ปรับปรุงครัวปูนแถมจากโครงการ ให้เป็นครัวในสไตล์เรา รีวิวการปรับห้องครัว แบบ STEP by STEP ครับ

***ดูแบบเป็นคลิปสั้นๆ ดูที่ความเห็น 8 นะคร้าบ***

ช่วงนี้เจ้าของกระทู้ กำลังทำบ้าน ก็ได้หาข้อมูลเรื่องบ้านดี ๆ จาก Pantip เยอะนะครับ เลยคิดว่า จะเอาไอเดีย และ ประสบการณ์ที่ได้ทำบ้าน มาแบ่งปันให้เป็นกระทู้ในห้องชายคา เผื่อคนที่ทำบ้านในอนาคตมาหาข้อมูล อาจจะได้ไอเดีย หรือ แนวคิดเตือนใจ ก่อนไปทำได้ ไม่มากก็น้อยนะครับ ผมจะเล่าแบบละเอียดถึงแนวทางการวิเคราะห์ทุกอย่างเลย อาจจะยาวนิดนึงนะครับ 555 ขออภัยล่วงหน้า อาจจะมีภาพประกอบจากร้านค้าบ้าง แต่ไม่ได้โฆษณาให้ใครแน่นอนครับ แค่เอาตัวเลือกต่าง ๆ มาให้ดูกันนะครับ

*** วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่อง การทำห้องครัว ครับ ***

เกริ่นนำก่อนครับ เพื่อนๆ หลายคน เวลาไปซื้อบ้านมา แล้วโครงการแถมครัวเปล่า ๆ มาให้ ก็มักจะเกิดความคิดที่จะปรับปรุงขยับขยาย ให้ห้องครัว ใช้งานได้ เหมาะสมกับ ไลฟ์สไตล์ของบ้าน บางโครงการดีหน่อย ให้มาครบชุด ตู้ เตา ท้อป ก็ใช้งานได้เลย แต่อย่างของผม ครัวที่ได้มา เป็นสภาพแบบนี้ครับ 


ห้องครัวที่เห็นในภาพ ทางโครงการ ทำเคาน์เตอร์ครัวปูนมาให้ โดยโครงสร้างเป็นอิฐมวลเบาครับ ท้อปหน้าด้วยหินแกรนิตสีดำ ติดตั้งอ่างล้างจานมาให้ 1 ชุด  และ เว้าตรงจุดติดตั้งเตาแก้สมาให้เรียบร้อยครับ มีตำแหน่งปลั๊กที่ดูดควันพร้อม  แต่ไม่มีตู้แขวนใดๆ ให้เลย หน้าบาน ไม่มี 

ซึ่งปัญหาใหญ่ ๆ เลยที่ผมมองคือ 
1. ขาดที่เก็บอุปกรณ์เครื่องครัวต่าง ๆ หรือ ตู้แขวนนั่นเอง
2. ผนังที่ไม่ได้ปูกระเบื้อง หากมีการทำครัว จะเลอะเทอะ ทำความสะอาดยากแน่ ๆ
3. ใต้ชั้น หากไม่มีหน้าบานปิด ก็จะดูไม่สวยงาม เลอะเทอะ 
4. ใต้ชั้นครัว ไม่ได้ปูกระเบื้องภายใน แค่ฉาบเรียบทาสีให้ 
5. ตำแหน่งปลั๊กไฟ  ให้มาเพียง 1 จุด ด้านบน (ไม่รวมปลั๊กตู้เย็นนะครับ อันนั้นอยู่ทางซ้าย ด้านล่างครับ
6. ตำแหน่งที่ดูดควัน อยู่มาทางกลางๆ ห้อง ซึ่ง ด้านหลัง เป็นห้องน้ำ เจาะรูทะลุไปไม่ได้ ถ้าจะเดินสาย ต้องออกทางฝั่งหน้าต่างครับ
7. มีเรื่องเกี่ยวกับฮวงจุ้ยนิด ๆ หน่อย ๆ ที่ผมขัด ๆ ตา (อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ แต่ผมจะไม่ลงดีเทลครับ)

นอกจากปัญหาหลัก ๆ 6 ข้อที่กล่าวมา ยังไม่รวมถึง ปัญหาเรื่อง ขนาดของช่อง ที่เว้นมาให้ ไม่เท่ากันสักช่อง ดิ่งก็ไม่ได้ เรียกว่า ก่อ(ปัญหา) ให้ลูกค้ามากกว่าครับ 5555 คือ ทำทำไมแบบนี้ ปล่อยโล่งยังดีกว่าเลย ในความคิดผม แต่เอานะครับ ไหน ๆ ก็แถมมาให้แล้ว ก็แก้ไขกันไปครับ

และนี่คือที่มาของโครงการ ทำยังไงให้ห้องครัวมันใช้งานได้ และ ถูกใจเรา แต่ต้องไม่แพงจะเกินไปด้วยนะครับ ^^

Step 1 หาข้อมูลครัวรูปแบบต่าง ๆ

    เริ่มต้นก่อนอื่นด้วยความที่ไม่เคยทำห้องครัวเป็นของตัวเองเลย ก็ต้องหาข้อมูลก่อนครับ หลังจากที่หาข้อมูลจากหลาย ๆ ที่ รวมถึงไปเดินตามห้างต่าง ๆ ที่มีบริการเกี่ยวกับห้องครัว ก็สรุปแนวทางเบื้องต้นได้แบบนี้ครับ เพื่อน ๆ เอาแนวทางไปดูพิจารณากันตามสมควรได้เลยครับ

1. ทุบ!! ของเก่าทิ้ง ทำใหม่ทั้งหมด ไหน ๆ มันก็ขัด ๆ ไปหมด

    มาเวย์โหดดิบเลยครับ สำหรับแนวคิดแรก เพราะอันดับแรกเลย คนที่รับทำครัวตามโมเดิร์นเทรดดัง ๆ เค้าไม่รับทำจากครัวเดิมครับ ถ้าจะทำกับเค้า ต้องทุบโครงเก่า แล้ว ออกแบบกันใหม่ อยากได้อะไร ก็ไปออกแบบ เลือกวัสดุ เอาใหม่ได้เลย ซึ่งในตัวเลือกนี้ เราก็มีทางเลือกย่อยไปอีกสองสามทางครับ

    1.1 ทำครัวปูน  อันนี้ ก็จะมีบริการตามห้าง ตัว B นะครับ เรียกว่า ครัวปูน 360 องศา ก็เอาพื้นที่ไปให้เค้าดู แล้วเค้าจะออกแบบให้ สวยเนี้ยบๆ เลย ซึ่งจากที่สอบถามคร่าว ๆ ถ้าจะเอาตามความต้องการของผมทั้งหมดเนี่ย เตรียมเงินไว้ 2-3 แสนครับ เพราะขนาดใหญ่ และ สเปคเยอะ 55555 ซึ่ง แหงะ ไม่ไหวครับ  ข้ามไป ต้องก่อสร้างกันใหม่อีก ใช้เวลานาน ผมไม่ไหวที่จะเฝ้าช่าง T T

ภาพประกอบครัวปูนจากเฟสบุ๊คบุญถาวรครับ
    1.2  ทำครัวสำเร็จรูป อันนี้ก็มีเจ้าที่รับทำอยู่สองสามยี่ห้อครับ แนวคิดคือ เหมือนเอาบล้อคที่เป็นตู้ ๆ แล้วเอามาต่อ ๆ กัน ตามความต้องการของเราเลย มีบริการออกแบบให้เหมือนกัน ใช้เวลาติดตั้งไม่นาน ราคาย่อมลงมาหน่อย แต่อยู่ในระดับ 1-2 แสน ขึ้นอยู่กับวัสดุครับ ข้อดีของแบบนี้คือ ติดตั้งเร็ว ไม่เลอะเทอะ ฟังก์ชั่นเลือกได้ ครับ แต่ทั้งนี้ ยังไม่รวมค่าทุบของเก่านะ จะจ้างใครมาทุบน้า คิดไม่ออก วัสดุส่วนใหญ่ จะเป็นพลาสติก หรือ บางเจ้า เป็นสแตนเลส ก็มีครับ ราคาต่างกันไป

ครัวสำเร็จรูป เลือกมาวางเป็นชิ้น ๆ ประกอบง่าย ใช้เวลาไม่นาน แต่ราคาสูงหน่อยครับ ภาพจากคิงส์คิชเช่นครับ

   1.3  ทำครัวบิ้วอิน โครงไม้ อันนี้สวยสุด แต่ผมตัดออกอันแรกเลยครับ  เพราะผมไม่ค่อยถูกใจกับการใช้โครงไม้เท่าไหร่ ถึงแม้จะเป็น HMR ที่บอกว่าทนชื้น ใช่ครับ มันทนชื้น แต่มันไม่กันน้ำครับ ! 5555 หลายเจ้าโฆษณาว่า ครัวทนชื้นทนน้ำกันปลวก แต่จริง ๆ มันก็คือไม้อัดประเภทหนึ่ง ซึ่งถ้าโดนจริง ๆ มันก็ไปครับ ได้ความสวย แต่ ไม่น่าทนมือไม้คนที่บ้านครับ เราไม่ค่อยดูแลกันเท่าไหร่ 5555 แถมราคาก็ 6 หลักขึ้น สูงมากๆ เลย แต่ข้อดีของเค้าคือ สวย เรียบ เนียน ไร้รอยต่อ ทอเต็มผืนสุดๆ ครับ เรียกว่า ครัวที่เป็นหน้าเป็นตาให้บ้านอย่างแท้จริงครับ สำหรับครัวแบบนี้ และยังสามารถกำหนดฟังก์ชั่น ใส่พวกฟิตติ้งเก๋ๆ ได้หลากหลายด้วยครับ 
ภาพประกอบ ครัวบิ้วอินแบบต่างๆ จาก https://ihome108.com/
2. บิ้วอินทับโครงปูนเดิม

    อ่าาาา เหมือนสวรรค์มาโปรดให้เราเจอแนวทางที่สองครับ มีคนแนะนำมา ดูท่าจะประหยัดเงินได้เยอะกว่าสองแบบแรก เพราะไม่ต้องจ้างคนมาทุบให้เลอะเทอะ หลังจากได้คุยแล้ว คือ เค้าจะเอาโครงปูนเดิมเราไว้ แล้วทำตู้ครอบ หรือ ตู้ใส่เข้าไปในช่อง ให้ได้พอดีกับขนาด หรือ สเปคที่เราต้องการ เรียกว่า คล้าย ๆ การ ไฮบริด ระหว่าง ครัวปูน กับ ครัวบิ้วอิน เอามาผสมกันนั่นเองครับ แต่ๆๆๆๆๆ วัสดุทำตู้ มันก็แนว MDF HMR หรืออย่างดีหน่อยก็พลาสวูด ซึ่ง ผมก็ยังคิดว่า บ้านผมไม่น่าจะใช้ของสวย ๆ พวกนี้ได้นาน แถมราคา พอถามมาแล้ว อ่าว ไม่ต่างจากครัวบิ้วอิน หรือ ครัวปูน สวยๆ เลยนี่นา 5555 แล้วจะทับโครงเดิมทำไม นึกว่ามีโครงแล้วจะประหยัด โถ่ววว มารู้ตอนหลังว่า โครงก็แค่โครง แต่ชิ้นงานอื่น ๆ ก็ต้องสร้างบิ้วชึ้นมาใหม่อยู่ดีครับ  เอ้า ตัดช้อยส์ไป

แค่สเต็ปแรกก็ชวนให้ปวดหัวกับปริมาณข้อมูลแล้วใช่มั้ยครับ เพื่อน ๆ สมาชิก ยังครับ เราต้องไปต่อ 555 ต้องหาจุดลงตัวให้ได้ครับ 

3. ทำหน้าบานใส่ให้โครงเดิม แล้วหาซื้อตู้สำเร็จมาติดตั้งเอา

    หลังจากไปเดินห้างมาหลายรอบ ก็วนไปเจอที่เค้าขายหน้าบานสำเร็จรูปครับ ก็เลยเกิดไอเดียขึ้นมาว่า เฮ้ย ยังงี้โครงเดิมพอใช้ได้ ก็เอาหน้าบานมาใส่ก็จบแล้วมั้ย ส่วนตู้ ก็เอาจากตู้สำเร็จ ตามข้อ 1.2 ข้างบน  เค้าก็มีขายครับ น่าจะประหยัดกว่ากันเยอะเลย เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายทางแล้วครับ 555  สรุปจบที่ ข้อ 3 ครับ ครัวเดิม เอาไว้ หาตบแต่งหน้าบาน กับ ตู้เอาครับ
ตัวอย่างหน้าบานสำเร็จรูป บานคู่ 

____________________________________________________________________________________________________________

Step 2 วางแผนการทำ และ การหาช่าง

     หลังจากกำหนดแนวทางได้เป็นแนวทางที่สามแล้ว ผมก็เริ่มทำการวางแผนการทำงานครับ เพราะการวางแผนจะช่วยลดความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นได้แน่ ๆ ครับ โดยการเริ่มหาช่างก่อนเป็นอันดับแรก ปกติหลาย ๆ คน ก็จะหาในเฟสบุ๊คกันใช่มั้ยครับ สมัยนี้ แต่จริง ๆ แล้ว วิธีที่ดีที่สุดในการหาช่าง คือ เดินไปหาช่างครับ 5555 เพราะจะได้เห็นงานที่เค้าทำด้วย ว่าทำประมาณไหน ฝีมือดีมั้ย ยิ่งเป็นช่างเองไม่ต้องผ่านผู้รับเหมาได้ยิ่งดีครับ (กรณีสำหรับงานเล็กๆ แบบนี้นะครับ)

    ผมเลยเดินไปถามวิศวกรโครงการที่เดิน ๆ อยู่แถวนั้น (โครงการผมยังสร้างไม่เสร็จดีครับ) ว่า มีช่างคนไหนที่ฉาบ ก่อ ปูกระเบื้อง เก่ง ๆ บ้าง แนะนำให้หน่อย เค้าก็แนะนำมาคนนึง ผมก็เดินไปดูบ้านที่เค้าทำ เรียบร้อยโอเค งานใช้ได้ งั้น ตกลงเอาคนนี้ ให้มาตีราคาให้หน่อย 

   สเต็ปตีราคานี่ก็วัดใจนะครับ ซึ่งผมคิดว่า งานแบบนี้ ถือเป็นงานเล็ก ไม่ค่อยมีช่างไหนอยากรับงานแบบนี้เท่าไหร่ เพราะงั้น คิดในใจไปเลยครับ ไหวเท่าไหร่ ช่างพูดมา ถ้าอยู่ในเรทที่ผมตั้งใจ ผมจะไม่ต่อเลย 555 เอาที่ช่างสบายใจ ผมสบายใจ วินวินสองฝ่าย แล้วช่างมาดูงาน ผมก็บอกสโคปงานไปว่า
   - ปูกระเบื้องหลังครัว และ ตรงหน้าเคาน์เตอร์ครัว  
   - ปูกระเบื้องภายในเคาน์เตอร์ครัว สามด้าน (ไม่ปูด้านบนครับ)
   - ติดตั้งหน้าบาน และ ฟิตติ้งให้ผม
   - เก็บขยะทั้งหมดไปทิ้งให้ด้วย 555 

ช่างตีมาหมื่นสองครับ ซึ่งตรงใจผมเป๊ะ ไม่ต้องต่อราคากัน เอาไปเถอะ ช่างอยู่ในโครงการ ไม่น่าหนีกันแน่ๆ  5555 เรื่องถูกแพงผมไม่รู้นะ แต่ผมถูกใจช่าง ที่คุยง่าย เข้าใจงาน แล้วก็บอกราคามาแบบ ตรงใจพอดี (เขียนไว้ก่อนเผื่อคนบอกว่า แพง 555)

   คนต่อไปที่ต้องไปเรียก คือ ช่างไฟครับ ผมอยากเพิ่มจุดปลั๊กอีกอัน ที่สำคัญ ต้องเป็นเดินไฟแบบฝังครับ จะได้เรียบร้อย เพราะฉะนั้น ก็ต้องให้เค้ามาทำก่อนที่จะปูกระเบื้องนะ กรีดผนังฝังท่อไปให้เรียบร้อยครับ ซึ่งอันนี้มีช่างประจำ รู้งานกัน คุยง่าย แต่ปัญหาตอนทำก็มีนะ คือ เจาะไป เจอท่อสายไฟโครงการซะงั้น 55555 เกือบขิตแล้ว ดังนั้น ก่อนเจาะผนังใดๆ เรียกวิศวกรโครงการมาดู หรือ เอาแบบไฟ ช่องเซอร์วิซ ตำแหน่งท่อประปา มาดูกันด้วยนะครับ ไม่งั้นเจอท่อประปา บึ้มได้เลยนะ 555

แนวกรีดผนังฝังท่อเพิ่มจุดปลี๊กครับ ทำก่อนเลย เดี๋ยวปูกระเบื้องทับสวยๆ

เห็นช่องทางขวาที่โป๊วมั้ยครับ เจาะไปเจอสายไฟ เกือบขิต 55555 ดีนะช่างค่อยๆ ทำ

   
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่