หมอหลวง
ละครที่สร้างต่อจากความสำเร็จ
ทองเอก หมอยาท่าโฉลง
ที่ผู้ผลิตบอกว่าจะเป็นอีกรสชาติใหม่ และไม่เหมือนทองเอก
ในเงื่อนไขที่พระนางยังเป็นคู่เดิม และเกิดในรัชกาลที่ 3
ระยะเวลาที่ถ่ายทำที่รวดเร็วเพียง 6 เดือน
คิวถ่ายทำเรื่องนี้อยู่ประมาณ 59 คิว
เพื่อทำละครออกมา 22 ตอน ก็อัศจรรย์ที่สามารถทำได้
เรื่องราวครั้งนี้มาแบบใหม่แต่เป็นมุขที่เห็นกันทุกชนชาติ
คือ นางเอกทะลุมิติย้อนยุคมานั่นเอง
แต่ผู้ผลิตก็ตลบอีกชั้น ทุกครั้งละครข้ามภพข้ามชาติ
จุดเด่นอยู่ที่ตัวละครที่ข้ามภพ เป็นศูนย์กลางของเรื่อง
เรื่องนี้เหมือนจะดำเนินขนบเดียวกัน แต่ก็ยังไม่เด่นเท่าพ่อทองอ้น
ที่แทบทั้งเรื่องคือ คนหนึ่งคนจะต้องเรียนรู้ เพื่อเป็น หมอหลวง
โดยมีบัวเป็นเพื่อนร่วมทางในฐานะเพื่อนนักเรียนหมอในอีก 100 ปีต่อมา
สุดท้ายตำแหน่งของบัว ก็ไม่ต่างจาก ชบาในทองเอกสักเท่าไหร่
แต่บทบัวดูยืดหยุ่นและเข้ากับคิมเบอร์ลี่ได้ดีกว่าตอนเป็นชบา
ที่ต้องถูกวิจารณ์และมักจะโดนว่าใครเล่นเป็นบทนี้ก็ได้
จากบทเรียนตอนทำทองเอกที่เรื่องนั้นมีความสนุกทุกรสชาติ
แต่อาจจะมีเรื่องยาสมุนไพรไม่มากพอต่อความคาดหวังของคนดู
ละครหมอหลวงครั้งนี้ จัดเต็มเรื่องการแพทย์ที่แทบทุกตอนยันจบเรื่อง
เรียกว่าทุกตอนต้องมีเรื่องแพทย์แผนไทย มาแทบทุกวิถีทาง
จนแทบทั้งเรื่องมีแต่เรื่องหมอ จนไม่เหลือเรื่องรัก ดราม่า ขำขัน
เพราะทุกอารมณ์มันปนอยู่ในเรื่องของการแพทย์ไปตลอดทั้งเรื่อง
รวมถึงการสร้างตัวละครที่มีความต่างจากทองเอกอย่างสิ้นเชิง
ตอนทองเอกเป็นตัวละครที่หลากหลายรสชาติ
แต่ตัวละครหลักของหมอหลวง ในตัวละครหลักมีเป้าหมาย
ต้องสามารถใช้เป็น case study ได้ ทั้งพระองค์เจ้า แม้นวาด หรือ ทองแท้
ซึ่งเป็นสิ่งที่เด่นคือใช้ตัวละครน้อย แต่ได้ประโยชน์ในเรื่องมาก
แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ ไม่มีตัวละครที่สร้างสีสัน ทั้งรัก ทั้งดราม่า ทั้งตลกแบบจริง ๆ
เพราะมันจะปั่นรวมไปกับตัวละครอื่น ๆ อย่าง ผาด เจิม หรือ คุณหมอคิวท์บอยและอาจารย์หมอ
แม้กระทั้งดราม่า เหมือนมีมากมายทั้งตัวทองอ้น ครอบครัวของทองอ้น แม้กระทั้งรักสามเส้า
แต่ทุกอย่างก็ขับเคลื่อนไปแบบเป็นมนุษย์คนนึงที่เจอเข้าใจและก้าวผ่านได้
จนบางครั้งเมื่อตัวละครเจอสถานการณ์ที่ต้องผ่านไป คนดูก็คิดว่าเดี๋ยวก็ผ่านไปได้
เรื่องมันต้องเดินต่อไปไม่ว่าจะเป็น หมอปริศนา โรคระบาด สงคราม ก็ผ่านไปได้
จนบางครั้งเรื่องมันมีเหตุการณ์มากมาย แต่กลับไม่มีอะไรชวนให้ลุ้นเลย
ปัญหาทองเอกที่ผู้ผลิตทำพลอตมักมีจุดอ่อนคือ
เปิดเรื่องหวือหวา ตื่นเต้น แปลกตา แต่มันเอาเป็นละครทั้งเรื่องไม่ได้
มักเจอปัญหาจบไม่ลง และสุดท้ายก็จบแบบไม่ประทับใจ
หมอหลวงเลยเลือกสร้างเนื้อละครให้มากที่สุด มีสถานการณ์มากมายเกิดขึ้น
แต่ก็เจอปัญหาใหม่คือการเปิดเรื่องที่น่าติดตาม และพยายามคุมมันได้
แต่ด้วยตอนที่มีจำนวนมาก และสถานการณ์ที่ดาหน้าเข้ามา
มันมีมากเกินจนคนดูก็อาจจะเดี๋ยวก็ผ่านไปได้และก็ผ่านไปได้จริง ๆ
จนคนดูก็เลิกลุ้น และคิดว่าว่าเดี๋ยวมันก็ต้องหาวิธีไปต่อได้เอง
บางทีมันเกิดจากผู้ผลิตก็ขีดเส้นให้ละครมันเป็นแบบนี้
ประเมินว่าคนดูต้องชอบฉากนี้ จนไม่มีฉากไหนแบบเกินความคาดคิดเท่าไหร่
ละครเรื่องนี้ทีมีกระแสในวงกว้างเพราะความดีที่ละครสร้างไว้ตามที่ทีมงานขีดไว้แล้ว
แม้กระทั้งการออกแบบตัวละคร อย่างทองเอก
ตัวละครมีเส้นเรื่องรักทั้ง กล้าและผ่อง ที่พัวพันกับตัวเอกของเรื่อง
บางครั้งก็มีผลกระทบทั้งตัวทองเอก และชบา ในบางครั้ง
ส่วนหมอหลวงตัวละครถูกขีดเส้นไว้ชัดเจนจนไม่มีอะไรลุ้น
ทองแท้ พี่ชายไมโครเวฟแม้จะแอบชอบคนรักของน้อง แต่เมื่อเข้าใจความรู้สึกของบัว
ก็ก้าวผ่านไปได้ และค่อยไปลุ้นว่าตัวละครจะจบแบบไหน
แม้นวาด ครั้งนี้เธอพูดไม่ได้เกือบครึ่งเรื่อง ถึงสวยแค่ไหนก็ดึงดูดอะไรไม่ได้
ต่างจากผ่องที่มันเกินคาดจนมันไปกระทบเรื่องของชบาและลามไปยันนักแสดง
ถือว่าผู้ผลิตก็ขีดเส้นไว้เพื่อไม่ไปกระทบกับอะไรทั้งนั้น
และเมื่อถึงจุดสำคัญของเรื่อง
ทองอ้นและชบาจะจบอย่างไร พี่ทองแท้จะขิตไหม
ถ้าคะเนว่าไอเดียซีรีส์เรื่องไหนที่ถูกหยิบยกมาเป็นสารตั้งต้นเรื่องนี้
คงคิดถึง mr.queen ที่วิญญาณคนปัจจุบันกลับมาสิงร่างพระมเหสีของพระราชา
คอยทำทุกอย่างให้พระราชาสามารถปกครองบ้านเมืองได้
เหมือนที่บัวเข้ามาช่วยให้ทองอ้นได้เป็นหมอหลวงสำเร็จ
อาจให้บทสรุปบัวเหมือนเรื่องนี้ ยิ่งคนเขียนบทรักแลกภพด้วยน่าลุ้นจะตาย
แต่ตอนจบก็เลือกวิธี simply is the best
ทองแท้ ตัวละครที่ปักธงตายในคาแรคเตอร์ แต่สุดท้ายผู้ผลิตก็ใจดีให้รอด
แต่เพื่อเชื่อมโยงกับเด็กทองอิน เลยให้ทองแท้พาทองอินไปสู่เส้นเรื่องของทองเอกจนได้
เรียกว่าจบสวัสดีมีความสุข แต่ก็ยอมรับว่ามันเรียบเกินไปจริง ๆ
หากทองเอกเป็นละครทดลองที่มีสีสัน มีความสร้างสรร อาจถูกคาดหวังจนมีดราม่าที่หลากหลาย
แต่ต้องยอมรับว่าเราได้เห็นความกล้าที่จะมีอะไรมากมายในละครเรื่องนั้น
จนมันมีรสชาติที่หลากหลาย อาจปนเปไปบ้าง แต่มันมีก็ชีวิตชีวาจนทำภาคต่อได้
ต่างจากหมอหลวงที่เลือกจะขีดเส้นทางให้ตัวเอกได้เป็นหมอหลวง
ยังขีดเส้นให้ละครเรื่องนี้เป็นไปตามที่ควรจะเป็น
เป็นละครที่ต้องถูกยกเป็นละครตัวอย่างให้ได้ศึกษา เป็น soft power
แต่มันอาจจะเรียบเกินในฐานะละครเรื่องหนึ่งที่คนดูต้องการ
จนกลายเป็นละครที่ดีแต่ไร้ชีวิตชีวา ที่ผู้ผลิตก็ไม่ได้คาดคิดให้เป็นแบบนั้น
หมอหลวง ละครดีที่ถูกขีดเส้นให้เรียบจนไม่มีชีวิตชีวา
ละครที่สร้างต่อจากความสำเร็จ
ทองเอก หมอยาท่าโฉลง
ที่ผู้ผลิตบอกว่าจะเป็นอีกรสชาติใหม่ และไม่เหมือนทองเอก
ในเงื่อนไขที่พระนางยังเป็นคู่เดิม และเกิดในรัชกาลที่ 3
ระยะเวลาที่ถ่ายทำที่รวดเร็วเพียง 6 เดือน
คิวถ่ายทำเรื่องนี้อยู่ประมาณ 59 คิว
เพื่อทำละครออกมา 22 ตอน ก็อัศจรรย์ที่สามารถทำได้
เรื่องราวครั้งนี้มาแบบใหม่แต่เป็นมุขที่เห็นกันทุกชนชาติ
คือ นางเอกทะลุมิติย้อนยุคมานั่นเอง
แต่ผู้ผลิตก็ตลบอีกชั้น ทุกครั้งละครข้ามภพข้ามชาติ
จุดเด่นอยู่ที่ตัวละครที่ข้ามภพ เป็นศูนย์กลางของเรื่อง
เรื่องนี้เหมือนจะดำเนินขนบเดียวกัน แต่ก็ยังไม่เด่นเท่าพ่อทองอ้น
ที่แทบทั้งเรื่องคือ คนหนึ่งคนจะต้องเรียนรู้ เพื่อเป็น หมอหลวง
โดยมีบัวเป็นเพื่อนร่วมทางในฐานะเพื่อนนักเรียนหมอในอีก 100 ปีต่อมา
สุดท้ายตำแหน่งของบัว ก็ไม่ต่างจาก ชบาในทองเอกสักเท่าไหร่
แต่บทบัวดูยืดหยุ่นและเข้ากับคิมเบอร์ลี่ได้ดีกว่าตอนเป็นชบา
ที่ต้องถูกวิจารณ์และมักจะโดนว่าใครเล่นเป็นบทนี้ก็ได้
จากบทเรียนตอนทำทองเอกที่เรื่องนั้นมีความสนุกทุกรสชาติ
แต่อาจจะมีเรื่องยาสมุนไพรไม่มากพอต่อความคาดหวังของคนดู
ละครหมอหลวงครั้งนี้ จัดเต็มเรื่องการแพทย์ที่แทบทุกตอนยันจบเรื่อง
เรียกว่าทุกตอนต้องมีเรื่องแพทย์แผนไทย มาแทบทุกวิถีทาง
จนแทบทั้งเรื่องมีแต่เรื่องหมอ จนไม่เหลือเรื่องรัก ดราม่า ขำขัน
เพราะทุกอารมณ์มันปนอยู่ในเรื่องของการแพทย์ไปตลอดทั้งเรื่อง
รวมถึงการสร้างตัวละครที่มีความต่างจากทองเอกอย่างสิ้นเชิง
ตอนทองเอกเป็นตัวละครที่หลากหลายรสชาติ
แต่ตัวละครหลักของหมอหลวง ในตัวละครหลักมีเป้าหมาย
ต้องสามารถใช้เป็น case study ได้ ทั้งพระองค์เจ้า แม้นวาด หรือ ทองแท้
ซึ่งเป็นสิ่งที่เด่นคือใช้ตัวละครน้อย แต่ได้ประโยชน์ในเรื่องมาก
แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ ไม่มีตัวละครที่สร้างสีสัน ทั้งรัก ทั้งดราม่า ทั้งตลกแบบจริง ๆ
เพราะมันจะปั่นรวมไปกับตัวละครอื่น ๆ อย่าง ผาด เจิม หรือ คุณหมอคิวท์บอยและอาจารย์หมอ
แม้กระทั้งดราม่า เหมือนมีมากมายทั้งตัวทองอ้น ครอบครัวของทองอ้น แม้กระทั้งรักสามเส้า
แต่ทุกอย่างก็ขับเคลื่อนไปแบบเป็นมนุษย์คนนึงที่เจอเข้าใจและก้าวผ่านได้
จนบางครั้งเมื่อตัวละครเจอสถานการณ์ที่ต้องผ่านไป คนดูก็คิดว่าเดี๋ยวก็ผ่านไปได้
เรื่องมันต้องเดินต่อไปไม่ว่าจะเป็น หมอปริศนา โรคระบาด สงคราม ก็ผ่านไปได้
จนบางครั้งเรื่องมันมีเหตุการณ์มากมาย แต่กลับไม่มีอะไรชวนให้ลุ้นเลย
ปัญหาทองเอกที่ผู้ผลิตทำพลอตมักมีจุดอ่อนคือ
เปิดเรื่องหวือหวา ตื่นเต้น แปลกตา แต่มันเอาเป็นละครทั้งเรื่องไม่ได้
มักเจอปัญหาจบไม่ลง และสุดท้ายก็จบแบบไม่ประทับใจ
หมอหลวงเลยเลือกสร้างเนื้อละครให้มากที่สุด มีสถานการณ์มากมายเกิดขึ้น
แต่ก็เจอปัญหาใหม่คือการเปิดเรื่องที่น่าติดตาม และพยายามคุมมันได้
แต่ด้วยตอนที่มีจำนวนมาก และสถานการณ์ที่ดาหน้าเข้ามา
มันมีมากเกินจนคนดูก็อาจจะเดี๋ยวก็ผ่านไปได้และก็ผ่านไปได้จริง ๆ
จนคนดูก็เลิกลุ้น และคิดว่าว่าเดี๋ยวมันก็ต้องหาวิธีไปต่อได้เอง
บางทีมันเกิดจากผู้ผลิตก็ขีดเส้นให้ละครมันเป็นแบบนี้
ประเมินว่าคนดูต้องชอบฉากนี้ จนไม่มีฉากไหนแบบเกินความคาดคิดเท่าไหร่
ละครเรื่องนี้ทีมีกระแสในวงกว้างเพราะความดีที่ละครสร้างไว้ตามที่ทีมงานขีดไว้แล้ว
แม้กระทั้งการออกแบบตัวละคร อย่างทองเอก
ตัวละครมีเส้นเรื่องรักทั้ง กล้าและผ่อง ที่พัวพันกับตัวเอกของเรื่อง
บางครั้งก็มีผลกระทบทั้งตัวทองเอก และชบา ในบางครั้ง
ส่วนหมอหลวงตัวละครถูกขีดเส้นไว้ชัดเจนจนไม่มีอะไรลุ้น
ทองแท้ พี่ชายไมโครเวฟแม้จะแอบชอบคนรักของน้อง แต่เมื่อเข้าใจความรู้สึกของบัว
ก็ก้าวผ่านไปได้ และค่อยไปลุ้นว่าตัวละครจะจบแบบไหน
แม้นวาด ครั้งนี้เธอพูดไม่ได้เกือบครึ่งเรื่อง ถึงสวยแค่ไหนก็ดึงดูดอะไรไม่ได้
ต่างจากผ่องที่มันเกินคาดจนมันไปกระทบเรื่องของชบาและลามไปยันนักแสดง
ถือว่าผู้ผลิตก็ขีดเส้นไว้เพื่อไม่ไปกระทบกับอะไรทั้งนั้น
และเมื่อถึงจุดสำคัญของเรื่อง
ทองอ้นและชบาจะจบอย่างไร พี่ทองแท้จะขิตไหม
ถ้าคะเนว่าไอเดียซีรีส์เรื่องไหนที่ถูกหยิบยกมาเป็นสารตั้งต้นเรื่องนี้
คงคิดถึง mr.queen ที่วิญญาณคนปัจจุบันกลับมาสิงร่างพระมเหสีของพระราชา
คอยทำทุกอย่างให้พระราชาสามารถปกครองบ้านเมืองได้
เหมือนที่บัวเข้ามาช่วยให้ทองอ้นได้เป็นหมอหลวงสำเร็จ
อาจให้บทสรุปบัวเหมือนเรื่องนี้ ยิ่งคนเขียนบทรักแลกภพด้วยน่าลุ้นจะตาย
แต่ตอนจบก็เลือกวิธี simply is the best
ทองแท้ ตัวละครที่ปักธงตายในคาแรคเตอร์ แต่สุดท้ายผู้ผลิตก็ใจดีให้รอด
แต่เพื่อเชื่อมโยงกับเด็กทองอิน เลยให้ทองแท้พาทองอินไปสู่เส้นเรื่องของทองเอกจนได้
เรียกว่าจบสวัสดีมีความสุข แต่ก็ยอมรับว่ามันเรียบเกินไปจริง ๆ
หากทองเอกเป็นละครทดลองที่มีสีสัน มีความสร้างสรร อาจถูกคาดหวังจนมีดราม่าที่หลากหลาย
แต่ต้องยอมรับว่าเราได้เห็นความกล้าที่จะมีอะไรมากมายในละครเรื่องนั้น
จนมันมีรสชาติที่หลากหลาย อาจปนเปไปบ้าง แต่มันมีก็ชีวิตชีวาจนทำภาคต่อได้
ต่างจากหมอหลวงที่เลือกจะขีดเส้นทางให้ตัวเอกได้เป็นหมอหลวง
ยังขีดเส้นให้ละครเรื่องนี้เป็นไปตามที่ควรจะเป็น
เป็นละครที่ต้องถูกยกเป็นละครตัวอย่างให้ได้ศึกษา เป็น soft power
แต่มันอาจจะเรียบเกินในฐานะละครเรื่องหนึ่งที่คนดูต้องการ
จนกลายเป็นละครที่ดีแต่ไร้ชีวิตชีวา ที่ผู้ผลิตก็ไม่ได้คาดคิดให้เป็นแบบนั้น