ถ้าเรานึกถึงภาพยนตร์ที่มีความซับซ้อนซ่อนอยู่ในเนื้อเรื่อง ผลงานภาพยนตร์ของ Christopher Nolan ก็คงจะติดอยู่ในลิสต์แรกๆ ในความคิดของเราอย่างแน่นอน กับภาพยนตร์ที่หมกหมุ่นกับการเล่นกับเวลา และความฝันของเขา แต่ตอนนี้มีภาพยนตร์อีกเรื่องที่กำลังจะเข้าในพรุ่งนี้มีความซับซ้อนและหลอกผู้ชมอย่างเราๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนกัน นั่นคือ Hypnotic จากมือผู้กำกับ Robert Rodriguez 
Hypnotic เป็นภาพยนตร์ที่มีการเปิดตัวได้อย่างน่าสนใจ ตั้งแต่ในตัวอย่างที่พยายามนำเสนอ เรื่องการสืบสวนร่วมกับการใช้จิตวิทยาการสะกดจิต และในตอนเปิดเรื่องจนถึงช่วงกลางเรื่องเองก็ยังดูมีความน่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นปริศนานี้อยู่ เรียกได้ว่าเป็นพล๊อตของเรื่องที่ดีและน่าสนใจมากทีเดียว
แต่การดำเนินเนื้อเรื่องออกจะไม่ค่อยมีสีสันมากเท่าไหร่ หากใครที่ชื่นชอบการอ่านมังงะญี่ปุ่นที่ตัวเอกเก่งมีพลังแฝงแต่ไม่รู้ตัว ในช่วงแรกจนถึงกลางของ Hypnotic จะเป็นการดำเนินไปแบบนั้นตามแบบฉบับมังงะ และอาจทำให้สงสัยมาตลอดว่าการสะกดจิตมันมีวิธีการอย่างไรนะ? จนกระทั่งหลังจากนั้น เรื่องราวก็กลับหักมุมไปอย่างสิ้นเชิง และหักมุมซ้ำไปอีกในตอนท้ายของเรื่อง
ซึ่งในองค์รวมของการเล่าเรื่อง Hypnotic จะให้ความรู้สึกคล้ายกับการพยายามนำภาพยนตร์ 3 เรื่องอย่าง Inception, Memento และ Paycheck มาผสมกันจนเกิดเป็น Hypnotic เรื่องเดียว เพียงแต่ในเรื่องนี้มันย่อยง่ายกว่ามาก มากที่ว่าหมายถึงการที่ไม่ต้องขบคิดอะไรเยอะ และปล่อยใจไปกับเนื้อเรื่องเรื่อยๆ เพลินๆ กับการหักมุม การไม่ไว้ใจที่ผู้กำกับ Robert Rodriguez ต้องการจะเสิร์ฟได้เลย 
นอกจากนี้ความน่าสนใจของ Hypnotic ที่มีพล๊อตที่น่าติดตามที่ค้ำยันไว้ เรื่องนี้ก็ยังได้ Ben Affleck และ William Fichtner มาแบกทั้งเรื่อง โดยเฉพาะ William Fichtner ที่ถ่ายทอดบทบาทของการเป็นตัวร้ายของเรื่องที่แฝงไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมอันเหนือชั้นออกมาได้เป็นอย่างดี 
สรุป Hypnotic เป็นภาพยนตร์แนวสืบสวนพล๊อตน่าสนใจ เหมือนเป็นการรวมภาพยนตร์ 3 เรื่อง มาผสมในเรื่องเดียวและทำออกมาให้ย่อยง่ายสำหรับทุกคนที่เข้ามาชม พร้อมทั้งมีการหักมุมที่มอบความไม่น่าไว้ใจและสงสัยว่าอันนี้จริงหรือหลอก มาขายอยู่เกือบจะตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งถ้าใครชอบภาพยนตร์แนวนี้ Hypnotic ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ สุดท้ายนี้ตอนท้ายเรื่องมี End Credit หนึ่งตัว