Summer in Kansai : ญี่ปุ่น…มาซ้ำกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ [ 4 วัน 3 คืน ]

[CR] Summer in Kansai : ญี่ปุ่น…มาซ้ำกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ [ 4 วัน 3 คืน ]

กระทู้รีวิว

AirAsia X เที่ยวญี่ปุ่น รถไฟ ประเทศญี่ปุ่น บันทึกนักเดินทาง

เดือนมิถุนายน…ประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นเดือนที่เริ่มเข้าหน้าร้อนแล้ว แต่ยังไม่ร้อนมาก กลางคืน 18 องศา กลางวันสูงสุด 28 องศา สำหรับเรามองว่าการมาเที่ยวหน้าร้อนช่วงเดือนมิถุนายนก็ไม่แย่นะ อากาศกำลังดี นอกจากนี้คือพระอาทิตย์ขึ้นไวพระอาทิตย์ตกดินช้าทำให้เราเที่ยวได้เต็มวัน ช่วงที่เรามาเที่ยวประมาณตีสี่กว่าพระอาทิตย์ขึ้นสว่างแล้วค่ะ

ทริปนี้เรามาลุยเดี่ยวเที่ยว Kansai ตัดสินใจกระชันชิดจองไม่กี่วันก่อนเดินทาง ไม่มีคนมาด้วยเพราะเตรียมตัวกันไม่ทัน ไม่เป็นไรค่ะลุยเดี่ยวเลยละกัน อยากจะมา Kansai เพราะไม่ได้มาเที่ยว Zone Kansai ประมาณ 3 ปีค่ะ หลังจากญี่ปุ่นเปิดประเทศไป Kyushu มาแล้วรอบนึง จากกระทู้นี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา https://ppantip.com/topic/41747344?sc=8fGbjry

เมื่อก่อนมา Kansai บ่อยทำให้ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดีแต่ก็ไม่เบื่อนะ ญี่ปุ่นมาได้เรื่อยๆ มากินมาเดินซื้อของก็มีความสุขแล้ว รอบนี้อยากลองไปเที่ยวที่ตัวเองไม่เคยไปและกลับไปอัพเดตสถานที่เที่ยวที่เคยไปบางที่ค่ะ ก็เลยจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นผสมกับสถานที่ยอดนิยมนะคะ ไว้มาดูกันนะคะว่าเราจะไปเที่ยวไหนกันบ้าง ลุยยย….

แผนการเดินทาง
Day 1
📍Hotel Mikado

Day 2
📍Namba Yasaka Shrine
📍Shikitsumatsunomiya Shrine
🍴Yoshinoya
☕️ % ARABICA Kyoto Arashiyama
📍Arashiyama Bamboo Grove
🍦 Honke Yatsuhashi
🍴Nishiki Market
🍴Kura Sushi Shinsekai Tsutenkaku
📍Tsutenkaku Tower
📍MEGA Don Quijote Shinsekai
📍Namba Dotonburi

Day 3
🍴Tajiri Sunday Morning Market
📍Kishiwada Castle
📍Isonoura Beach
📍Kada Kasuga Shrine
🍦Sampomaru
📍Awashima Shrine
📍Rinku Town Outlet
🍴Ramen Ippachi

Day 4
📍Sumiyoshi Taisha Shrine
🍴Random Steak House
🍦Naruto Taiyaki
🍴Chinatown
📍Harbourland
📍Kiku-Masamune Sake Brewery Museum
📍Sumiyoshi River
🍴てこや新今宮駅前店
🍴Gyoza no Ohsho - Taishi

ข้อควรรู้ : ฤดูร้อนของญี่ปุ่นจะเริ่มตั้งแต่มิถุนายนถึงเดือนกันยายน เดือนสิงหาคมและกันยายนจะเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของญี่ปุ่นค่ะ ขีดเส้นใต้”ร้อนกว่าไทย”และเป็นช่วงที่ตั๋วเครื่องบินราคาถูกที่สุดด้วยค่ะ อย่าลืมพกหมวก พัดลมพกพา แว่นกันแดด ร่ม ครีมกันแดด กระดาษทิชชูเปียกไปด้วยนะคะช่วยคลายร้อนได้ดีทีเดียวค่ะ

บันทึกการเดินทางวันที่ 1

สวัสดียามบ่ายค่ะ ตอนนี้เราอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ รอ Counter Check in ของ Airasia เปิดให้บริการค่ะ เดียวนี้สายการบิน Airasia บางเส้นทางของญี่ปุ่น จะบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีเส้นทางโตเกียวและโอซาก้า ส่วนเส้นทางฟุกุโอกะจะบินที่สนามบินดอนเมืองค่ะ เคาน์เตอร์เปิดให้บริการก่อน 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบินค่ะ แนะนำให้ทำ Web Check in มาจากที่บ้านก่อน แถว Check in ปกติแถวยาวมากจริงๆ online check in สามารถทำได้ล่วงหน้า 10 วันก่อนเดินทางค่ะ เรามาโหลดกระเป๋าตรง Red Carpet เป็น Complementary ของบัตร Bangkok Airasia Card ค่ะ สามารถขอให้เจ้าหน้าที่ติด Express Bag ให้ได้ด้วยนะคะหมายถึงกระเป๋าเราจะมา First Bag เมื่อถึงปลายทางค่ะ

หลังจากที่เช็คอินเรียบร้อย วันนี้เราเลือกใช้บริการของ Air France & KLM Lounge บริเวณ Gate F2 ค่ะ ด้วยบัตร Priority Pass

Lounge อยู่ใกล้กับ Gate E ที่เราบินค่ะ เพิ่งเคยใช้บริการครั้งแรก อาหารหลากหลายดีทั้ง Thai Line และ International line มีห้องอาบน้ำด้วย สามารถอยู่ได้ยาวถึง 3 ชั่วโมง

ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงครึ่งค่ะ เดินมารอที่ Gate E เตรียม Boarding Pass

ขึ้นเครื่องมาแล้ว เครื่องบินแบบ A330-300 จัดที่นั่ง 3-3-3 โซนท้ายเครื่องจะบีบเหลือ 2-3-2 ค่ะ เราจองที่ 1D quiet zone เป็นโซนเงียบที่ไม่อนุญาตให้เด็กทารกนั่งค่ะ เราเคยนั่งต่อหลังจากแถวทารก น้องร้องตลอดทั้งไฟท์ เรานอนไม่หลับเลย ขออนุญาตเซฟตัวเองไว้ก่อนน๊า และข้อดี Zone นี้ผู้โดยสารจะน้อยไม่ค่อยเสียเงินเลือกที่นั่ง ทำให้ได้นั่งยาวสามเบาะค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติมที่นั่งแถว 1 จะไม่สามารถยกที่กั้นระหว่างเบาะขึ้นได้ ยกเว้นที่นั่ง 1D ที่เอาที่กั้นแขนซ้ายขึ้นได้ค่ะ

ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที บนไฟท์จะมีจำหน่ายอาหารสองรอบ อาหารชุดละประมาณ 250 บาท แนะนำให้ซื้อมาก่อนชุดละ 200 บาทได้น้ำดื่มฟรี 1 ขวดค่ะ เราไม่ได้ซื้อไว้ก่อนโดนกลิ่น Nissin Cup Noodle เล่นงานเลยจัดมา 1 ถ้วย 80 บาท และเครื่องดื่มอีก 1 กระป๋องพร้อมน้ำแข็ง 1 แก้ว 60 บาท โดนไป 140 บาทค่ะมื้อนี้ รับบัตรเครดิตนะคะถ้าซื้อ 300 บาทขึ้นไป

ระหว่างบินเรานั่งฟังเพลง อ่านนิยายที่ Download ไว้ ผ่านไปอย่างไว 5 ชั่วโมง เตรียมตัว Landing แล้วค่ะ มาถึงก่อนเวลา 30 นาทีบวกกับพายุฝนกระหน่ำ ฝนตกแรงมากๆ เครื่องสั่นจนน่ากลัว แต่กัปตัน Landing ดีมาก ชื่นชมค่ะขอบคุณที่พามาถึงที่หมายอย่างปลอดภัยนะคะ ลงจากเครื่องมารีบมาต่อแถวตม. มีไฟท์ลงก่อนหน้าเรา ไฟท์บินมาจากเกาหลีจ้าาา แถวยาวมากจริงๆ ลุ้นว่าจะทันรถที่จองไว้ไหม เราไม่เขียนใบตม.นะคะ ลงทะเบียน Visit Japan ไว้ แค่แสกน QR Code ตรงตม. และ Custom ขาออก ใช้เวลาทั้งหมดรวมรับกระเป๋าเดินทาง 30 นาทีค่ะ

ออกมา Arrival Hall รถที่จะพาไปส่งโรงแรมถือป้ายชื่อเรารอตรงทางออก นั่งไปโรงแรมกันค่ะ เราได้ Upgrade ฟรีจาก Benz มาเป็น Alphard รถใหญ่จะต้องเสียค่า Upgrade 30 USD ต่อคันจากสนามบิน Kansai เข้าตัวเมืองประมาณ 40 นาที ยังคิดว่าวันนี้โชคดีที่จองรถมา ถ้าไม่จองต้องนอนสนามบินเพราะรถไฟรถบัสไม่วิ่ง เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นเข้า Kansai ค่ะรถไฟวิ่งอีกทีตอน 06:30 ด้านในสนามบินมีแจกถุงนอนให้นอนในสนามบินและน้ำดื่มฟรีค่ะ Limousine Service นี้เราได้มาจาก Citi Prestige ใช้บริการฟรีปีละ 2 ครั้ง รถนั่งได้สูงสุด 4 คนต่อคัน และกระเป๋าใบใหญ่ 30 นิ้วได้ 2 ใบค่ะ ไฟท์ของญี่ปุ่นคนขับจะรอเรา 60 นาทีหลังจาก Flight Landing ค่ะ

มาถึงแล้วโรงแรม Mikado ก่อนลงเราเอา Thank you card ของฝากและขนมที่เตรียมมาจากไทยให้กับ Driver ขอบคุณนะคะที่มาส่ง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน ขอตัวไป check in อาบน้ำอาบท่าพักผ่อน เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ