สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เรื่องนี้หลายคนมองผิดประเด็นไปมาก
ประเด็นหลักของเรื่องคือ “หยกไม่ใช่นักเรียนโรงเรียนนี้”
เพราะไม่ได้มามอบตัวโดยผู้ปกครอง ซึ่งบุ้งไม่ใช่ผู้ปกครองตามกฎหมาย เว้นแต่จะมีเอกสารยืนยัน ซึ่งหยกอายุไม่ถึง 18 ปี ย้อมมีกฎหมายที่ละเอียดอ่อนกว่า
ดังนั้นการที่โรงเรียนไม่ให้เข้าเรียน ก็ถูกต้องแล้ว เพราะไม่มีใช่นักเรียน การปล่อยให้คนที่ไม่ใช่นักเรียนเข้ามาในโรงเรียน ย่อมส่งผลต่อมาตรฐานความปลอดภัย อาจเป็นกลุ่มมิจฉาชีพใด ๆ ก็ได้
เหมือนถ้าคนไม่ใช่พนักงานของบริษัท ก็ไม่มีสิทธิเข้าไปทำงานบริษัทนั้น ๆ
เพราะฉะนั้น หยกต้องมาเป็นนักเรียนที่ถูกต้องตามระเบียบก่อน ถึงจะเข้าสู่ประเด็นการเรียกร้องต่าง ๆ ได้
ประเด็นหลักของเรื่องคือ “หยกไม่ใช่นักเรียนโรงเรียนนี้”
เพราะไม่ได้มามอบตัวโดยผู้ปกครอง ซึ่งบุ้งไม่ใช่ผู้ปกครองตามกฎหมาย เว้นแต่จะมีเอกสารยืนยัน ซึ่งหยกอายุไม่ถึง 18 ปี ย้อมมีกฎหมายที่ละเอียดอ่อนกว่า
ดังนั้นการที่โรงเรียนไม่ให้เข้าเรียน ก็ถูกต้องแล้ว เพราะไม่มีใช่นักเรียน การปล่อยให้คนที่ไม่ใช่นักเรียนเข้ามาในโรงเรียน ย่อมส่งผลต่อมาตรฐานความปลอดภัย อาจเป็นกลุ่มมิจฉาชีพใด ๆ ก็ได้
เหมือนถ้าคนไม่ใช่พนักงานของบริษัท ก็ไม่มีสิทธิเข้าไปทำงานบริษัทนั้น ๆ
เพราะฉะนั้น หยกต้องมาเป็นนักเรียนที่ถูกต้องตามระเบียบก่อน ถึงจะเข้าสู่ประเด็นการเรียกร้องต่าง ๆ ได้
แสดงความคิดเห็น
กรณีน้องหยก กำลังเป็นเผด็จการโดยไม่รู้ตัวหรือป่าว?
แต่ที่เขาไม่โอเครคือ พฤติกรรมของน้องที่ก้าวร้าว
คือไม่เข้าใจว่า นักการเมืองที่ เห็นดีเห็นงามกับน้อง
คุณกำลังบ่มให้น้องเป็นเผด็จการหรือป่าว
โรงเรียนก็เหมือนสนามซ้อมของการไปสู้โลกภายนอก
มันจึงมีกฎเกณฑ์ เพื่อให้สังคมเกิดความสงบ
คุณอยากให้คนอื่นเคารพความเห็นของตัวเอง
แต่คุณดันไม่ฟังความเห็นคนอื่น
เขาไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมน้อง แต่คุณยัดคำว่าสลิ่มใส่เขา
หลายคนกำลังทำร้ายน้องหยก
ทั้งๆที่คุณก็รู้ว่าแต่ละสถานที่มีกฎเกณฑ์เหมือนกัน
แต่คุณยังบอกว่า เครื่ื่องแบบการแต่งกายไม่มีประโยชน์
ถ้าอยากนั้นก็นุ่งขาสั้น เสื้อกล้ามเข้าไปในประชุมสภาสิครับ
พวกคุณกำลังทำให้น้องเป็นอภิสิทธิ์ชน
สิ่งที่ยากที่สุดในการต่อสู้กับเผด็จการ
คือ จะต้องไม่เป็นเผด็จการซ่ะเอง
คุณเห็นด้วยกับการแหกกฎของน้องหยกจริงๆหรอ
ก่อนตอบคำถามนี้ คุณช่วยจินตนาการว่า
ถ้าเป็นบริษัทของเรา เราเห็นด้วยกับพฤติกรรมของลูกน้องหรือไม่