ช่วยผมด้วยครับ ป้าผมเสียเพราะติดเชื้อในกระแสเลือด….? (เพราะวันแรกหมอตรวจไม่ละเอียดรึเปล่าครับ)

คืองี้ครับ ป้าผมพึ่งเสียไปเมื่อเดือนก่อนผมมีความข้องใจในการตรวจของคุณหมอมากครับ 

   คือต้องเล่าก่อนว่า
 วันที่ 4/5/66 :
       ป้าผมแกขี้ราดบนที่นอนเลยเอายาหยุดถ่ายให้แกกิน ละต่อมา

กลางดึกวันที่ 5/5/66 : 
       แกเข้าห้องน้ำไปถ่ายท้องน่าจะท้องเสีย แล้วแกก็ล้มลุกไม่ขึ้นเพราะเพลียมากเหมือนคนไม่มีแรง พอตอนเช้า(วันที่6/5/66)ผมตื่นมาดูก็เจอแกอยู่ในห้องน้ำแล้วครับ แต่แกบอกนอนอีกพักนึงเดะคงลุกไหว แต่พอถึงบ่ายสองแล้วแกก็ยังลุกไม่ไหวเลยเรียกรถพยาบาล พาไปส่งแกช่วงบ่ายๆ 
พอไปถึงหมอบอกแกมีไข้ เดี๋ยวจะให้แอดมิดค้างคืนที่ร.พ. หลังจากนั้นผมกับป้าก็เล่าอาการเรื่องล้มในห้องน้ำกับท้องเสียแล้วกินยาหยุดถ่ายให้หมอฟัง หมอก็พาแกไปเจาะเลือดละเอ๊กซเรย์ดูแล้ว ผลเลือดปกติ เอ๊กซเรย์ปกติทุกอย่างหมอเลยให้นอนให้น้ำเกลือดูอาการ พอถึงตอนทุ่มนึงหมอเห็นแกแค่เพลียมีไข้ คิดว่าไม่น่าเป็นไรมากเลยให้กลับบ้านได้ ผมก็พาแกกลับมาบ้านทั้งๆที่แกยังกินข้าวเองไม่ไหวเดินไม่ไหว (ปกติแกทำทุกอย่างเองได้)

พอวันต่อมาวันที่ 7/5/66  : 
        ตอนเช้าแกยังคุยได้อยู่แต่ไม่มีแรงและเพลียมาก มีอาการซึมๆ ผมเลยให้ยาพาราแก้ไข้แกกินไปแต่อาการไม่ดีขึ้นจนแกเพลียมากหมดแรงจนหลับไปเพราะพูดไม่ไหว ผมเลยพาส่งร.พ.อีกรอบ คราวนี้หมอเจาะเลือดพบว่าติดเชื้อในกระแสเลือด  !!!   ผมงงว่าทำไมเมื่อวานเจาะแล้วไม่เจอวันนี้เจาะถึงเจอทั้งที่มีอาการเพลียตั้งแต่เมื่อวานแล้ว  จากนั้นหมอก็ให้ยาฆ่าเชื้อแกแล้วเอาอุจจาระส่งตรวจรอเพาะเชื้อ 3-5 วันหลังจากได้รับยาฆ่าเชื้อเข้าไปแกก็อาการดีขึ้นพูดได้นั่งได้ พอกลางดึกก็ไข้ขึ้นสูงอีก

 วันต่อมา  (8/5/66)   :  
ผมก็ไปหาแกที่ร.พ.ตอนสายๆ แกความดันตหกมาก หมอให้ยาฆ่าเชื้อขั้นรุนแรงที่สุดแล้วยังไม่ดีขึ้นเลย แกนอนไม่ได้สติเลยครับใส่สายไรต่อไรเต็ม ผมถามพยาบาลว่าทำไมวันนั้นผมพามาแต่แรกแล้ว(วันที่ 6/5/66) แต่หมอยังให้กลับบ้านทั้งที่บอกจะให้ค้างคืน วันต่อมาอาการเลยหนักเลย พยาบาลก็ไม่ได้ตอบอะไร แกอาการหนักทรงตัวอยู่จนถึงตอนเย็นๆแกเหมือนได้สติตื่นขึ้นมาโบกมือลาผมเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนจะสื่อว่า กำลังจะไปแล้วนะ จากนั้นไม่นานแกก็นิ่งไป พอผมลงไปกินข้าวละขึ้นมาอีกรอบหมอบอกแกเสียแล้ว……
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากแบบไม่คาดคิดว่าจะถึงแก่ชีวิต….

คำถาม 
1. วันแรกแกมีไข้แล้วเพลียด้วย แต่เจาะเลือดแล้วไม่เจอเชื้อ วันต่อมาเจาะอีกรอบถึงเจอแสดงว่าแกคงติดเชื้อตั้งแต่วันแรกแล้วที่อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งแต่ยังไม่เข้ากระแสเลือดใช่ไหมครับ

2. ถ้าข้อแรกถูกแสดงว่าหมอตรวจไม่ละเอียดเช่นไม่ส่องกล้องดูลำไส้ หรือตรวจอุจจาระตั้งแต่วันแรกที่พาไป(เนื่องจากบอกหมอไปแล้วว่าแกท้องเสีย)
นี่เป็นข้อผิดพลาดของหมอใช่ไหมครับ
( คือผมคิดว่าถ้าหมอตรวจละเอียดหาตำแหน่งการติดเชื้อเจอแต่แรกคงให้ยาฆ่าเชื้อวันนั้นเลยซึ่งเชื้อยังไม่เข้ากระแสเลือดแต่นี่ปล่อยรอจนข้ามวัน)

3. ถ้าข้อสองใช่ งี้ผมสามารถทำไรได้บ้างครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
หากไป รพ เอกชน อาการอย่างนี้ เขาชวนนอนโรงพยาบาลแน่นอน และตรวจทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอาการไข้และท้องเสีย
เพราะเขาทำธุรกิจ เอาเงินมาจ่ายเป็นค่าจ้างหมอ พยาบาล และคนทำแล็บ  ทุกคนทำงานเพราะมีแรงจูงใจ หากผมทำเอกชน
ผมก็กระตือรือร้นอย่างแน่นอน

แต่จะเอาเหตุนี้ไปBlame หมอเด็กๆในกระทู้นี้ไม่น่าจะได้  เพราะดูๆแล้ว พวกเขาพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ระบบยอมให้ทำ ในนามของ
ไกด์ไลน์(ซึ่งจะเขียนไว้ว่า ในปัญหาโน้นนี่ ทำอะไรได้บ้าง ทำอะไรไม่ได้ หากจะทำต้องมีเงื่อนไข เช่นตรวจเลือดแล้วเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติ และชนิดเม็ดเลือดขาวชนิดที่มีนิวเคลียสหลายตัวมีจำนวนตามเงื่อนไข อย่างนี้คือเงื่อนไขที่ว่า สามารถให้ยาปฏิชีวนะได้  อะไรทำนองนี้
แถมยังมีประสบการณ์ไม่พอที่จะสามารถใช้วิจารญาณของแพทย์ได้ไปแย้งกับไกด์ไลน์  จะเอาคำพูดของฮิคแคมไปอ้างก็ไม่ได้ เพราะคำพูดนี้
คือวิธีคิดว่า หากเจอคนไข้สูงอายุ และ/หรือมีโรคเดิมอยู่  ให้คิดนอกกรอบ และหาหลักฐานมาพิสูจน์ ซึ่งความคิดแบบนี้มันขัดแย้งกับไกด์ไลน์


ครูผมเคยพูดว่า เธอจะรู้สึกว่าเป็นหมอจริงๆ ก็ต่อเมื่อทำงานอย่างน้อยๆ 10 ปี เพราะช่วงเวลาเหล่านี้ หมอจะพบกับ
ปัญหาที่ไม่ตรงตำราหรือตรงแต่ไม่ใช่ และแถมหากไม่มีคนที่เคยผ่านปัญหานั้นๆ สอนแนะนำ ก็ต้องรับความเครียดเต็มๆ
และปัจจุบันก็เสี่ยงถูกฟ้องร้อง  ซึ่งสมัยก่อนทุกคนทั้งหมอและคนไข้ ต่างก็มีน้ำใจให้กัน  กาลเวลาเปลี่ยนไปแล้วนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่