สวัสดีครับสมาชิกทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ฝากเตือนภัย และขอคำแนะนำในการจัดการกับคนกลุ่มนี้ครับ
ตามหัวข้อครับ ผมขอสงสัยว่าเป็นมิจฉาชีพไว้ก่อนนะครับ
เนื่องจากผมและคนในครอบครัวไม่เคยรู้จัก ไม้เคยทำธุรกรรมอะไรกับผู้คนในภาพนี้เลย
ภาพแคปจากวีดีโอไม่ค่อยคมชัดครับ..
เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2556 เวลาประมาณ 15.30 น. (แฟนผมอยู่คนเดียว)
มีกลุ่มบุคคลบุกเข้ามาที่บ้านผมครับ มากันทั้งหมด 3 คน
อีกคนนั่งอยู่บนรถซึ่งอ้างว่าเป็นทนาย เมื่อแฟนผมขอถ่ายวีดีโอก็เดินเลี่ยงไปนั่งในรถ
ผู้ชายซ้ายมือเป็นคนขับแท็กซี่ (แต่ทำหน้าที่เกินกว่าคนขับรถ)
แฟนผมเล่าให้ฟังว่าพูดจาแบบตะคอกใส่อารมแบบนักเลงมาเลย..
เรื่องราวคือ....
ผู้หญิงในภาพนี้กล่าวอ้างว่าได้เอาโฉนดที่ดินมาจำนองกับแฟนผม
จำนวนเงิน 15000 บาท และจะมาขอไถ่ถอนคืน ซึ่งความเป็นจริงทางแฟนผม
ไม่เคยรับจำนอง จำนำอะไรใครเลยและไม่ได้รู้จักกับผู้หญิงคนนี้ด้วย
แต่เขาขึ้นเสียงยืนยันว่าเป็นแฟนผมแน่นอน และถามชื่อ นามสกุลแฟนผม
ว่าเป็นชื่อนี้ นามสกุลนี้ไหม ซึ่งมันก็ตรงตามที่ถาม เพราะเขาไปเอามาจาก
สน.แห่งหนึ่ง ที่เขาไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนมาที่บ้านผม
ผมต้องเล่าท้าวความถึงเรื่องราวก่อนหน้าครับ เพราะมันตอแยผมมานานละ
เมื่อปี 2562 ผู้หญิงคนนี้ได้เขียนจดหมายไปที่บ้าน ตจว.
(จดหมายลักษณะนี้มีคนในหมู่บ้านได้รับหลายฉบับในห้วงเวลาใกล้เคียงกันแต่เนื้อหาจะแตกต่างกันไป)
ลงชื่อนามสกุลของแฟนผมตรงเปะ
เนื้อหาในจดหมายก็ได้พูดถึงการทวงโฉนดที่ดินนี่แหละ (ผมไม่แน่ใจว่าจะเผยแพร่ได้หรือเปล่าแต่ขอไม่เผยแพร่นะครับ)
คนทางบ้านที่ได้รับจดหมายก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมเลยให้ส่งจดหมายนั้นมาหาผม และผมเองก็ได้โทรไปถาม
ตามเบอร์ที่ให้มาในจดหมาย จนได้พูดคุยกับผุ้หญิงคนนี้
ตอนนั้นก็คิดอยู่แล้วว่าเป็นจดหมายหลอกลวงแต่ผมกังวลว่า
มันจะตามไปหาคนที่บ้านซึ่งเป็นคนแก่ไม่รู้เรื่องอะไร
และตอนนั้นโมโหด้วย..เลยต้องโทรและพยายามอัดคลิปการพูดคุยไว้
เนื้อหาการพูดคุยส่วนใหญ่จะวกไปวนมา วันหนึ่งบอกไปจำนองไว้กับพ่อของแฟนผม
อีกวันบอกจำนองไว้กับแฟนผม บางวันบอกพ่อแฟนผมเปิดอู่แท็กซี่บ้าง
เปิดอู่ซ่อมบ้าง พอโดนถามว่าเปิดอยู่ซอยไหนก็บอกจำไม่ได้
แต่มาอีกวันบอกอยู่ซอยนั้น ซอยนี้ จำได้ซะงั้น ...
พอรู้จักเบอร์ผมผู้หญิงคนนี้ก็โทรมาบ่อยมาก โทรมาเกือบทุกวัน
พอผมเดาทางออกก็พยายามพูดดึงไว้บ้าง ข่มบ้าง
จนสุดท้ายผมได้บอกว่าผมจะส่งเรื่องนี้ให้ตำรวจ
ซึ่งผมก็ส่งจริงๆ ส่งไปเพจของบิ๊กโจ๊กช่วงก่อนที่จะมีการปิดเพจไป
หลังจากนั้นก็เงียบไปไม่โทรมาอีกเลย และมาอีกทีมาถึงบ้านเลยตามที่เห็นครับ
โชคดีที่น้องเพื่อนบ้านเดินมาดูและได้ช่วยกันพูดช่วยกันเถียงกับเขาจนหนีไป
เสียดายที่ผมกลับมาไม่ทัน จากเหตุการณ์วันนั้นผมก็ได้พาแฟนผมไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.
ได้แค่ลงบันทึกประจำวัน เพราะทางตำรวจบอกว่ายังไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้นพอที่จะแจ้งความได้..
.....นี่คำพูดของตำรวจนะครับ ......
ผมอยากจะเตือนภัยและขอคำแนะนำจากสมาชิกครับว่า
ผมสามารถทำอะไรได้บ้างกับคนกลุ่มนี้
เพราะผมเองก็เกรงว่ามันจะกลับมาอีกครั้ง ในรูปแบบอื่นที่ไม่คาดคิด
และหากเป็นช่วงเวลาที่ผมไม่อยู่บ้านด้วยจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่
ซึ่งเรื่องราวในลักษณะคล้ายๆกันนี้ผมเคยอ่านเจอในพันทิป
เป็นคู่สามีภรรยาเหมือนกันกว่าจะจบลงได้เสียเงินไปเยอะพอสมควร
ผมเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับผมและคนอื่นด้วย ที่สำคัญอยากลากมันเข้าคุกครับ
ปล.
เขาได้ที่อยู่บ้านจาก สน. ที่เขาไปลงบันทึกประจำวันไว้มีรายละเอียดทุกอย่างละเอียดมาก
และที่สำคัญมีเลขบัตรประจำตัวประชาชนด้วย นี่ก็น่าสงสัยทำไม สน.ให้มาง่ายจัง
มิจฉาชีพ (หรือเปล่า) บุกถึงบ้านแล้ว..ครับ
ตามหัวข้อครับ ผมขอสงสัยว่าเป็นมิจฉาชีพไว้ก่อนนะครับ
เนื่องจากผมและคนในครอบครัวไม่เคยรู้จัก ไม้เคยทำธุรกรรมอะไรกับผู้คนในภาพนี้เลย
ภาพแคปจากวีดีโอไม่ค่อยคมชัดครับ..
เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2556 เวลาประมาณ 15.30 น. (แฟนผมอยู่คนเดียว)
มีกลุ่มบุคคลบุกเข้ามาที่บ้านผมครับ มากันทั้งหมด 3 คน
อีกคนนั่งอยู่บนรถซึ่งอ้างว่าเป็นทนาย เมื่อแฟนผมขอถ่ายวีดีโอก็เดินเลี่ยงไปนั่งในรถ
ผู้ชายซ้ายมือเป็นคนขับแท็กซี่ (แต่ทำหน้าที่เกินกว่าคนขับรถ)
แฟนผมเล่าให้ฟังว่าพูดจาแบบตะคอกใส่อารมแบบนักเลงมาเลย..
เรื่องราวคือ....
ผู้หญิงในภาพนี้กล่าวอ้างว่าได้เอาโฉนดที่ดินมาจำนองกับแฟนผม
จำนวนเงิน 15000 บาท และจะมาขอไถ่ถอนคืน ซึ่งความเป็นจริงทางแฟนผม
ไม่เคยรับจำนอง จำนำอะไรใครเลยและไม่ได้รู้จักกับผู้หญิงคนนี้ด้วย
แต่เขาขึ้นเสียงยืนยันว่าเป็นแฟนผมแน่นอน และถามชื่อ นามสกุลแฟนผม
ว่าเป็นชื่อนี้ นามสกุลนี้ไหม ซึ่งมันก็ตรงตามที่ถาม เพราะเขาไปเอามาจาก
สน.แห่งหนึ่ง ที่เขาไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนมาที่บ้านผม
ผมต้องเล่าท้าวความถึงเรื่องราวก่อนหน้าครับ เพราะมันตอแยผมมานานละ
เมื่อปี 2562 ผู้หญิงคนนี้ได้เขียนจดหมายไปที่บ้าน ตจว.
(จดหมายลักษณะนี้มีคนในหมู่บ้านได้รับหลายฉบับในห้วงเวลาใกล้เคียงกันแต่เนื้อหาจะแตกต่างกันไป)
ลงชื่อนามสกุลของแฟนผมตรงเปะ
เนื้อหาในจดหมายก็ได้พูดถึงการทวงโฉนดที่ดินนี่แหละ (ผมไม่แน่ใจว่าจะเผยแพร่ได้หรือเปล่าแต่ขอไม่เผยแพร่นะครับ)
คนทางบ้านที่ได้รับจดหมายก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมเลยให้ส่งจดหมายนั้นมาหาผม และผมเองก็ได้โทรไปถาม
ตามเบอร์ที่ให้มาในจดหมาย จนได้พูดคุยกับผุ้หญิงคนนี้
ตอนนั้นก็คิดอยู่แล้วว่าเป็นจดหมายหลอกลวงแต่ผมกังวลว่า
มันจะตามไปหาคนที่บ้านซึ่งเป็นคนแก่ไม่รู้เรื่องอะไร
และตอนนั้นโมโหด้วย..เลยต้องโทรและพยายามอัดคลิปการพูดคุยไว้
เนื้อหาการพูดคุยส่วนใหญ่จะวกไปวนมา วันหนึ่งบอกไปจำนองไว้กับพ่อของแฟนผม
อีกวันบอกจำนองไว้กับแฟนผม บางวันบอกพ่อแฟนผมเปิดอู่แท็กซี่บ้าง
เปิดอู่ซ่อมบ้าง พอโดนถามว่าเปิดอยู่ซอยไหนก็บอกจำไม่ได้
แต่มาอีกวันบอกอยู่ซอยนั้น ซอยนี้ จำได้ซะงั้น ...
พอรู้จักเบอร์ผมผู้หญิงคนนี้ก็โทรมาบ่อยมาก โทรมาเกือบทุกวัน
พอผมเดาทางออกก็พยายามพูดดึงไว้บ้าง ข่มบ้าง
จนสุดท้ายผมได้บอกว่าผมจะส่งเรื่องนี้ให้ตำรวจ
ซึ่งผมก็ส่งจริงๆ ส่งไปเพจของบิ๊กโจ๊กช่วงก่อนที่จะมีการปิดเพจไป
หลังจากนั้นก็เงียบไปไม่โทรมาอีกเลย และมาอีกทีมาถึงบ้านเลยตามที่เห็นครับ
โชคดีที่น้องเพื่อนบ้านเดินมาดูและได้ช่วยกันพูดช่วยกันเถียงกับเขาจนหนีไป
เสียดายที่ผมกลับมาไม่ทัน จากเหตุการณ์วันนั้นผมก็ได้พาแฟนผมไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.
ได้แค่ลงบันทึกประจำวัน เพราะทางตำรวจบอกว่ายังไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้นพอที่จะแจ้งความได้..
.....นี่คำพูดของตำรวจนะครับ ......
ผมอยากจะเตือนภัยและขอคำแนะนำจากสมาชิกครับว่า
ผมสามารถทำอะไรได้บ้างกับคนกลุ่มนี้
เพราะผมเองก็เกรงว่ามันจะกลับมาอีกครั้ง ในรูปแบบอื่นที่ไม่คาดคิด
และหากเป็นช่วงเวลาที่ผมไม่อยู่บ้านด้วยจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่
ซึ่งเรื่องราวในลักษณะคล้ายๆกันนี้ผมเคยอ่านเจอในพันทิป
เป็นคู่สามีภรรยาเหมือนกันกว่าจะจบลงได้เสียเงินไปเยอะพอสมควร
ผมเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับผมและคนอื่นด้วย ที่สำคัญอยากลากมันเข้าคุกครับ
ปล.
เขาได้ที่อยู่บ้านจาก สน. ที่เขาไปลงบันทึกประจำวันไว้มีรายละเอียดทุกอย่างละเอียดมาก
และที่สำคัญมีเลขบัตรประจำตัวประชาชนด้วย นี่ก็น่าสงสัยทำไม สน.ให้มาง่ายจัง