราอยู่มาตั่งแต่เกิด ถ้าไปอยู่กับพี่ โอกาสโดนยึดมีสูงมาก
ถึงไม่อยู่บ้านนี้แล้ว แต่น้องสาวเรายังเรียนมหาลัยอยู่ก็ยังอยู่บ้านนี้กับแม่  แล้วเราก็เป็นคนซื้อห้องข้างๆ มาตีทะลุให้บ้านใหญ่ขึ้น

พี่ชายเราเป็นคนเลว ตอนเรียนก็ขายยาเสพติด จนโดนจับเข้าสถานพินิจ มีลูก 3 คน 3 เมีย ก็ไม่ดูแลทิ้งให้ผู้หญิงเลี้ยง
เรียนจบ ม.6(เพราะครูช่วยดัน)  ไปเรียนมหาลัยอีกหลายที่ก็เสียเงินฟรี  ไม่จบซักที่  ได้แต่เมีย 
ตอนนี้ อายุ 40 กว่า แล้วก็ยังอยู่บ้านนี้อยู่ อาชีพเล่นดนตรีกลางคืนหากินไปวันๆ เงินดีกว่าเราอีก แต่เก็บเงินไม่อยู่

ตอนโควิด ไม่มีงานทำก็ไปเป็นหนี้เขา 6 แสนกว่า เราต้องช่วยใช้หนี้ให้มันกับแม่คนละครึ่ง 

พ่อให้เหตุผลว่า เราดูและตัวเองได้แล้วมีงานทำมั่นคง เดียวได้แต่งงานกับผู้ชายดีๆ ก็สบายแล้ว ไม่ต้องเอาเงินครอบครัวไปหรอก
น้องสาวเราอย่างไง แม่ กับเรา ก็ดูเลี้ยงอยู่แล้ว 

แม่ก็โกรธพ่อมากที่จะทำแบบนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่ทะเลาะกับพ่ออย่างเดียว 
บ้านนี้แม่ก็เป็นคนจ่ายเงินผ่อนซะส่วนใหญ่จนหมด แต่ดันเป็นชื่อพ่อคนเดียว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ตอนเริ่มอ่านบรรทัดแรกๆ ก็นึกว่าจะเป็นแบบไหน  
สรุป ก็ตรงกับที่คิดไว้ ว่าต้องห่วงคนที่แย่กว่า กลัวเขาอดตาย แต่คนที่เดินเองได้ปล่อยมัน หลายบ้านก็เป็นแบบนี้แหละครับ บ้านผมคล้ายๆ แบบนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ยังไงก็ห่วงคนที่ด้อยกว่า จนบางทีมันมองได้ว่าไม่ยุติธรรม  

แต่ในเมื่อมันเป็นไปแล้ว ก็ต้องทำใจครับ เราก็ต้องรีบเก็บรีบสะสมเงินและทรัพย์สินของเราเอง ที่สะคัญ คือ เราต้องย้ำว่า เขาได้มรดกไปหมดแล้ว ถ้าไปไม่รอด ไม่ช่วยแล้วนะ จะได้ไม่ต้องมาโดนไถอีกโดยคำว่าพี่น้องในภายหลัง
ความคิดเห็นที่ 31
งั้น จขกท ลองบอกพ่อดูซิว่า งั้นพ่อก็ให้พี่ชายจขกทมาดูแลพ่อนะ  เดี๋ยวหนูย้ายไปอยู่ข้างนอกกับแม่กับน้อง  สมบัติพ่อๆจะให้ใครเรื่องของพ่อ  แล้วให้คนๆนั้นมาดูแลพ่อแทนหนูแล้วกัน หนูจะได้ไม่มีอะไรติดใจอีก  

ดูซิพ่อจขกทจะว่ายังไง  ทำไมพ่อทำกับจขกทกับแม่กับน้องแบบนี้ได้ไง  ใจร้ายมาก ทั้งที่ตัวเองก็วาระสุดท้ายแล้วน่าจะคิดได้  คนที่คอยดูแลจุนเจือกับไม่ยกให้  แต่ไปยกให้คนที่ล้างผลาญ  งงมาก!!! (ขอโทษจขกทนะถ้าแรงไป)

เข้าใจฟีลจขกทนะ  คือไม่ได้อยากได้สมบัติอะไรของพ่อหรอก  แต่อยากวัดใจว่าพ่อจะยกให้ใครบ้าง  แต่มันตะลึงจนไปไม่เป็นตรงที่ยกให้คนที่ล้างผลาญครอบครัวมาโดยตลอดนี้แหละ  พ่อจขกททำไม่ถูกต้องอย่างแรง  ทั้งแม่ทั้งน้องและจขกทไม่มีความหมายกับเขาขนาดนี้เลยหรอทั้งที่ก็เป็นครในบ้านเดียวกัน คอยดูแลทุกข์สุขกันมา  แล้วเหตุผลที่ยกสมบัติให้พี่ชายนี่ก็ยิ่งแย่ไปใหญ่ คนที่นิสัยแบบนั้นยกบ้านให้เผลอๆพ่อเสียเอาบ้านไปขายแน่นอน
ความคิดเห็นที่ 7
พ่อจดทะเบียนสมรสกับแม่​  แม่เป็นคนจ่ายซะส่วนใหญ่​   บ้านเป็นชื่อพ่อคนเดียว
    ถ้าพ่อซื้อบ้านมาก่อนจดทะเบียนสมรส​  บ้านย่อมเป็นสินส่วนตัวของพ่อ​  จะยกให้ใครก็ได้​  แต่แม่ช่วยผ่อนซะส่วนใหญ่​  ก็ย่อมเป็นทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกัน​   ก็ต้องแบ่งกันคนละครึ่ง​  พินัยกรรมของพ่อ​ ก็มีสิทธ์แค่ครึ่งเดียวของบ้าน​  แต่แม่ก็ต้องพิสูจน์พยานหลักฐานว่าช่วยผ่อน​  
   แต่ถ้าบ้านซื้อมาหลังจดฯ​ อันนี้เป็นสินสมรสแน่นอน​ ถึงแม้จะเป็นชื่อพ่อคนเดียว​  แม่ก็มีสิทธ์ครึ่งนึง​  พินัยกรรมของพ่อก็มีสิทธ์แค่ครึ่งเดียว​(ยกเว้นว่าเงินที่ซื้อนั้น​ มาจากเงินหรือทรัพย์มรดกของพ่อ)​   ถึงเวลานั้น​ แม่กับพี่ชายก็ต้องจดทะเบียนถือกรรมสิทธ์ร่วมกัน​   ถ้ามีปันหา​ ก็ต้องขายเอาเงินมาแบ่งครึ่งกัน​  ประมานนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่