สวัสดีค่ะ
กระทู้นี้เป็นการสมัครสมาชิกเพื่อมาแชร์เรื่องที่เหมือนจะไกลตัวแต่ "อยู่ในตัวของผู้หญิง"
ขอเล่าอาการที่เป็นแรงฮึบ!! ให้เราไปตรวจก่อนเลยค่ะ
เริ่มด้วยมีอาการ ปวดท้องฝั่งซ้าย เป็นจุดๆ
เริ่มจากท้องส่วนบน ส่วนกลาง และท้องน้อยฝั่งซ้าย ทุกอย่างอยู่ฝั่งซ้ายหมดเลยค่ะ
สิ่งแรกที่ทำคือเข้า google ค่ะ (ปล.ทำงานใน รพ. แต่เลือกจะเข้า google ก่อน ไม่ยอมไปพบหมอ)
หลังจากเข้า google ได้สักระยะ ก็เริ่มวินิจฉัยตัวเอง
น่าจะเป็น "มะเร็งลำไส้!!!"
ความน่าจะเป็นสูงมากๆ เพราะเป็นคนท้องผูกเรื้อรัง ไม่กินยาถ่ายก็ไม่ถ่ายเลยค่ะ
และการกินคือ แย่สุดๆ ผักไม่ค่อยกิน ผลไม้ แทบจะไม่กินเลย และกินเร็ว คำใหญ่ กินไว จนคนรอบข้างตกใจ
และสุดท้าย สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจไปหาหมอ มีเลือดติดมากับน้องอึ (อึจากการกินยาถ่าย)
เริ่มอยู่ไม่เป็นสุขแล้วค่ะ ทำยังไงดี... สรุป ไปพบหมอที่คลินิกซะเลย
หมอซักประวัติ และทำการตรวจโดยการกดท้อง ไม่พบก้อนอะไร
แต่หมอเห็นว่าเราเครียดและกังวลมากๆ เลยสั่งตรวจอึ
หลังจากตรวจเสร็จทุกอย่างวันนั้น หมอจ่ายยาถ่าย และนัดมาฟังผลอีกครั้ง
และวันฟังผลก็มาถึงค่ะ... สรุป ไม่เป็นมะเร็งสำไส้ค่ะ
โล่งใจ แต่ไม่ 100% เพราะลึกๆ ก็ยังมีความกังวัลอยู่มากๆ
หมอเลยแนะนำปรับพฤติกรรมการกินทั้งหมด
อันนี้ทุกคนน่าจะรู้กันอยู่แล้วว่าต้องปรับการกินยังไงบ้าง เราขอข้ามการอธิบายเลยนะคะ
จบเรื่องการวินิจฉัยว่าตัวเองน่าจะเป็นมะเร็งสำไส้
มาเริ่มเรื่องจากหัวข้อกระทู้กันเลยค่ะ
หลังจากที่ตรวจเรื่องมะเร็งสำไส้ไปแล้ว อาการปวดท้องซ้ายยังไม่ได้จากเราไปไหน
แค่ไม่ปวดท้องส่วนบน และกลาง แต่ไปปวดอยู่จุดเดียวคือ ท้องน้อยฝั่งซ้าย
หลังจากนั้นไม่กี่วันเริ่มมีประจำเดือน
ปกติเมื่อก่อนเป็นคนที่จะมี ปจด มาเยอะเต็มผ้าอนามัย 3-4 วัน
แต่ช่วงไม่กี่เดือนนี้ ปจด มาน้อย จะมาเยอะเต็มแผ่นแค่วันเดียว และจะมากะปริดกะปรอย 3-4 วัน ถึงจะหมด
ในช่วงมี ปจด ก็จะมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย (ซึ่งอาการนี้เป็นทุกครั้งที่มี ปจด)
และมีเพิ่มอีกอาการคือ อยู่ๆ ก็รู้สึกแปล๊บๆ ที่น้องสาว
เอาละ... เริ่มอยู่ไม่เป็นสุขอีกแล้ว แต่ก็ยังลังเลจะไปหาหมอสูติดีมั้ย
เริ่มขั้นตอนเข้า google อีกรอบ
และจากการวินิจฉัยด้วยตัวเอง(อีก)แล้ว ความน่าจะเป็นหลายโรคมากๆ
หลังจากหมด ปจด มีเรื่องของตกขาวเปลี่ยนสี มีเลือดปนเข้ามาเพิ่มอีกเรื่อง...
โอเค... ไปหาหมอสูติเถอะ จะได้รู้ๆ กันไปเลย
แนะนำก่อนไปพบหมอสูติ ต้องจำรอบเดือนให้แม่นนะคะ
และวันที่ไปพบหมอสูติก็มาถึงค่ะ
ตื่นเต้น มากๆ ความตั้งใจของเราคือ อยากให้หมออัลตร้าซาวด์หน้าท้อง แค่นั้น
แต่พอเข้าไปซักประวัติ ด้วยอายุ 30+ (มีแฟนเป็น ผญ ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับ ผช.)
หมอเลยแนะนำให้ตรวจมะเร็งปากมดลูกไปเลย โอเค... ค่ะ ตรวจค่ะหมอ
งั้นคนไข้ไปปัสสาวะ เปลี่ยนกางเกงนะ
ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากๆ ค่ะ
ไม่แน่ใจ ผญ คนอื่นๆ รู้สึกยังไง แต่เรา อายมากกกกกกกกกก!!!!
พยาบาลหันไปคุยกับหมอ ''หมอคะ คนไข้เกร็งมากเลยค่ะ"
และเนื่องจากเราทำงานอยู่ใน รพ เลยลองหาข้อมูล หมอที่จะไปตรวจ
สรุป ว่าหมอคนนี้น่ารัก คุยดี โอเคค่ะ เราจะตรวจกับหมอ ผช
เริ่มตรวจกันเลยค่ะ เชิญขึ้นเตียงนะคะ
อันดับแรกน่าจะเป็นการป้ายเซลล์เพื่อตรวจมะเร็งปากมดลูก
แอบโดนหมอดุหรือเปล่าไม่รู้ค่ะ เพราะเราเกร็งและอาย ก้นเลยวางไม่ติดเตียงซะที
ตอนนั้นรู้สึกเจ็บ แต่เจ็บแป็บเดียว ไม่ได้เจ็บถึงขั้นทนไม่ไหว
หลังจากนั้นก็เริ่มอัลตร้าซาวด์ช่องท้องค่ะ อันนี้ไม่เจ็บเลย แค่รู้สึกจุกๆ นิดนึง
หลังจากที่หมอเริ่มแกว่งเจ้าเครื่องไปมา
สวัสดีซีสต์ สวัสดีถุงน้ำในรังไข่(หลายใบ) สวัสดีผนังมดลูกหนา(เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ)
นาทีนั้นเริ่มไม่รับรู้อะไรที่หมอพูดแล้วค่ะ
หมอตรวจไปสักพัก ก็ให้ลงจากเตียงมานั่งคุยกับหมอ
หมออธิบายให้ฟัง วาดรูปประกอบให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น
แต่ตอนนั้นความกังวลทำให้เบลอไปหมด คิดในใจ ต้องทะลุหูไปแน่ๆ ไม่น่าจะจำอะไรได้
เลยตัดสินใจอัดเสียงไว้
สรุปที่ตรวจเจอคือ
ถุงน้ำในรังไข่หลายใบ , ซีสต์ , ผนังมดลูกหนา , ฮอร์โม ผช เยอะมากกว่า ผญ
ที่จำได้ลางๆ คือ ผนังมดลูก ถ้าอายุ 35 ขึ้นไป อาจจะต้องขูด
เพราะในส่วนนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน และ "มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก"
หมอแนะนำให้คุมอาหาร (ลืมบอกไปค่ะ เราเป็นคนน้ำหนักตัวเยอะ) หรือกินยาคุมค่ะ
เราเลือกทั้งสองอย่างเลยค่ะ คุมน้ำหนักและกินยาคุม
หมอแนะนำยาคุม ไดแอน , ยาส และยาสมิน ถ้าเราฟังไม่ผิดนะคะ
เพื่อปรับในเรื่องของฮอร์โมนและนัดติดตามอาการอีก 3 เดือน
ตอนนี้กำลังลังแลว่าจะกินตัวไหนดี ที่ไม่ทำให้อ้วน เพราะเราต้องคุมน้ำหนักไปด้วย
และระหว่างนี้อีก 3 สัปดาห์ ก็ต้องมาลุ้นผลตรวจมะเร็งปากมดลูกกันต่อค่ะ
รูปอัลตร้าซาวด์
(ใครดูเป็นช่วยอธิบายเราอีกรอบได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่า)
หากเพื่อนๆ ผญ ผ่านมาอ่านกระทู้ของเรา
ไปตรวจกันนะคะ รู้เร็วจะได้รักษาได้ทันค่ะ อย่าไปกลัว อย่าไปอายค่ะ
ครั้งแรกผ่านไป ครั้งต่อไป ความอายเริ่มลดลงไปแล้วค่ะ
ขอจบกระทู้ไว้เท่านี้นะคะ
ขอบคุณค่า
เรื่องใกล้ตัวของผู้หญิง "ช่องคลอด" ที่ไม่ควรมองข้าม