คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
หากไป รพ เอกชน อาการอย่างนี้ เขาชวนนอนโรงพยาบาลแน่นอน และตรวจทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอาการไข้และท้องเสีย
เพราะเขาทำธุรกิจ เอาเงินมาจ่ายเป็นค่าจ้างหมอ พยาบาล และคนทำแล็บ ทุกคนทำงานเพราะมีแรงจูงใจ หากผมทำเอกชน
ผมก็กระตือรือร้นอย่างแน่นอน
แต่จะเอาเหตุนี้ไปBlame หมอเด็กๆในกระทู้นี้ไม่น่าจะได้ เพราะดูๆแล้ว พวกเขาพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ระบบยอมให้ทำ ในนามของ
ไกด์ไลน์(ซึ่งจะเขียนไว้ว่า ในปัญหาโน้นนี่ ทำอะไรได้บ้าง ทำอะไรไม่ได้ หากจะทำต้องมีเงื่อนไข เช่นตรวจเลือดแล้วเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติ และชนิดเม็ดเลือดขาวชนิดที่มีนิวเคลียสหลายตัวมีจำนวนตามเงื่อนไข อย่างนี้คือเงื่อนไขที่ว่า สามารถให้ยาปฏิชีวนะได้ อะไรทำนองนี้
แถมยังมีประสบการณ์ไม่พอที่จะสามารถใช้วิจารญาณของแพทย์ได้ไปแย้งกับไกด์ไลน์ จะเอาคำพูดของฮิคแคมไปอ้างก็ไม่ได้ เพราะคำพูดนี้
คือวิธีคิดว่า หากเจอคนไข้สูงอายุ และ/หรือมีโรคเดิมอยู่ ให้คิดนอกกรอบ และหาหลักฐานมาพิสูจน์ ซึ่งความคิดแบบนี้มันขัดแย้งกับไกด์ไลน์
ครูผมเคยพูดว่า เธอจะรู้สึกว่าเป็นหมอจริงๆ ก็ต่อเมื่อทำงานอย่างน้อยๆ 10 ปี เพราะช่วงเวลาเหล่านี้ หมอจะพบกับ
ปัญหาที่ไม่ตรงตำราหรือตรงแต่ไม่ใช่ และแถมหากไม่มีคนที่เคยผ่านปัญหานั้นๆ สอนแนะนำ ก็ต้องรับความเครียดเต็มๆ
และปัจจุบันก็เสี่ยงถูกฟ้องร้อง ซึ่งสมัยก่อนทุกคนทั้งหมอและคนไข้ ต่างก็มีน้ำใจให้กัน กาลเวลาเปลี่ยนไปแล้วนะครับ
เพราะเขาทำธุรกิจ เอาเงินมาจ่ายเป็นค่าจ้างหมอ พยาบาล และคนทำแล็บ ทุกคนทำงานเพราะมีแรงจูงใจ หากผมทำเอกชน
ผมก็กระตือรือร้นอย่างแน่นอน
แต่จะเอาเหตุนี้ไปBlame หมอเด็กๆในกระทู้นี้ไม่น่าจะได้ เพราะดูๆแล้ว พวกเขาพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ระบบยอมให้ทำ ในนามของ
ไกด์ไลน์(ซึ่งจะเขียนไว้ว่า ในปัญหาโน้นนี่ ทำอะไรได้บ้าง ทำอะไรไม่ได้ หากจะทำต้องมีเงื่อนไข เช่นตรวจเลือดแล้วเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติ และชนิดเม็ดเลือดขาวชนิดที่มีนิวเคลียสหลายตัวมีจำนวนตามเงื่อนไข อย่างนี้คือเงื่อนไขที่ว่า สามารถให้ยาปฏิชีวนะได้ อะไรทำนองนี้
แถมยังมีประสบการณ์ไม่พอที่จะสามารถใช้วิจารญาณของแพทย์ได้ไปแย้งกับไกด์ไลน์ จะเอาคำพูดของฮิคแคมไปอ้างก็ไม่ได้ เพราะคำพูดนี้
คือวิธีคิดว่า หากเจอคนไข้สูงอายุ และ/หรือมีโรคเดิมอยู่ ให้คิดนอกกรอบ และหาหลักฐานมาพิสูจน์ ซึ่งความคิดแบบนี้มันขัดแย้งกับไกด์ไลน์
ครูผมเคยพูดว่า เธอจะรู้สึกว่าเป็นหมอจริงๆ ก็ต่อเมื่อทำงานอย่างน้อยๆ 10 ปี เพราะช่วงเวลาเหล่านี้ หมอจะพบกับ
ปัญหาที่ไม่ตรงตำราหรือตรงแต่ไม่ใช่ และแถมหากไม่มีคนที่เคยผ่านปัญหานั้นๆ สอนแนะนำ ก็ต้องรับความเครียดเต็มๆ
และปัจจุบันก็เสี่ยงถูกฟ้องร้อง ซึ่งสมัยก่อนทุกคนทั้งหมอและคนไข้ ต่างก็มีน้ำใจให้กัน กาลเวลาเปลี่ยนไปแล้วนะครับ
แสดงความคิดเห็น
ช่วยผมด้วยครับ ป้าผมเสียเพราะติดเชื้อในกระแสเลือด….? (เพราะวันแรกหมอตรวจไม่ละเอียดรึเปล่าครับ)
คือต้องเล่าก่อนว่า
วันที่ 4/5/66 :
ป้าผมแกขี้ราดบนที่นอนเลยเอายาหยุดถ่ายให้แกกิน ละต่อมา
กลางดึกวันที่ 5/5/66 :
แกเข้าห้องน้ำไปถ่ายท้องน่าจะท้องเสีย แล้วแกก็ล้มลุกไม่ขึ้นเพราะเพลียมากเหมือนคนไม่มีแรง พอตอนเช้า(วันที่6/5/66)ผมตื่นมาดูก็เจอแกอยู่ในห้องน้ำแล้วครับ แต่แกบอกนอนอีกพักนึงเดะคงลุกไหว แต่พอถึงบ่ายสองแล้วแกก็ยังลุกไม่ไหวเลยเรียกรถพยาบาล พาไปส่งแกช่วงบ่ายๆ
พอไปถึงหมอบอกแกมีไข้ เดี๋ยวจะให้แอดมิดค้างคืนที่ร.พ. หลังจากนั้นผมกับป้าก็เล่าอาการเรื่องล้มในห้องน้ำกับท้องเสียแล้วกินยาหยุดถ่ายให้หมอฟัง หมอก็พาแกไปเจาะเลือดละเอ๊กซเรย์ดูแล้ว ผลเลือดปกติ เอ๊กซเรย์ปกติทุกอย่างหมอเลยให้นอนให้น้ำเกลือดูอาการ พอถึงตอนทุ่มนึงหมอเห็นแกแค่เพลียมีไข้ คิดว่าไม่น่าเป็นไรมากเลยให้กลับบ้านได้ ผมก็พาแกกลับมาบ้านทั้งๆที่แกยังกินข้าวเองไม่ไหวเดินไม่ไหว (ปกติแกทำทุกอย่างเองได้)
พอวันต่อมาวันที่ 7/5/66 :
ตอนเช้าแกยังคุยได้อยู่แต่ไม่มีแรงและเพลียมาก มีอาการซึมๆ ผมเลยให้ยาพาราแก้ไข้แกกินไปแต่อาการไม่ดีขึ้นจนแกเพลียมากหมดแรงจนหลับไปเพราะพูดไม่ไหว ผมเลยพาส่งร.พ.อีกรอบ คราวนี้หมอเจาะเลือดพบว่าติดเชื้อในกระแสเลือด !!! ผมงงว่าทำไมเมื่อวานเจาะแล้วไม่เจอวันนี้เจาะถึงเจอทั้งที่มีอาการเพลียตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จากนั้นหมอก็ให้ยาฆ่าเชื้อแกแล้วเอาอุจจาระส่งตรวจรอเพาะเชื้อ 3-5 วันหลังจากได้รับยาฆ่าเชื้อเข้าไปแกก็อาการดีขึ้นพูดได้นั่งได้ พอกลางดึกก็ไข้ขึ้นสูงอีก
วันต่อมา (8/5/66) :
ผมก็ไปหาแกที่ร.พ.ตอนสายๆ แกความดันตหกมาก หมอให้ยาฆ่าเชื้อขั้นรุนแรงที่สุดแล้วยังไม่ดีขึ้นเลย แกนอนไม่ได้สติเลยครับใส่สายไรต่อไรเต็ม ผมถามพยาบาลว่าทำไมวันนั้นผมพามาแต่แรกแล้ว(วันที่ 6/5/66) แต่หมอยังให้กลับบ้านทั้งที่บอกจะให้ค้างคืน วันต่อมาอาการเลยหนักเลย พยาบาลก็ไม่ได้ตอบอะไร แกอาการหนักทรงตัวอยู่จนถึงตอนเย็นๆแกเหมือนได้สติตื่นขึ้นมาโบกมือลาผมเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนจะสื่อว่า กำลังจะไปแล้วนะ จากนั้นไม่นานแกก็นิ่งไป พอผมลงไปกินข้าวละขึ้นมาอีกรอบหมอบอกแกเสียแล้ว……
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากแบบไม่คาดคิดว่าจะถึงแก่ชีวิต….
คำถาม
1. วันแรกแกมีไข้แล้วเพลียด้วย แต่เจาะเลือดแล้วไม่เจอเชื้อ วันต่อมาเจาะอีกรอบถึงเจอแสดงว่าแกคงติดเชื้อตั้งแต่วันแรกแล้วที่อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งแต่ยังไม่เข้ากระแสเลือดใช่ไหมครับ
2. ถ้าข้อแรกถูกแสดงว่าหมอตรวจไม่ละเอียดเช่นไม่ส่องกล้องดูลำไส้ หรือตรวจอุจจาระตั้งแต่วันแรกที่พาไป(เนื่องจากบอกหมอไปแล้วว่าแกท้องเสีย)
นี่เป็นข้อผิดพลาดของหมอใช่ไหมครับ
( คือผมคิดว่าถ้าหมอตรวจละเอียดหาตำแหน่งการติดเชื้อเจอแต่แรกคงให้ยาฆ่าเชื้อวันนั้นเลยซึ่งเชื้อยังไม่เข้ากระแสเลือดแต่นี่ปล่อยรอจนข้ามวัน)
3. ถ้าข้อสองใช่ งี้ผมสามารถทำไรได้บ้างครับ