สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 33
การทดลองอยู่ก่อนแต่ง คุณต้องไปเช่าหออยู่ข้างนอกเองไม่ใช่มาใช้บ้านแม่ ค่าน้ำค่าไฟค่ากินค่าอินเตอร์เน็ตของแม่
เราเป็นแม่คุณเราก็ไม่โอเค ไม่ใช่เพราะหัวสมัยเก่า แต่เพราะมาอยู่บ้านผู้หญิงเปล่าๆเหมือนแมงดาค่ะ
อยากหัวสมัยใหม่ต้องออกไปรับผิดชอบชีวิตเองด้วยค่ะไม่ใช่อยากหัวสมัยใหม่แต่ยังแบมือขอตังแม่อยู่
เราเป็นแม่คุณเราก็ไม่โอเค ไม่ใช่เพราะหัวสมัยเก่า แต่เพราะมาอยู่บ้านผู้หญิงเปล่าๆเหมือนแมงดาค่ะ
อยากหัวสมัยใหม่ต้องออกไปรับผิดชอบชีวิตเองด้วยค่ะไม่ใช่อยากหัวสมัยใหม่แต่ยังแบมือขอตังแม่อยู่
ความคิดเห็นที่ 10
คุณอย่าคิดเรื่องพิธีกรรมสิครับ
สำคัญมันอยู่ที่ "การปฏิบัติ"
คนแต่งงาน 1 ครั้งแล้วหย่า คือใช้ชีวิตคู่มาแล้ว 1 ครั้ง
คนไม่แต่งงานแต่อยู่กินกันมาแล้ว 3 คน ก็คือใช้ชีวิตคู่มาแล้ว 3 ครั้ง
ไม่ใช่บอกว่ายังไม่แต่งคือ ไม่เอาจริง คือวันที่เก็บเสื้อผ้ามาอยู่ด้วยกันนั่นแหละคือ เอาจริงแล้ว
คนที่อยู่ด้วยกัน 10-20 ปี จนมีลูก ลูกโตแล้ว จะบอกเขามาทดลองอยู่เฉยๆได้ไง ??
ถ้าคิดแบบนี้แต่งงานมันก็แค่พิธีเสริม จะแต่งหรือไม่แต่งมีค่าเท่ากัน
แต่คนสมัยก่อน เขาจะคิดว่า แต่งงานคือเรื่องหลัก ไม่แต่งคือทำอย่างอื่นไม่ได้
ก็ต้องปรับความเข้าใจกันครัย
สำคัญมันอยู่ที่ "การปฏิบัติ"
คนแต่งงาน 1 ครั้งแล้วหย่า คือใช้ชีวิตคู่มาแล้ว 1 ครั้ง
คนไม่แต่งงานแต่อยู่กินกันมาแล้ว 3 คน ก็คือใช้ชีวิตคู่มาแล้ว 3 ครั้ง
ไม่ใช่บอกว่ายังไม่แต่งคือ ไม่เอาจริง คือวันที่เก็บเสื้อผ้ามาอยู่ด้วยกันนั่นแหละคือ เอาจริงแล้ว
คนที่อยู่ด้วยกัน 10-20 ปี จนมีลูก ลูกโตแล้ว จะบอกเขามาทดลองอยู่เฉยๆได้ไง ??
ถ้าคิดแบบนี้แต่งงานมันก็แค่พิธีเสริม จะแต่งหรือไม่แต่งมีค่าเท่ากัน
แต่คนสมัยก่อน เขาจะคิดว่า แต่งงานคือเรื่องหลัก ไม่แต่งคือทำอย่างอื่นไม่ได้
ก็ต้องปรับความเข้าใจกันครัย
แสดงความคิดเห็น
แม่บอกว่า"ให้แต่งงานไม่ใช่ให้เขามา...ฟรี"
ด้วยความที่เราให้แฟนมาอยู่ในบ้านโดยไม่ได้แต่งงานเข้ามา ทางบ้านเลยไม่พอใจแบบสุดๆเขาบอกถ้ารักถ้าชอบกันจริงก็มาแต่งให้เรียบร้อย คือเราไม่อยากแต่งงาน คือเขาดีนะช่วยทำอาหาร ซักผ้า และอื่นๆในบ้านเรา แต่คือเราไม่รีบเพราะมีเหตุของเราซึ่งคือ
1.)การที่แต่งงานมันเรื่องใหญ่มากๆ แต่งแล้วแล้วเลิกกันไปตอนหลัง มันดูไม่ดีมากกว่าเป็นแฟนแล้วเลิกกันไปด้วยซ้ำเพราะมันจะแบบ "ผู้หญิงคนนี้เคยแต่งงานมาแล้วนะ" รู้สึกมีมลทิน คือต่อให้มีแฟน100คนแล้วเลิกกันไปมันก็คือจบนะ แต่ถ้าได้แต่งงานแล้วเลิกกันไปแค่1ครั้งก็คือโดนตราหน้าทันที
2.)เรามีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนผู้ใหญ่เก่าๆ คือเราแบบ ทดลองอยู่กินเลย ถ้าแค่นี้ไม่รอดแต่งไปเสียเงินเปล่าๆ เขาจะพูดได้เยอะอีกว่าแต่งทั้งทีได้ผัวไม่ดี
3.)เราเคยเจอคนหนึ่ง ที่คบใครแล้วก็หมันก็แต่งกับทุกคน (เรื่องจริง) คือเราแบบคิดว่าอาชีพรึเปล่า ให้ผู้ชายมาหมัน2-3หมืนก็ได้แล้วก็อยู่กินกัน ปี1เลิกบ้างครั้งไม่ถึงปี เราแบบมันดูแย่มาก มันอาจจะไม่เข้าตำราโดน...ฟรี เพราะมันแต่งและหมัน แต่เอาจริงไหม รู้สึกแย่กว่ามีแฟนแล้วไม่ได้แต่งอีก
4.)รักจริงไม่จริงมันไม่ได้ตัดสินแต่งไม่แต่งนะ แต่งไปมันเลิกกันก็เยอะซึ่งเราไม่อยากแต่งๆเลิกๆ เราคิดว่า1ปีไม่ใช่รักแท้เราเคยคบผู้ชายคนอื่นมา7ปีเรายังไม่แต่งเลยเพราะมันรู้สึกไม่ใช่
5.)เรามองเรื่องเสียตัวก่อนแต่งเป็นเรื่องปกติ สมัยนี้อะเนาะเรื่องรสนิยม....มันก็ต้องเช็คกันบ้างไม่ใช่ไม่เคยโดนแต่งเลยแต่หลังจากนั้นได้มาทะเลาะมาเลิกกันเรื่อง....ทะเลิกกันหลายคู่อยู่นะ
ซึ่งเราไม่ชอบคำพูดที่แบบ ไม่มีศักดิ์ศรีเลย คบใครก็ให้เขา...ไปหมด พวกนี้มันได้มันก็ไป มันไม่เอาจริงถ้าเอาจริงมันต้องมาคุยมาแต่งแล้ว หัดรักศักดิ์ศรีตัวเองบ้าง บ้านเมืองเรามีประเพณี จะเข้าบ้านก็ต้องมาแต่งมาหมั้นให้ถูกต้อง
พอเราบอกจะแต่ง ก็ถามคิดดีแล้วใช่ไหมว่าไอนีมันใช่จริง ขึ้นชื่อว่าแต่งงานแล้วเนี่ยมันต้องแน่ใจ เลือกคู่ครองต้องใจเย็น
😵💫แล้วเราทำอยู่ไม่เลือกตรงไหน แต่วิธีมันไม่ได้ทุกใจคนหัวโบราณเท่าไหร่ เหมือนสมัยก่อนที่ผู้ชายพายเรื่อมาจีบชอบก็ยกขันหมากมาเลยแล้วสุดท้ายเมียเป็น10 ทั้งน้อยทั้งหลวง บางคนก็มีลูกด้วยกัน ต้องมาทนนิสัยหลังแต่งหลังมีลูกอีก ไม่อยากซ้ำรอยประวัติศาสตร์ 😵💫