เมื่อหลายวันก่อนน้องลิซ่าและผองเพื่อนได้ใส่ผ้าซิ่นหรือผ้าถุงไปเที่ยวอยุธยาเกิดเป็นกระแสให้ผู้คนทำตาม  และแน่นอนเพื่อนบ้านที่แสนดีของเราก็เข้ามาคอมเมนต์พร้อมกับเคลมว่าชุดที่ลิซ่าใส่เป็นชุดของชาติตน พม่า มาเลย์ อินโดฯ ลาว เขมร ต่างก็บอกว่าเป็นชุดของพวกเขา ซึ่งเรื่องนี้นั้นหากจะว่าไปตามจริงแล้วประเทศที่อยู่ติดกันวัฒนธรรม เสื้อผ้า การแต่งกายจะคล้ายกันก็ไม่แปลก ในอดีตภูมิภาคนี้ยามเกิดสงครามก็กวาดต้อนผู้คนไปมาวัฒนธรรมบางส่วนจึงหลวมรวมกันหรือคล้ายคลึงกัน เก็บเรื่องนี้เอาไว้ไม่ใช่ประเด็นในวันนี้ 

ประเด็นในวันนี้ก็คือมีคอมเมนต์บางส่วนน่าจะเป็นคนไทย คนอีสาน หรือไม่ก็คนลาว คอมเมนต์ในทำนองที่ว่าหากจะดูว่าใครมีเชื้อสายลาวให้ดูจากการแต่งตัว คนใดที่นุ่งผ้าถุง(ใส่ซิ่น) และชอบกินข้าวเหนียวคนนั้นมีเชื้อชาติลาว วลีนี้มักจะนำมาใช้แยกผู้คนในจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ ที่มีคน 2 จำพวกคือคนที่พูดภาษากลางกินข้าวเจ้า อีกพวกคือคนที่พูดภาษาอีสานกินข้าวเหนียว

 

ผมเห็นแล้วก็อยากตอบคอมเมนต์ของเขาแต่อดใจไว้เพราะตอบแล้วจะต้องโดนเกรียนคีย์บอร์ดพากันมาถล่มแน่ๆ  ข้อมูลที่ผมรู้คือคนไทยในอดีตกินข้าวเหนียว ปลูกข้าวเหนียว หลักฐานจากแหล่งโบราณคดีจากแหล่งต่างๆ ทุกภาคพบแต่ข้าวเหนียวไม่พบข้าวเจ้า  มาพบข้าวเจ้าครั้งแรกในสมัยทราวดีเป็นข้าวที่ชาวอินเดียที่มาเผยแพร่ศาสนาพราห์ม-ฮินดู และศาสนาพุทธ เชื่อกันว่าเป็นเพราะชาวอินเดียกินข้าวเหนียวไม่ถนัดจึงนำข้าวเจ้ามาด้วย  หลังจากนั้นก็เริ่มมีการปลูกข้าวเจ้าในไทย จากหลักฐานพบการปลูกข้าวเจ้าครั้งแรกที่ภาคใต้แล้วค่อยมาปลูกที่ภาคกลาง สมัยอยุธยาชาวสยามยังนิยมกินข้าวเหนียวข้าวเจ้าจะนิยมกินแต่พระ นักบวช และเจ้านายเพราะยุคนั้นถ้วย ชาม ถือเป็นของแพง  การกินข้าวเจ้าต้องใช้ถ้วยชามมากกว่ากินข้าวเหนียวชาวบ้านที่กินข้าวเจ้าจะต้องมีฐานะดีจึงจะได้กิน  วลีที่ว่านุ่งผ้าซิ่นกินข้าวเหนียวคือลาวจึงไม่ถูกต้องเพราะตามประวัติศาตร์ข้าวพันธุ์ดั้งเดิมของไทยคือข้าวเหนียว...