
⚡️⚡️⚡️
เป็นหนังจาก DCU ที่ต้องบอกว่าเป็นที่รอคอยของแฟนๆ แถมยังมีเรื่องที่อีตาพระเอก Ezra Miller ไปก่อเรื่องไว้อีกหลายครั้งหลายหนจนมีแต่คนเป็นห่วงว่า จะได้ฉายมั๊ย สุดท้ายก็ได้ฉายจนได้ แล้วคะแนนที่ได้จากคนดูก็เรียกว่าเยอะซะด้วย และที่สำคัญหนังไม่ได้ชูโรงด้วยตัว The Flash อย่างเดียว แต่เอา Batman สองเวอร์ชั่น คือเวอร์ชั่น Ben Affleck และ Michael Keaton มาอยู่ในเรื่องเดียวกันพร้อมกับ Supergirl อีกด้วย

⚡️⚡️⚡️
เมื่อ แบร์รี่ ใช้พลังเดินทางย้อนเวลาหวังกลับไปเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ความตั้งใจที่อยากช่วยชีวิตครอบครัวของเขากลับทำให้อนาคตเปลี่ยนไป แถม แบร์รี่ ยังต้องติดอยู่ในช่วงเวลาที่ นายพลซ็อด กลับมาคุกคามพร้อมทำลายล้างโลกใบนี้ แต่กละบไม่มีซูเปอร์ฮีโร่คอยอยู่กอบกู้และปกป้องมนุษยชาติเลยสักคน ยกเว้นแต่ว่า แบร์รี่ จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้ แบทแมน ก้าวออกมาจากชีวิตเกษียณ พร้อมช่วยเหลือชาวคริปโตเนียนออกมาจากการถูกคุมขัง แม้จะไม่ใช่คนที่เขาตั้งใจตามหาก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว เพื่อช่วยเหลือมิติโลกที่เขาเดินทางมาและหาทางกลับไปยังโลกอนาคต แบร์รี่ รู้ดีว่าเขาเองก็ต้องลงสนามในครั้งนี้เพื่อชีวิตของตัวเอง แต่การเสียสละอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้จะเพียงพอสำหรับการรีเซ็ตจักรวาลใหม่หรือไม่?

⚡️⚡️⚡️
มันคือความต่อเนื่องของขบวน Justice League และก็เป็นภาคแยกเดี่ยวของ The Flash ซะที หลังจากที่คนอื่นได้ออกหนังเดี่ยวไปแล้ว (ยกเว้น Cyborg) พอมาถึงคิว The Flash หนังเปิดมาก็แอ็คชั่นกันตูมตามเต็มจอแล้ว เพราะไม่ต้องแนะนำตัวอะไรกันมากมาย เพียงแต่หนังก็เอาความสามารถพิเศษของ The Flas มาโชว์ให้คนดูเห็นความเท่ของ Superhero คนนี้ก่อนที่จะพาไปสู่เรื่องราวแกนหลักของหนัง

⚡️⚡️⚡️
พอเข้าเนื้อเรื่องหลัก หนังทำได้ดีมากยิ่งเมือเอา แบร์รี่ มาเจอกับ แบร์รี่ แล้วสร้างความปั่นป่วนให้กับโลกคู่ขนาน มันมีทั้งความฮา ความสนุก ความปั่นป่วนของตัวละครที่เหมือนจะเป็นคนเดียวกันแต่คาแรคเตอร์แตกต่างกันเกือบจะสิ้นเชิง ซึ่งจุดนี้ Ezra Miller ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ถ้าเราตัดเรื่องความเพี้ยนของเจ้าตัวออกไป การแสดงในเรื่องนี้ของเขาต้องบอกว่าสุดยอดมากๆ

⚡️⚡️⚡️
หลังจากนั้น หนังเริ่มค่อยๆ ปล่อยตัวละครสมทบอกมาทีละตัว คนแรกคือ Batman Keaton ที่เชื่อว่าแฟนคลับ Batman ยุค 80 ต้องคิดถึงเขาแน่ๆ แล้วยิ่งหนังเอาลูกเล่นทุกอย่างของ Bat Keaton มาโชว์ในหนัง ทำให้คนดูที่มี Batman เป็นฮีโร่ขวัญใจในยุคนั้น ต้องดูไปยิ้มไปแน่ๆ ทั้ง Batmobile, Batwing , แล้วก็พวกอาวุธต่างๆ และที่สำคัญ ตัว Michael Keaton เองก็ยังไว้ลายความเป็น Batman ได้อย่างยอดเยี่ยม

⚡️⚡️⚡️
ส่วนตัวผมยังคิดว่า Supergirl กับ นายพล Zod บทน้อยไปหน่อย แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าสุดท้ายแล้ว สองคนนี้ไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่อง ซึ่งประเด็นหลักของเรื่องอยู่ที่การเล่นกับเรื่องราวของมัลติเวอร์สและ Timeline ที่มันทับซ้อนและเป็นบ่อเกิดแห่งเรื่องราว ซึ่งในพาร์ทที่หนังพูดถึงเรื่อง Timeline หนังเอาตัวละครลับของ DC หลายๆ ตัวละครออกมาอวดคนดูซึ่งเชื่อว่าใครเห็นก็ต้องว๊าวและเหวอแน่นอน

⚡️⚡️⚡️
แต่ความยอดเยี่ยมของหนังคือในความยุ่งเหยิงของ Timeline และเรื่องราว หนังทำบทสรุปในตอนท้ายเรื่องได้อย่างชัดเจนและเคลียร์มากๆ ซึ่งมันจบในเนื้อเรื่องของมันเองเรียบร้อยแล้ว แต่หนังก็ยังมี End Credit ที่จะพาเราไปสูเรื่องราวใหม่ได้แน่ๆ แต่อยู่ที่ว่าหนังจะเอาอะไรมาเล่นต่อไป ซึ่งน่าสนใจมากๆ

⚡️⚡️⚡️
ต้องบอกว่า นี่คือหนังที่ไม่ได้เล่นเฉพาะฉากแอ็คชั่นเป็นหลัก แต่ในความสนุกของหนังคือเนื้อเรื่องที่ถูกเขียนออกมาได้อย่างดีงาม และต้องบอกอีกว่า แค่ตัวละครลับที่ออกมาเซอร์ไพร์สคนดู ก็คุ้มมากๆ แล้ว
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] The Flash - หนังจักรวาลมัลติเวอร์สที่สนุกมากๆ บวกกับเซอร์ไพร์สจากตัวละครลับที่ออกมาให้เหวอ
⚡️⚡️⚡️
เป็นหนังจาก DCU ที่ต้องบอกว่าเป็นที่รอคอยของแฟนๆ แถมยังมีเรื่องที่อีตาพระเอก Ezra Miller ไปก่อเรื่องไว้อีกหลายครั้งหลายหนจนมีแต่คนเป็นห่วงว่า จะได้ฉายมั๊ย สุดท้ายก็ได้ฉายจนได้ แล้วคะแนนที่ได้จากคนดูก็เรียกว่าเยอะซะด้วย และที่สำคัญหนังไม่ได้ชูโรงด้วยตัว The Flash อย่างเดียว แต่เอา Batman สองเวอร์ชั่น คือเวอร์ชั่น Ben Affleck และ Michael Keaton มาอยู่ในเรื่องเดียวกันพร้อมกับ Supergirl อีกด้วย
⚡️⚡️⚡️
เมื่อ แบร์รี่ ใช้พลังเดินทางย้อนเวลาหวังกลับไปเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ความตั้งใจที่อยากช่วยชีวิตครอบครัวของเขากลับทำให้อนาคตเปลี่ยนไป แถม แบร์รี่ ยังต้องติดอยู่ในช่วงเวลาที่ นายพลซ็อด กลับมาคุกคามพร้อมทำลายล้างโลกใบนี้ แต่กละบไม่มีซูเปอร์ฮีโร่คอยอยู่กอบกู้และปกป้องมนุษยชาติเลยสักคน ยกเว้นแต่ว่า แบร์รี่ จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้ แบทแมน ก้าวออกมาจากชีวิตเกษียณ พร้อมช่วยเหลือชาวคริปโตเนียนออกมาจากการถูกคุมขัง แม้จะไม่ใช่คนที่เขาตั้งใจตามหาก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว เพื่อช่วยเหลือมิติโลกที่เขาเดินทางมาและหาทางกลับไปยังโลกอนาคต แบร์รี่ รู้ดีว่าเขาเองก็ต้องลงสนามในครั้งนี้เพื่อชีวิตของตัวเอง แต่การเสียสละอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้จะเพียงพอสำหรับการรีเซ็ตจักรวาลใหม่หรือไม่?
⚡️⚡️⚡️
มันคือความต่อเนื่องของขบวน Justice League และก็เป็นภาคแยกเดี่ยวของ The Flash ซะที หลังจากที่คนอื่นได้ออกหนังเดี่ยวไปแล้ว (ยกเว้น Cyborg) พอมาถึงคิว The Flash หนังเปิดมาก็แอ็คชั่นกันตูมตามเต็มจอแล้ว เพราะไม่ต้องแนะนำตัวอะไรกันมากมาย เพียงแต่หนังก็เอาความสามารถพิเศษของ The Flas มาโชว์ให้คนดูเห็นความเท่ของ Superhero คนนี้ก่อนที่จะพาไปสู่เรื่องราวแกนหลักของหนัง
⚡️⚡️⚡️
พอเข้าเนื้อเรื่องหลัก หนังทำได้ดีมากยิ่งเมือเอา แบร์รี่ มาเจอกับ แบร์รี่ แล้วสร้างความปั่นป่วนให้กับโลกคู่ขนาน มันมีทั้งความฮา ความสนุก ความปั่นป่วนของตัวละครที่เหมือนจะเป็นคนเดียวกันแต่คาแรคเตอร์แตกต่างกันเกือบจะสิ้นเชิง ซึ่งจุดนี้ Ezra Miller ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ถ้าเราตัดเรื่องความเพี้ยนของเจ้าตัวออกไป การแสดงในเรื่องนี้ของเขาต้องบอกว่าสุดยอดมากๆ
⚡️⚡️⚡️
หลังจากนั้น หนังเริ่มค่อยๆ ปล่อยตัวละครสมทบอกมาทีละตัว คนแรกคือ Batman Keaton ที่เชื่อว่าแฟนคลับ Batman ยุค 80 ต้องคิดถึงเขาแน่ๆ แล้วยิ่งหนังเอาลูกเล่นทุกอย่างของ Bat Keaton มาโชว์ในหนัง ทำให้คนดูที่มี Batman เป็นฮีโร่ขวัญใจในยุคนั้น ต้องดูไปยิ้มไปแน่ๆ ทั้ง Batmobile, Batwing , แล้วก็พวกอาวุธต่างๆ และที่สำคัญ ตัว Michael Keaton เองก็ยังไว้ลายความเป็น Batman ได้อย่างยอดเยี่ยม
⚡️⚡️⚡️
ส่วนตัวผมยังคิดว่า Supergirl กับ นายพล Zod บทน้อยไปหน่อย แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าสุดท้ายแล้ว สองคนนี้ไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่อง ซึ่งประเด็นหลักของเรื่องอยู่ที่การเล่นกับเรื่องราวของมัลติเวอร์สและ Timeline ที่มันทับซ้อนและเป็นบ่อเกิดแห่งเรื่องราว ซึ่งในพาร์ทที่หนังพูดถึงเรื่อง Timeline หนังเอาตัวละครลับของ DC หลายๆ ตัวละครออกมาอวดคนดูซึ่งเชื่อว่าใครเห็นก็ต้องว๊าวและเหวอแน่นอน
⚡️⚡️⚡️
แต่ความยอดเยี่ยมของหนังคือในความยุ่งเหยิงของ Timeline และเรื่องราว หนังทำบทสรุปในตอนท้ายเรื่องได้อย่างชัดเจนและเคลียร์มากๆ ซึ่งมันจบในเนื้อเรื่องของมันเองเรียบร้อยแล้ว แต่หนังก็ยังมี End Credit ที่จะพาเราไปสูเรื่องราวใหม่ได้แน่ๆ แต่อยู่ที่ว่าหนังจะเอาอะไรมาเล่นต่อไป ซึ่งน่าสนใจมากๆ
⚡️⚡️⚡️
ต้องบอกว่า นี่คือหนังที่ไม่ได้เล่นเฉพาะฉากแอ็คชั่นเป็นหลัก แต่ในความสนุกของหนังคือเนื้อเรื่องที่ถูกเขียนออกมาได้อย่างดีงาม และต้องบอกอีกว่า แค่ตัวละครลับที่ออกมาเซอร์ไพร์สคนดู ก็คุ้มมากๆ แล้ว
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้