ปกติใช้ชีวิตแบบไม่ค่อยนึกถึงเรื่องอะไรแบบนี้เลยคะ แต่พอมาถึงวันนี้เริ่มคิดแล้วคะ เมื่อคุยกับพี่ชายคนโต ปกติเราทำงานกลับบ้านทุกวันหยุด กลับไปหาแม่คะ อยู่กับแม่ พ่อแม่แยกทางกัน แล้วจะคุยกับพี่ชายคนโตตลอดถามไถ่และสั่งพี่ชายให้เข้าไปบ้านไปดูแม่หน่อยนะ แล้วมีอยู่วันหนึ่งเราถามพี่ชายว่าได้เข้าไปบ้านไหม พี่ก็บอกว่าไปแต่ไปเเปปเดียว เห็นมีคนมาบ้านมาทวงหนี้งวดรถของพี่ชายคนกลาง เรามีพี่ชาย2คนส่วนเราเป็นคนเล็กสุด แล้วเราก็เลยโทรศัพท์คุยกับแม่เพราะกว่าแม่จะคิดมาก เราก็ถามเรื่องราวว่ามันเป็นยังใงแม่ก็บอกเราทุกอย่างเดี่ยวกับพี่คนกลาง พี่คนกลางชอบกิน เล่นติดการพนัน ออกรถแล้วก็ส่งไม่ไหวหาหยิบยืมคนอื่น บางครั้งก็ทักมายืมเรา แต่ก็ไม่มี ทางบ้านเราไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร เราก็หาเช้ากินค่ำธรรมดา ตอนจะออกรถก็มาบอกเราว่าจะออกเราก็ห้ามไว้แล้วว่าอย่าพึ่งออกเลย กลัวส่งไม่ไหว แต่ไม่ฟัง ไม่ได้แกล้งว่านะคะ แต่พี่คนกลางเป็นแบบนี้จิงๆ ไม่ค่อยฟังคนในครอบครัวเชื่อแต่คนอื่น อยากได้หน้ามีตาในสังคม ส่วนแม่ก็หนักใจแต่ทำไรพูดอะไรไม่ได้ ถ้าพูดพี่ชายตะคอกใส่ว่าแม่ทันที เราเข้าใจความรู้สึกแม่นะบางทีก็อยากจะใส่หน้าพี่ชายตัวเองเหมือนกัน แต่เห็นใจแม่ไม่อยากให้มันแย่กว่าเดิม เรื่องมียุว่าพี่ชายเราไปยืมเงินลูกของป้า(ลูกพี่ลูกน้อง)แล้วไม่คืนเขาไม่รู้ว่าเท่าไรนะแต่แม่เล่าให้ฟัง ลูกของป้าไม่เท่าไรแต่สะใภ้ของป้าอะ อยากได้นาเเม่เราไปทำ แล้วอ้างว่าพี่ชายคนกลางไม่มีเงินมาใช้หนี้ต้นก็ไม่ได้ดอกก็ไม่ได้ มาพูดกับแม่เราแบบนี้ แม่ก็ให้เขาทำไปส่วนหนึ่ง เขามาพูดขนาดนี้แล้วก็ต้องให้ทำ ส่วนเราก็คิดมากตามแม่ ก็เลยคิดว่าอยากให้แม่ทำพินัยกรรมไว้เพราะเราไม่อยากทะเลาะกับใคร อยากให้แม่แบ่งและระบุให้ชัดเจน และเราก็กลัวว่าพี่ชายจะไปติดหนี้เขามากกว่านี้แล้วเขาจะเอาที่ไปแทน อยากให้แม่แบ่งให้ แต่ไม่อยากแบ่งเอง พี่ชายทั้ง2คือติดหนี้ทั้งสอง คนโตก็หนักคะ ถึงขั้นยืดทรัพสิน แต่พี่คนโตก็พอคุยกันได้บ้าง แต่คนกลางคุยยากมากถึงขั้นทะเลาะกันและไม่อยากคุยกัน เราไม่ได้ว่าพี่ไม่ดีนะคะ แต่เราไม่มีหนี้สินอะไร รถก็ไม่มียังไม่กล้าออกอะไรทั้งนั้นยังไม่อยากมีหนี้เพิ่ม แค่นี้ก็ปวดหัวแล้วคะ ขอระบายหน่อยนะคะ
เรื่องพินัยกรรม