เด็กสามารถยุ่งกับการเมืองได้ไหมครับ? เราฺผิดมั้ยที่คิดนโยบายดีๆมาแต่กลับโดนเพื่อนไล่ออกจากกลุ่ม?

กระทู้คำถาม
คือปัญหามันมีอยู่2ส่วน 1.เรื่องที่เพื่อนไม่อยากให้ยุ่งเรื่องการเมืองเพราะผมอายุยังน้อย 2.เรื่องนโยบายโรงเรียน มาเริ่มกันด้วยเรื่องที่1นะครับ ผมเริ่มรู้จักการเมืองมาตั้งแต่เลือกตั้งผู้ว่า กทม. แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าผมไปลง
สตอรี่และส่งคริปในกลุ่มเกี่ยวกับพรรคการเมืองเพื่อให้เพื่อรู้ว่าพรรคนั้นพรรคนี้จะได้เป็นนายกแล้วนะแต่เพื่อนกลับมองว่าผมเบียวและยังบอกผมว่าผมยังเลือกตั้งไม่ได้ก็อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองดีกว่าทั้งๆที่สมองผมอัดแน่นไปด้วยการเมืองและยังมีทฤษฎีต่างๆที่เกี่ยวกับการเมืองที่พอเป็นไปได้ด้วย
สรุป:ผิดไหมที่เด็กอายุ15มีความชอบเรื่องการเมือง
เรื่องที่2 ผมคิดนโยบายที่จะพัฒนาโรงเรียนมา10นโยบาย

1.ส่งเสริมให้มีการจัดงานครูดีเด่นประจำปี
2.ส่งเสริมให้จัดงานe-sports
3.ส่งเสริมให้มีการนักเรียนจัดชมรมกันเองเพื่อให้มาแทนวิชาชุมนุมเพื่อลดภาระครู
4.ส่งเสริมให้ซื้ออุปกรณ์กีฬาและเปิดรับสมัครนักกีฬาต่างๆเพื่อเปิดโอกาศให้เด็กได้ใช้ความสามารถที่ตัวเองมี
5.ส่งเสริมให้แม่ค้าและพ่อค้าจากภายนอกเข้ามาขายในโรงเรียนได้โดยใช้จานและชามของโรงเรียนใส่อาหารเพื่อเป็นการลดขยะ
6.ส่งเสริมให้มีการเปิดรับบริจาคเพราะตอนนี้งบโรงเรียนมีน้อยมาก
7.ส่งเสริมให้มีการกำจัดเด็กแว้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้องๆทำตาม
8.ส่งเสริมให้เด็กทางบ้านมีปัญหาเรื่องการเงินไปรับจ้างขายขนมขายน้ำและขายข้าวแทนคุณครู(แต่ก่อนหน้านั้นต้องให้คุณครูเปิดรับจ้างก่อน)
9.ส่งเสริมให้มีกิจกรรมสัปดาห์ปลอดการบ้าน
10.ส่งเสริมให้มีคาบเรียนที่สามรถทำงานค้างได้(เฉพามัธยม)

ทั้ง10นโยบายนี้เพื่อนผมมองว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดขึ้นแต่ในความเป็นจริงคือ จัดไม่ได้แค่4นโยบายคือข้อ 2,3,7,8 ที่เหลือจัดได้หมดเลย
เพื่อน:โรงเรียนเราจะยอมให้จัดหรอ
ผม:ให้จัดสิโรงเรียนเรามันก็มีครูบางคนที่เข้าใจนะว่านี่ยุคไหนแล้วและผ.อ.ก็ต้องรับฟังเราแน่ๆเพราะเราคุยด้วยเหตุผล
เพื่อน:อย่าคิดเกินตัวแค่ขี่รถเข้าโรงเรียนยังโดนด่าเลย
เพื่อนอีกคน:มันทำไม่ได้ก็รู้ว่าโรงเรียนเราเป็นยังไง
ผม:มันต้องทำได้ดิก่อนเราจะเสนอนโยบายเราคิดวิธีมาก่อนหน้านี้แล้วว่าควรจัดแบบไหน
เพื่อน:ผ.อ.เขาไม่รับฟังหลอกอีกแค่ปีเดียวเองเอาอะไรมาก
ผม:อย่างน้อยเราจบไปแล้วก็ยังได้ทำเพื่อน้องๆ
เพื่อน:พวกกูคุยกันมาละออกจากกลุ่มกูไปก่อนถ้าทำได้ค่อยเข้ากลุ่มพวกกูกูให้เวลา2เดือน

แล้วจากนั้นผมก็ไม่ได้อยู่กับเพื่อนเลยแต่ไปอยู่กับเพื่อนอีกกลุ่มที่ค่อนข้างจะเป็น
กลุ่มที่พูดแต่เรื่องเกมและเบียวแทนผมได้รับการสนับสนุนนโยบายจากสภานักเรียนโดยผมเป็นคนคิดนโยบายทั้ง10นโยบายคนเดียวและให้สภานักเรียนช่วยกันคิดว่านโยบายพวกนี้ทำได้จริงมั้ยและถูกกฎระเบียบโรงเรียนมั้ยผลคือทำได้6นโยบายทำไม่ได้4นโยบายแต่ก็ต้องเสนอให้ครูก่อนเสนอให้ผ.อ.
สรุป:ผมผิดมั้ยที่คิดนโยบายพวกนี้มาแล้วโดนไล่ออกจากกลุ่มเพื่อน
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ชีวิตการทำงานจะมีคนสองกลุ่มครับ คือ คนช่างคิด กับคนช่างทำ
คนที่คิด ก็จะสร้างสรรค์นโยบายหรือแนวคิด ที่ทำได้หรือไม่ได้แต่คิดเอาไว้ก่อน
ซึ่งส่งผลให้คนทำ เกิดปัญหา เกิดความวุ่นวาย
ประมาณว่า ทุกวันนี้ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว มาสร้างนโยบายที่คิดได้แต่ทำได้ยากหรือทำไม่ได้จริงให้เกิดภาระทำไม

คนคิดก็จะรู้สึกน้อยใจว่า เอ้า ฉันก็มาช่วยเปลี่ยนแปลงสังคมและองค์กร มีความหวังดี แต่ทำไมโดนตีตกไปอย่างนั้น

ดังนั้น ถ้าน้องจะเป็นผู้นำคน สิ่งที่น้องครีเอทขึ้นมา ต้องทำได้ หรือเห็นภาพว่าทำได้ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำ
นโยบาย มีทั้งแบบ แก้ปัญหาเดิมให้หายไป อันนี้คนชอบมาก
แบบสร้างสิ่งใหม่ อันนี้เสี่ยง ต้องคิดให้ดี

ที่นี้เข้าใจหรือยังว่าทำไมเพื่อนถึงออกห่าง เราต้องปรับจูนอีก
และเรื่องการเมือง คือเรื่องที่เป็นความชอบส่วนตัว
การแสดงออกที่สุดโต่ง หรือเลือกว่า ข้างเราถูกทุกเรื่อง ข้างนั้นผิดทุกเรื่อง มองเป็นทีมฟุตบอล จะทำให้คนที่เขาเคยชอบเราอาจไม่ชอบได้เพราะคิดต่าง
ให้เลือกแสดงออกด้วยการใช้เหตุผลมากขึ้น และคิดว่าทุกฝ่ายมีดีและแย่ไม่ต่างกัน เลือกชื่นชมฝั่งเขาในสิ่งที่ถูก เลือกตำหนิฝั่งเราในสิ่งที่ผิด
น้องก็จะเป็นผู้นำที่ดีขึ้นได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่