นั่งทำงานมาแปปๆ นี่ก็จะครึ่งปีแล้วเหรอเนี่ยยย....
ด้วยเงินที่มีเหลืออยู่แค่นี้บวกกับวันลาพักร้อนที่มีอย่างจำกัด
ทำให้เกิดทริป 2 วัน 1 คืนที่สุราษฎร์ธานีขึ้นมาค่ะ
ด้วยความที่กลางปีที่แล้ว Air Asia ออกโปร 0 บาทและเรายังมีเครดิตอยู่
ทำให้เราได้ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ในราคา 200 บาทถ้วนนนน
ฟังไม่ผิดนะเตง 200 บาทจริ๊งๆ
เราเลือกบินตอนเช้าและกลับตอนเย็นของอีกวัน เพราะเรามีเงินเที่ยวแค่นั้นจริงๆ
วันเดินทางเราไปถึงสนามบินตอน 06.00 ตอนนี้คนเริ่มกลับมาเที่ยวกันค่อนข้างเยอะค่ะ
ถ้าใครมีกระเป๋าโหลดอาจจะต้องเผื่อเวลาด้วยนะคะ เพราะแถวรอเช็คอินยาวมากกกกก
เดินไปสุดทางเลยค่ะ วันนี้เกท56 ไกลสุดโลกค่ะ
เบื่อกรุงเทพ เราก็ต้องไปที่อื่นสิ
เรามาถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานีตอนเวลา 08.30 พอดี ไม่ดีเลย์ ไม่มีฝน ไม่มีพายุ
เราได้ทำการจองรถบัสเข้าเมืองของบริษัท Phanthip ไว้แล้ว รถออกรอบ 08.30 พอดีค่ะ
(จริงๆไม่ต้องจองไว้ก่อนก็ได้ค่ะ แต่ว่าวันที่เราไปอีก2วันจะเป็น Fullmoon Party นักท่องเที่ยวอาจจะเยอะ)
ชั้นจะไม่พลาดท่าเหมารถแท็กซีเข้าเมืองแน่นอนย่ะ หึหึ
ค่ารถจาก สนามบินสุราษฎร์ธานี-ตัวเมืองสุราษฎร์ 100บ บาทถ้วนค่ะ
นั่งรถมาได้ประมาณ 45 นาทีเราก็มาถึงตัวเมืองแล้วค่ะ ถึงเวลาประมาณ 09.20 ค่ะ
รถจะจอดที่สำนักงานบริษัท ตรงข้ามตลาดเกษตรนะคะ
เราจองโฮสเทลไว้แถวนั้นพอดี สามารถเดินไปได้เลยค่ะ ทริปนี้ส่วนมากเราจะใช้วิธีเดินเอานะคะ
พอลงรถ เราก็รู้สึกว่าหิวมากกกก ร้านแรกที่เราจะแวะคือ "ร้านเกี๊ยวปลา" ค่ะ
เป็นร้านก๊วยเตี๋ยวเส้นปลาที่อร่อยมากๆๆๆๆ จากที่เคยทานมาในชีวิตนะคะ
แต่อร่อยถึงขั้นต้องบินมากินไหม ก็คงไม่ค่ะ 555555555555
เอาเป็นว่าถ้ามีธุระหรือเป็นทางผ่านก็สามารถแวะมาชิมได้เลยค่ะ
เดินตามทางมาเลยจ้าาาาา
มุมที่คุ้นเคย รู้สึกเหมือนถึงบ้านเลยค่ะ
เราชอบจังหวัดสุราษฎร์มากๆเลยค่ะ มากี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลย
ถึงแล้วค่ะ ร้านที่เราจะมากิน วันนี้ถือว่าโชคดีเพราะของยังไม่หมดค่ะ
เราสั่งเส้นหมี่ต้มยำ มาในราคา 55 บาทค่ะ
ร้านเก่าแก่มากค่ะ
รีวิว ร้าน"เกี๊ยวปลา"
เราว่าก่อนหน้านี้ที่เราเคยกินมันเคยอร่อยกว่านี้มาก
เราสั่งต้มยำไป แต่เหมือนทางร้านแค่โรยพริกป่นด้านบนมาให้เท่านั้น
แต่ยอมรับว่าพวกลูกชิ้นปลา ฮือก๋วย ยังไม่มีร้านไหนล้มล้างร้านนี้ได้ค่ะ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ สามารถแนะนำมาได้หลังไมค์ค่ะ
พอเรากินอิ่มเราก็ต้องหาร้านกาแฟนั่งค่ะ เราตั้งใจจะไปร้าน Kram Cafe
เป็นร้านกาแฟเปิดใหม่อยู่ริมแม่นำ้ตาปี บรรยากาศน่าจะฟินสุดๆ
เดินจากร้านเกี๊ยวปลาไปประมาณ 10 นาทีเท่านั้นค่ะ แต่จะบอกว่าแดดร้อนมากกกก
เราเตรียมร่มมานะคะ แต่ไม่เอาออกมากาง เพราะเดี๋ยวจะไม่เป็นตัวแม่ 555555
ใช้เวลาเดินไปร้าน 10 นาที เล่นกับแมว 1 ชั่วโมง
เดินมาได้สักพักเราก็ถึงร้าน Kram Cafe แล้วค่ะ
ร้านจะมีทั้งหมด 3 ชั้นค่ะ มีทั้ง Indoor และ Outdoor ค่ะ
ตัวมารดาสาวอวบอย่างเราก็ต้องนั่งชั้นที่มีแอร์เท่านั้นนนนนนน
ถ้ามีช้างสักกระป๋องก็จะฟินๆ
เราเลือกนั่งฝั่งที่เห็นวิวถนนค่ะ เพราะชอบมองผู้ชาย
กาแฟคือดียยยยย์ไม่ไหว แก้วนี้ตกที่ราคา 60 บาทค่ะ
ด้วยความหน้ามืดตามัวบวกกับอาหารที่ย่อยไปแล้ว ทำให้เราหิวอีก
เราเลยสั่งหัวหอมทอดมากินกับกาแฟ (เข้ากันตรงไหนวะ)
จานนี้ตกที่ราคา 79 บาท ร้านเขาขายเอาสังคมแหละ
นั่งชิวๆได้สักพัก ก็ถึงเวลาเช็คอินค่ะ
เราเลือกพักที่ "22street Hostel" ราคาอยู่ที่ 190 บาท/คืน
เป็นห้องรวม 6 เตียง ชายหญิง ห้องนำ้รวมค่ะ
ถ้าใครไม่สะดวกใจที่จะนอนรวมกับคนอื่นเราแนะนำโรงแรมราชธานีค่ะ
ใกล์กับร้านอาหารและทุกสิ่งทุกอย่างในสุราษฎร์ค่ะ
ที่นอนของเราในวันนี้ค่ะ
ใน Hostel เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้เยอะนะคะ เพราะมีลูกค้าท่านอื่นอยู่ด้วยค่ะ
ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น เราแทบไม่ทำอะไรเลย นอกจากนอนๆๆๆๆ
หากคาดหวังว่าเราจะออกไปปีนเขา เดินป่า ดำนำ้ดูประการัง ต้องขอบอกว่าผิดหวังค่ะ
เพราะเราไม่ออกจากตัวเมืองเลยค่ะ เรียกได้ว่าเปลี่ยนที่นอนและที่เมา 5555555
จนถึงตอนเย็นเราตั้งใจว่าจะเดินไปตลาดโต้รุ่งริมนำ้ตาปี
เราเดินลงมาด้านล่างโฮสเทล น้องที่เป็นแผนกต้อนรับก็ดูแลเราดียยยยย์มากกกกก
"คืนนี้พี่จะกลับเกิน 22.00 ไหมคะ"
"ไม่ค่ะ คงไม่ได้ออกไปไหนค่ะ"
"โอเคค่ะ เพราะทางโฮสเทลล๊อคประตูตอน 22.00นะคะ หนูจะได้ฝากกุญแจไว้ค่ะ"
เราเดินออกมาที่ริมนำ้ตาปีเพื่อหาของแซ่บกิน ปรากฎว่า.... ไม่มีอะไรขายจร้าาาาา
เราเลยไม่รู้จะกินอะไรเลยกลับไปกินข้าวที่ร้าน Kram Cafe อีกครั้ง
ข้าวผัดแหนม ข้าวผัดใจ
Solo trip@ สุราษฎร์ธานี ..กำเงิน1000ไปเที่ยวกันเถอะ