คำว่าครอบครัว..มันค้ำคอ

เรากับแฟนคบกันมาประมาณ 3 ปี เราเช่าหออยู่ ส่วนแฟนมีแพลนจะสร้างบ้านใหม่เพราะมีที่ดินของตัวเองอยู่แล้ว อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานแล้วก็หอพักเรา ถ้าบ้านเสร็จเราทั้งคู่คุยกันว่าจะย้ายไปอยู่ด้วยกันเพราะจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าหอ และแล้ววันนี้ก็มาถึง...วันที่บ้านสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ทั้งบ้านมีทั้งหมด 6 คน พ่อ แม่ แฟน เรา หลาน 2 คน ข้างบ้านซ้ายขวาเป็นบ้านพี่ชาย บ้านแฟนเราหลังกลาง พี่ชายคนกลางทำงานรับจ้างไปวันๆ พี่ชายคนโตการงานมั่นคงเมียขยัน ทุกสิ้นเดือนวันเงินออก เรากับแฟนจะแบ่งเงินกองกลางเอาไว้สำหรับซื้อของกิน ของใช้ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ทุกอย่างที่เป็นค่าใช้จ่ายเรากับแฟนช่วยกันออก เราจะซื้อของกินมาตุนไว้ในช่องฟรีซให้กินได้ 1 เดือนในปริมาณที่เรากำหนดเอาไว้แล้วว่ามันเพียงพอสำหรับ 6 คนใน 1 เดือน ในช่วง 3 เดือนแรก ทุกอย่างก็ปกติดี แต่แล้วพอเริ่มนานไปปัญหาเริ่มเกิด คือ คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการวางเงินกองกลางสำหรับซื้อของกิน ของใช้ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าๆๆๆทุกอย่าง กลับมีส่วนร่วมในการใช้จ่ายเฉย ด้วยความที่แม่เป็นห่วงลูกชายว่ากลัวจะอดตาย ก็เลยเอาเนื้อสัตว์ที่เราใส่ถุงฟรีซไว้สำหรับทำกินกันในเดือนนั้นๆไปให้ลูกทำกิน ไข่ไก่ ไข่เป็ด กระเทียมขอทุกอย่าง ไอ้นู่นหมดก็เดินมาขอ ไอ้นี่หมดก็เดินมาขอ รถตัวเองเสียก็มายืมรถเรา(ไม่ใช่รถแฟน) แต่ไม่เคยเติมน้ำมันให้เลยแม้แต่หยดเดียว แต่มายืมทุกวัน วันละหลายรอบ เราไม่พอใจมาก เราแสดงอาการสีหน้าไม่พอใจอย่างชัดเจน เพราะเราก็ไม่ได้รวย ลำพัง 6 ชีวิตจะบริหารให้ครบเดือนก็เหนื่อยแล้ว ลืมบอก..หลาน 2 คนก็คือลูกของพี่ชายคนกลาง ซึ่งเขาทำแบบนี้บ่อยมากๆแต่แม่แฟนไม่เคยห้ามเลยเพราะนั่นก็ลูกชายตัวเอง ส่วนพ่อหลังบ้านมีเล้าไก่ที่เป็นของพ่อ แต่ละวันเพื่อนฝูงมามากมายบางวันเกือบสิบคน เล้าไก่ไม่มีไฟ พ่อก็ต่อไฟจากบ้านออกไปที่เล้าไก่ แต่ละคนก็ชาร์จแบต เปิดพัดลม วันเสาร์-ทิตย์ก็หนักหน่อย เปิดไฟถึงตีหนึ่งตีสองตลอด วันดีคืนดีตีไก่แพ้ก็เอามาทำกับข้าวกิน ก็ไม่พ้นครัวที่บ้าน แก๊สเอย เครื่องปรุงเอย แล้วบ้านเราซื้อน้ำแพ็คกิน ก็ขนกันไปเลยสิแบบนั้น เดินถือกันคนละขวดสองขวด แล้วคิดดูว่าเราเจอแบบนี้ทุกสัปดาห์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าทุกอย่างที่เราพูดมาเราขอย้ำอีกครั้งว่ามีแค่เรากับแฟนที่จ่าย แม้แต่พ่อกับแม่ก็ยังไม่เคยจ่ายเลยสักบาทเดียว เราแทบจะไม่ไหว ต้องซื้อของมาเติมทั้งๆที่ยังไม่หมดเดือน เงินก็ไม่พอใช้ แฟนเรานั่งร้องไห้เพราะเงินไม่พอกินก็มี เรายอมรับว่าเราลำบากมากกว่าตอนอยู่หออีก แต่จะทำไงได้ในเมื่อมันคือบ้านแฟนเรา เราก็สงสารแฟนมาก แต่เขาจะพูดไรได้เพราะนั่นก็คือครอบครัวแฟนเราทั้งนั้น พ่อแม่พี่ เรานี่สิ..คนอื่น ด้วยความที่เราเป็นคนที่เป๊ะเรื่องการวางแผนมาก ชอบคำนวณ เราจะเป็นจัดการซิ้อของเองทุกอย่าง คิดเงินเองทุกอย่างอะไรเท่าไหร่ เราจึงไม่พอใจกับเรื่องนี้มากๆ จนกลายเป็นว่าเราดูแย่ แฟนก็ไม่โอเคกับเราบอกว่าเราไม่ชอบครอบครัวเขา อะไรที่เกี่ยวกับครอบครัวเขาเรามักจะหงุดหงิด ซึ่งมันก็ใช่ ก็เพราะพฤติกรรมของพวกคุณไง มันแย่จนเรารับแทบไม่ได้ แต่เราก็ต้องรับให้ได้ เพราะเราก็สงสารแฟน เราก็ถามแฟนนะว่าที่ไม่พูดเพราะคำว่าครอบครัวใช่มั้ย คนนึงก็พ่อ คนนึงก็แม่ คนนึงก็พี่ จะไปพูดอะไรได้ ทุกวันนี้เราอยากช่วยเหลือเขาให้ได้มากที่สุด เพราะเรารู้ว่าครอบครัวเขาเป็นแบบนี้ แต่สุดท้ายเราคงหวังดีเกินไป อยากอยู่เพื่อเขามากเกินไป จนเราเพิ่งรู้ว่าเราสำคัญตัวเองมากไปก็เมื่อเขาบอกว่า..เขารักเราน้อยลง เพราะว่าเราไม่ชอบครอบครัวเขา เพราะว่าเราทำตัวเอง..

จนเราถามแฟนว่า ถ้าไม่มีเราเขาจะอยู่ยังไง (ค่าใช้จ่ายจะทำยังไง)
แฟนบอกเราว่า ก็ต้องอยู่ให้ได้ ก็อยู่แบบนี้แหละ

หรือสุดท้ายเราต้องเลิกกัน...เพราะยังไงแฟนเราก็ต้องเลือกครอบครัว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่