คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
หนูกำลังติดกับดักของตัวเอง
-งานสบาย ไม่มีใครกลับบ้านเกินเวลา 5 นาที
-ทุกครั้งที่ลาออก โดน counter offer จนรู้สึกผิดแล้วก็ตัดสินใจไม่ไป
ถ้าเรามองหาความก้าวหน้าจริงๆ แล้วทำเช็คลิสต์ จากนั้นกลับมามองดูงานที่ทำอยู่ มีกี่ข้อที่ตอบโจทย์เรา เท่าที่เห็นนะ ที่นี่ บริษัทเล็ก เจ้าของไม่ค่อยเข้า ทำงานแบบอยู่ไปวันๆ งานสบาย คนที่อยู่ที่นี่ก็ไม่โต อยู่เพราะสบาย ไม่มีใครจุกจิก ไม่เจริญ แต่ก็ไม่เลวร้าย ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีโบนัส ไม่ปรับเงินเดือน จะปรับทีก็ต้องไปยื่นใบลาออกนั่นแหละ ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมคนที่อยู่มา 7-8 ปี เงินเดือนน้อย ก็เพราะเป็นคนที่ไม่มีที่ไป หรือไม่คิดจะไปไหนไง เลยไม่เคยไปขอลาออก แล้วก็ไม่เคยปรับ พูดแบบสรุปเลย ที่นี่ ไม่มีอนาคต
ทีนี้ มาดูตัวเอง ถ้าเราไม่อยากเป็นแบบพี่ๆที่อยู่มานานๆ ก็ควรต้องขยับขยาย ดูจากที่เจ้าของรั้งและปรับเงินให้เยอะทุกครั้งที่ไปลาออก แสดงว่าเราก็คงใช้ได้ระดับหนึ่ง ดังนั้น การเปลี่ยนงานไม่น่าจะเป็นปัญหา
การลาออก ไม่ต้องรู้สึกผิด เป็นอนาคตของเราเองที่เราต้องรับผิดชอบเอง เจ้าของเขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาสนใจแค่ไม่มีคนทำงานให้ แต่เราเองต่างหากที่ต้องคิดเอง ตัดสินใจเอง และเลือกอนาคตของเราเอง ถ้าลำบากใจที่จะลาออกเพราะถูกหว่านล้อม ตามกฎหมาย การลาออกเป็น one way communication ที่ไม่ต้องได้รับการเห็นชอบหรืออนุมัติจากใคร ถ้าลำบากใจ สามารถส่งจดหมายบอกกล่าวล่วงหน้า ตามกฎของบริษัท แล้วกำหนดวันสิ้นสุดการทำงานให้ชัดเจนแล้วถึงเวลาก็เก็บของกลับบ้านครับ
-งานสบาย ไม่มีใครกลับบ้านเกินเวลา 5 นาที
-ทุกครั้งที่ลาออก โดน counter offer จนรู้สึกผิดแล้วก็ตัดสินใจไม่ไป
ถ้าเรามองหาความก้าวหน้าจริงๆ แล้วทำเช็คลิสต์ จากนั้นกลับมามองดูงานที่ทำอยู่ มีกี่ข้อที่ตอบโจทย์เรา เท่าที่เห็นนะ ที่นี่ บริษัทเล็ก เจ้าของไม่ค่อยเข้า ทำงานแบบอยู่ไปวันๆ งานสบาย คนที่อยู่ที่นี่ก็ไม่โต อยู่เพราะสบาย ไม่มีใครจุกจิก ไม่เจริญ แต่ก็ไม่เลวร้าย ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีโบนัส ไม่ปรับเงินเดือน จะปรับทีก็ต้องไปยื่นใบลาออกนั่นแหละ ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมคนที่อยู่มา 7-8 ปี เงินเดือนน้อย ก็เพราะเป็นคนที่ไม่มีที่ไป หรือไม่คิดจะไปไหนไง เลยไม่เคยไปขอลาออก แล้วก็ไม่เคยปรับ พูดแบบสรุปเลย ที่นี่ ไม่มีอนาคต
ทีนี้ มาดูตัวเอง ถ้าเราไม่อยากเป็นแบบพี่ๆที่อยู่มานานๆ ก็ควรต้องขยับขยาย ดูจากที่เจ้าของรั้งและปรับเงินให้เยอะทุกครั้งที่ไปลาออก แสดงว่าเราก็คงใช้ได้ระดับหนึ่ง ดังนั้น การเปลี่ยนงานไม่น่าจะเป็นปัญหา
การลาออก ไม่ต้องรู้สึกผิด เป็นอนาคตของเราเองที่เราต้องรับผิดชอบเอง เจ้าของเขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาสนใจแค่ไม่มีคนทำงานให้ แต่เราเองต่างหากที่ต้องคิดเอง ตัดสินใจเอง และเลือกอนาคตของเราเอง ถ้าลำบากใจที่จะลาออกเพราะถูกหว่านล้อม ตามกฎหมาย การลาออกเป็น one way communication ที่ไม่ต้องได้รับการเห็นชอบหรืออนุมัติจากใคร ถ้าลำบากใจ สามารถส่งจดหมายบอกกล่าวล่วงหน้า ตามกฎของบริษัท แล้วกำหนดวันสิ้นสุดการทำงานให้ชัดเจนแล้วถึงเวลาก็เก็บของกลับบ้านครับ
แสดงความคิดเห็น
อายุ24 ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตต่อค่ะ
ที่ปัจจุบันเป็น บริษัทเล็กค่ะ พนง.ไม่ถึง100 คน ทำ จ-ส. 8.00-17.00น. ไม่มีโอที ไม่มีโบนัส ไม่มีกองทุน ไม่มีปรับเงินเดือน มีแค่ประกันสังคมอย่างเดียว ถามว่าทำไมถึงอยู่ งานสบายค่ะ เลิกงานตรงเวลา ไม่มีใครอยู่ต่อเกิน5นาที ปิดไฟกลับบ้านหมดทั้งออฟฟิส เจ้านายใหญ่ไม่ค่อยเข้ามาบริษัท บวกกับเราทำตรงนี้มาเข้าปีที่3แล้ว คล่องค่ะ และค่อนข้างเป็นตำแหน่งที่สำคัญในที่ทำงานและไม่ค่อยมีใครมาก้าวก่ายเรื่องงาน
วันนี้ไปขอลาออก เพราะอะไรหลายๆอย่าง เขาก็ยื้อเหมือนปีที่แล้วเลยค่ะ เดจาวูขั้นสุด เรียกไปคุยจนอยากจะร้องไห้ กดดันมาก เพราะเขาก็ยื่นข้อเสนอดีๆให้ และเพิ่มเงินเดือนให้อีก เจ้านายใหญ่ที่นี่ให้โอกาสเรามากๆจนรู้สึกผิดทุกครั้งที่จะไป แต่เราคิดไว้แล้วว่ายังไงก็อยากไปเพราะต้องการออกจากเซฟโซนของตัวเองสักที อยู่ต่องานสบายก็จริง แต่เราไม่มีความท้าทายในงานตัวเองอีกต่อไปแล้ว มันน่าเบื่อไปหมด ไม่เหมือนตอนเข้ามาทำแรกๆ
บอกตามตรงไม่ได้อยากทำงานธุรการค่ะ อยากทำ shipping นำเข้า-ส่งออก ตามสายโลจิสติกส์ที่จบมา แต่ก็นั่นแหละค่ะ ยังไม่เคยทำเลย ไปสมัครงานที่ใหม่ ตำแหน่ง warehouse แต่สุดท้ายก็มาได้ตำแหน่ง admin ตามสเต็ป แล้วเราก็มองอนาคตอีก5ปีของตำแหน่งนี้ไม่ออกเลยว่าจะโตไปได้ไกลแค่ไหน หรือเรามองโลกแคบไปคะ ไม่ได้ด้อยค่าอาชีพไหนหรอกนะคะ แต่เราแค่อยากเติบโต อยากสร้าง Career Path ให้กับตัวเอง แต่มันมองไม่ออกแค่นั้นเลยค่ะ
ที่ใหม่ก็เป็นบริษัทเล็กๆเหมือนกัน แต่ข้อดีคือมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีโบนัส มีปรับเงินประจำปีให้ ทำงานเสาร์ครึ่งวัน แต่ข้อเสียคือ ไม่มีเวลาเลิกงานที่แน่นอนและไม่มีโอที เนื้องานก็ Admin ประสานงานจิปาถะที่เด็กจบใหม่ก็ทำได้ เงินเดือนทดลองงาน 22k ผ่านโปรอาจได้ปรับเพิ่ม เราเลยคิดว่าจะย้ายไปก่อน ทำสักปีแล้วมองหางานใหม่อีกรอบ ตอนนั้นเราก็จะอายุ25 ถ้าจะเปลี่ยนสายงานมาโลจิสแบบที่อยากทำไม่รู้ว่าจะทันไหม
เรามองพี่ๆที่ทำงานปัจจุบันของเรา อายุ 28 29 บางคนทำมาตั้งแต่จบเลย 7 8 ปี ไม่เคยย้ายงาน เงินเดือนเท่าๆกับเราตอนนี้ หรือน้อยกว่าด้วยซ้ำ ได้แต่คิดแล้วก็สงสัยค่ะ แต่ก็เข้าใจว่าอาจจะมีเหตุผลอื่นๆ ใกล้บ้านหรืออะไรก็ตามแต่ มันเลยทำให้เราคิดว่า ทำไมเราต้องเครียดแล้วกดดันกับชีวิตตัวเองขนาดนี้
ตอนแรกตั้งใจสอบเข้าทำงานข้าราชการค่ะ เพราะอยากสบายตอนบั้นปลายชีวิต แต่ก็เพิ่งสอบกพ. ไป1ครั้ง ยังไม่ผ่านค่ะ อยากเรียนต่อ ป.โท แต่ก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าจะเรียนไปเพื่ออะไร รู้แค่ว่าอยากเรียนอัพเวลตัวเอง เวลาตัดสินใจทำอะไร ที่บ้านก็พร้อมซัพพอร์ตเสมอค่ะ แต่เป็นคนที่ทำอะไรไม่สำเร็จสักเรื่อง บางทีก็อยากหนีไปนั่งปฏิบัติธรรมให้ใจสงบๆลงบ้าง
ตอนนี้ในหัวเราทุกๆเวลาที่ลืมตามันเครียดมากๆเลยค่ะ หยุดคิดแค่ตอนได้หลับ แต่ส่วนมากก็เก็บไปฝันอีกค่ะ เหนื่อยมากเลย อยากมีคนรับฟัง แนะนำ ชี้แนะแนวทางอะไรให้เราได้บ้าง เหมือนเรามืดทุกทางเลยไม่รู้จะเดินหน้าต่อทางไหน ยิ่งคิดว่าช่วงที่เราลังเล อายุเรามันก็เดินหน้าต่อทุกวันๆ ยิ่งเครียดเข้าไปอีกค่ะ เรายังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าจริงๆราคาดหวังอะไรในชีวิต การเติบโตในสายงาน ได้เงินเดือนเยอะๆ ตำแหน่งสูงๆที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ หรือความสุขระหว่างทาง ที่ทำงานไม่ต้องเก่งมาก เงินเดือนกลางๆ ได้เลิกงานตรงเวลา อยู่กับแฟน อยู่กับแมว ได้กลับบ้านหาพ่อแม่ เดินเล่นสวนสาธารณะตอนเย็น ได้เล่นเกมวันหยุดเสาร์อาทิต
อยากขอคำแนะนำจากทุกๆคนที่ผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาแล้วหรือกำลังเผชิญอยู่ ว่าลึกๆแล้วคนเราต้องการอะไรในชีวิตคะ ควรไปที่ใหม่ดีไหม แล้วเราควรมองตัวเองอีก5ปีข้างหน้าไว้ยังไงดี ขอบคุณค่ะ