โอกาส หมายถึง ช่วงเวลาที่เหมาะ ช่วงเวลาอันควร เราจึงมักจะได้ยินใครๆ ต่างบอกว่า ถ้าโอกาสมาแล้ว จงรีบคว้าเอาไว้ นอกจากเหตุผลที่ว่า มันไม่ได้เกิดขึ้นหรือผ่านบ่อยๆ แล้ว เจ้า ‘โอกาส’ ที่ว่า ยังอาจเป็นบันไดความฝัน ถึงแม้ว่าเรากำลัง (จะ) รับบทเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ตาม ในความที่เราเชื่อว่าทุกคนล้วนมีโอกาสมาหาเสมอ แต่เรื่องแบบนี้ครั้นจะนั่งรออย่างเดียวคงจะช้าไม่ทันใจ ถ้าอย่างนั้นมาลองใช้ความกล้าเพื่อเร่ง ‘โอกาส’ ให้ (มา) ไวขึ้น เหมือนอย่างพี่แอนท์-จิตรฤทัย ที่วันนี้ขอเอาประสบการณ์ชีวิตการทำงานตลอด 13 ปีที่ธนาคารกรุงไทยมาเล่าสู่กันฟัง เริ่มต้นตั้งแต่การเป็นพนักงานจูเนียร์ อัปสกิลไต่เลเวลจนมาถึงระดับผู้บริหาร
คิดว่านอกจากจะเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจสำหรับทุกคนที่อยากต่อยอด มีความฝันอยากจะทำอะไรใหม่ๆ ในสายงาน บทสัมภาษณ์ชิ้นนี้น่าจะตอบคำถามที่ชาวมนุษย์เงินเดือนอยากรู้ได้เป็นอย่างดีว่า คนๆ หนึ่งจะทำงานที่เดิมที่เดียวเป็นระยะเวลาสิบกว่าปีได้อย่างไร
พร้อมแล้ว ไปอ่านกันนะ : )
สวัสดีค่ะทุกคน ชื่อพี่แอนท์ - จิตรฤทัย ปัจจุบันทำงานที่ธนาคารกรุงไทยมา 13 ปีแล้วค่ะ หน้าที่การงานขณะนี้ก็รับผิดชอบทีมยุทธศาสตร์องค์กร เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ปัจจัยทางธุรกิจต่างๆ ที่มีผลกระทบกับธนาคาร รวมถึงพัฒนากระบวนการต่างๆ เพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานกับทุกฝ่าย
ฟังดูอาจจะรู้สึกว่าเนื้องานมันยาก ท้าทายก็ประมาณนั้น แต่ความยากก็เป็นปกติของการทำงานทุกๆ ที่เหมือนกับทุกๆ คน ถึงตัวงานจะท้าทาย บวกกับลักษณะขององค์กรที่ดูมีความจริงจัง เพราะเป็นสถาบันการเงิน แต่จริงๆ แล้วการทำงานที่นี่ ไม่ได้แบบเครียดหัวหมุน มีความเป็นกันเอง บรรยากาศก็มีทั้งบันเทิง จริงจัง ถ้าใช้ศัพท์วัยรุ่นที่นี่ก็ cool อยู่นะคะ
ที่มาที่ไป ทำไมถึงมาทำงานที่ธนาคารกรุงไทย เล่าย้อนกลับไปช่วงปี 2548 เป็นช่วงที่เรียนจบปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์ หลังจบก็เหมือนกับคนทุกยุค ส่งเรซูเม่วนไป ก็ได้งานเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้ากลุ่ม Consumer หลังจากทำไปได้ประมาณ 3-4 ปี เริ่มมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจบ้างก็ตกผลึกได้ว่า ปัจจัยที่จะทำให้ทุกธุรกิจอยู่รอดได้เนี่ย อยู่ที่การบริหารจัดการการเงินอย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพ
พอมีความคิดแบบนี้ขึ้นมาหนึ่งครั้ง ทีนี้ก็มาเพียบเลยค่ะ ว่าถ้าเราอยากรู้เรื่องการเงินให้มากขึ้นรวมกับความรู้เรื่อง Consumer ที่มีอยู่แล้ว จะต้องไปต่อยอดอะไรยังไงที่ไหนดี ก็ปิ๊งขึ้นมาว่า สาย Banking น่าจะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายได้ อยากจะบอกว่ามาถึงตอนนี้ หลังจากที่พี่แอนท์อยู่แวดวงธนาคารมานาน รู้เลยว่า เรื่องการบริหารจัดการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญ
ระหว่างที่หาข้อมูล หางานใหม่เพื่อต่อยอด ในที่สุดก็ได้สายงานธนาคารจริงๆ แต่เส้นทางของพี่แอนท์ จะแตกต่างจากคนอื่นๆ ตรงที่ไม่ได้เป็นการส่งเรซูเม่เพื่อสมัครงานนะคะ แต่เป็นการส่งใบสมัครเพื่อขอทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นพนักงานกรุงไทยเลยค่ะ เพราะธนาคารจะมีโครงการ ‘ทุนการศึกษา’ เป็นสปอนเซอร์ส่งคนที่ได้รับการคัดเลือกให้ไปเรียนแล้วกลับมาทำงานที่ธนาคาร เป็นทุนที่เปิดรับสมัครทั้งคนนอกและคนใน
พี่แอนท์เลือกที่จะยื่นใบสมัครขอรับทุนฯ ที่ธนาคารกรุงไทย เพราะคิดว่าที่นี่น่าจะตอบโจทย์ตัวเองได้ดี ตอนนั้นมีความคิดว่าธนาคารกรุงไทย นี่แหละเป็นที่ที่จะทำให้เราสร้าง Impact เชิงบวกและเชิงกว้างให้กับสังคมได้ดีที่สุด
หลังจากที่ยื่นใบสมัครใช้เวลาประมาณ 3 เดือนก็รู้ผลว่า สอบผ่านได้ทุนธนาคารไปเรียนต่อ MBA ที่ Wharton School, University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอะไรที่ Once in a Lifetime มาก ซึ่งก่อนที่จะบินไปเรียนต่อ พี่แอนท์ก็ได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้งานที่ธนาคารกรุงไทย เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้าน ทำให้มีความรู้เรื่องสินเชื่อมากขึ้น และเห็นโอกาสมากมายที่จะสามารถทำให้กับธนาคารได้
ตัดภาพมาเป็นช่วงตอนเรียน MBA ที่อเมริกา ถ้าเคยได้ยินกันมา ร้อยทั้งร้อย จะบอกว่าเรียน MBA หนักหนาสาหัสมาก การบ้าน งานเยอะแยะจิปาถะ กิจกรรมก็ต้องทำ แต่ว่าก็เป็นข้อดี เพราะขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เราต้องบริหารจัดการเวลาให้ได้มีประสิทธิภาพมาก เปลี่ยนให้เป็นคนที่เก่งขึ้น
ช่วงที่เรียน เรียกว่าเป็นนักเรียนสุดคุ้ม เข้าคลาสและทำ Case เยอะมากๆ คิดว่า มันจะได้เป็นทางลัดที่เอามาประยุกต์ใช้ได้อนาคต มีไปทำโปรเจกต์ที่เรียกว่า Global Impact Consultant ให้กับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและการบัญชีในประเทศกานา ช่วย Develop Model ให้กับธุรกิจ SME เพื่อเป็นต้นแบบให้เค้านำไปเผยแพร่ ให้ความรู้ และ SME นำไปใช้กับธุรกิจนั้นๆ เพื่อทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน ใช้เวลาเรียน MBA อยู่ประมาณ 2 ปี จบก็บินกลับมาทำงานที่ธนาคารกรุงไทย
หลังจากเรียนจบกลับมา ขยับตำแหน่งมาเป็น Senior Officer จากที่เคยทำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รายย่อย กลับมาก็เปลี่ยนแนวค่ะ เพราะอยากเรียนรู้เรื่องใน Area อื่นเพิ่ม อยากเอาความรู้และทักษะจากที่ไปเรียนกลับมาช่วยลูกค้าและธนาคาร ทางผู้ใหญ่ที่ธนาคารกรุงไทยก็ให้โอกาส ให้เราไปทำงานด้าน Relationship Manager ดูแลลูกค้าเกี่ยวกับการให้สินเชื่อระดับประเทศ ได้ใช้ทุกทักษะ ทุกสกิลที่เรียนมาหมดกับการทำงานในการผลักดันการลงทุนด้าน Infrastructure ที่สำคัญของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นถนน ทางด่วน โรงไฟฟ้า เขื่อน เป็นต้น จากนั้นก็ Rotate มาทำงานในตำแหน่ง Personal Assistant ของผู้บริหารระดับสูง รับผิดชอบด้านการบริหารโครงการต่างๆ ที่สำคัญของธนาคาร ทำมาประมาณ 4 ปี ก็ขอโอกาสมาอยู่ในตำแหน่งงานปัจจุบัน ด้านยุทธศาสตร์องค์กร รับผิดชอบด้านการวิเคราะห์ธุรกิจ พัฒนากระบวนการต่างๆ และกำหนดยุทธศาสตร์องค์กร ตามที่บอกไปตอนต้นค่ะ
ที่ขอ Rotate มาตำแหน่งนี้ เพราะมีความรู้สึกว่า สนใจอยากที่จะเรียนรู้งานส่วนที่ได้เห็นภาพรวมของทั้งธนาคารมากขึ้น ซึ่งทางธนาคารกรุงไทยก็ให้โอกาสตลอด ขอแค่กล้าที่จะแสดงความเห็น บอกเป้าหมายที่เราอยากจะสร้าง Impact ธนาคารก็จะให้โอกาสได้ไปลอง เรามี Passion ขณะที่ธนาคารก็มีโอกาสให้ มันก็เลยเป็นเรื่องที่ตรงกันพอดี
ถ้าถามว่าความสนุกและท้าทายของการทำงานที่นี่ตลอด 13 ปีเป็นยังไงบ้าง พี่แอนท์คิดว่าคงเป็นเรื่องการได้หยิบได้จับโครงการต่างๆ โดยใช้ความรู้ ทักษะ และศักยภาพของตัวเองในการพัฒนาโครงการพื้นฐานภาครัฐให้เข้าถึงประชาชน และช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และ Health Wallet การทำงานกับคนที่มี Passion เดียวกัน มันทำให้รู้สึกว่า ทุกคนต้องช่วยกัน ผลักดันสิ่งเดียวกัน ทุกคนมีการเปิดรับและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น
อีกเรื่องที่ดีและอยากแชร์ตลอด 13 ปีที่กรุงไทยเป็นเรื่องที่ธนาคารดูแลเราเป็นอย่างดี ทั้งโอกาสการเรียนรู้ทั้งในงาน การพัฒนาทักษะผ่านการอบรม การ Workshop ร่วมกับองค์กรระดับประเทศและระดับนานาชาติ รวมถึงมีสวัสดิการที่ไม่น้อยหน้าองค์กรในต่างประเทศ อาทิ สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน เป็นต้น
เส้นทางการทำงานที่กรุงไทยของพี่แอนท์ มีและเกิดขึ้นได้เพราะความกล้าและโอกาส อย่างที่เล่า เริ่มต้นจากการเป็นพนักงานระดับเจ้าหน้าที่ตัวน้อย ค่อยๆ ไต่มาเรื่อยๆ จนวันนี้อยู่ระดับบริหารแล้วก็ถือว่าเข้าใกล้เป้าหมายในชีวิตของตัวเราเองมากขึ้นๆ แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ นอกจากความตั้งใจ เติมจุดแข็ง ลดจุดอ่อน เพื่อให้พร้อมกับโอกาสที่อาจจะเข้ามา ในขณะที่ธนาคารกรุงไทยให้สิ่งที่สำคัญกับเรา คือ ‘โอกาส ’ ขอแค่มีความกล้าที่จะก้าวข้าม Comfort Zone ของตัวเอง ซึ่งที่นี่เป็นที่ที่มีความท้าทายสุดๆ มีอะไรให้ทำตลอด ธนาคารเองก็มีการเพิ่มเติมความรู้ มีโค้ชจากต่างประเทศมาสอน ช่วยพัฒนาทักษะซอฟต์สกิล ยิ่งได้ทำงานที่ท้าทาย ผลงานก็เป็นตัวชี้วัดผลตอบแทน ถ้าสนใจและมี Passion ที่อยากสร้าง Impact ระดับประเทศ สมัครเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งธนาคารกรุงไทยกันได้นะคะ
หลังจากปิดจ็อบบทสนทนาครั้งนี้กับพี่แอนท์-จิตรฤทัย ด้วยคำถามทิ้งท้าย กล่าวขอบคุณพร้อมกับมือที่กดปิดโปรแกรมสนทนา เราก็เก็ตฟีลตามมาทันทีว่า ทำไมคำว่า Passion ถึงได้กลายมาเป็นคำศัพท์คู่บุญเหล่าชาวมนุษย์เงินเดือน (แต่จริงๆ ก็ทุกคน) เพราะความหลงใหล เป็นจุดสตาร์ตที่จะผลักและดันให้เราไปถึงเป้าหมาย แต่การจะไปถึงยอดภูเขาแห่งความสำเร็จได้ไวขึ้นหรือเปล่า การพาตัวเองออกไปหาและคว้าโอกาสไว้ให้ได้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน
ในฐานะที่ตัวเองก็เป็นสมาชิกชมรมมนุษย์ออฟฟิศเหมือนกัน ยังไงก็ขอส่งกำลังใจให้เหล่าเพื่อนมนุษย์เงินเดือนทั้งมือใหม่และมือเก๋า เดินทางไปให้ถึงยอดภูเขาแห่งความสำเร็จอย่างสวยงามในเร็ววัน 💪💪
สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพลังขับเคลื่อนของธนาคารกรุงไทย
คลิก
https://hr.krungthai.com/Home/JoinUs
[Advertorial]
[BR] เรื่องเล่าชีวิตการทำงาน 13 ปีที่ ธนาคารกรุงไทย หลายอย่างมีขึ้นได้เพราะ ‘โอกาส’
คิดว่านอกจากจะเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจสำหรับทุกคนที่อยากต่อยอด มีความฝันอยากจะทำอะไรใหม่ๆ ในสายงาน บทสัมภาษณ์ชิ้นนี้น่าจะตอบคำถามที่ชาวมนุษย์เงินเดือนอยากรู้ได้เป็นอย่างดีว่า คนๆ หนึ่งจะทำงานที่เดิมที่เดียวเป็นระยะเวลาสิบกว่าปีได้อย่างไร
พร้อมแล้ว ไปอ่านกันนะ : )
สวัสดีค่ะทุกคน ชื่อพี่แอนท์ - จิตรฤทัย ปัจจุบันทำงานที่ธนาคารกรุงไทยมา 13 ปีแล้วค่ะ หน้าที่การงานขณะนี้ก็รับผิดชอบทีมยุทธศาสตร์องค์กร เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ปัจจัยทางธุรกิจต่างๆ ที่มีผลกระทบกับธนาคาร รวมถึงพัฒนากระบวนการต่างๆ เพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานกับทุกฝ่าย
ฟังดูอาจจะรู้สึกว่าเนื้องานมันยาก ท้าทายก็ประมาณนั้น แต่ความยากก็เป็นปกติของการทำงานทุกๆ ที่เหมือนกับทุกๆ คน ถึงตัวงานจะท้าทาย บวกกับลักษณะขององค์กรที่ดูมีความจริงจัง เพราะเป็นสถาบันการเงิน แต่จริงๆ แล้วการทำงานที่นี่ ไม่ได้แบบเครียดหัวหมุน มีความเป็นกันเอง บรรยากาศก็มีทั้งบันเทิง จริงจัง ถ้าใช้ศัพท์วัยรุ่นที่นี่ก็ cool อยู่นะคะ
ที่มาที่ไป ทำไมถึงมาทำงานที่ธนาคารกรุงไทย เล่าย้อนกลับไปช่วงปี 2548 เป็นช่วงที่เรียนจบปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์ หลังจบก็เหมือนกับคนทุกยุค ส่งเรซูเม่วนไป ก็ได้งานเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้ากลุ่ม Consumer หลังจากทำไปได้ประมาณ 3-4 ปี เริ่มมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจบ้างก็ตกผลึกได้ว่า ปัจจัยที่จะทำให้ทุกธุรกิจอยู่รอดได้เนี่ย อยู่ที่การบริหารจัดการการเงินอย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพ
พอมีความคิดแบบนี้ขึ้นมาหนึ่งครั้ง ทีนี้ก็มาเพียบเลยค่ะ ว่าถ้าเราอยากรู้เรื่องการเงินให้มากขึ้นรวมกับความรู้เรื่อง Consumer ที่มีอยู่แล้ว จะต้องไปต่อยอดอะไรยังไงที่ไหนดี ก็ปิ๊งขึ้นมาว่า สาย Banking น่าจะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายได้ อยากจะบอกว่ามาถึงตอนนี้ หลังจากที่พี่แอนท์อยู่แวดวงธนาคารมานาน รู้เลยว่า เรื่องการบริหารจัดการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญ
ระหว่างที่หาข้อมูล หางานใหม่เพื่อต่อยอด ในที่สุดก็ได้สายงานธนาคารจริงๆ แต่เส้นทางของพี่แอนท์ จะแตกต่างจากคนอื่นๆ ตรงที่ไม่ได้เป็นการส่งเรซูเม่เพื่อสมัครงานนะคะ แต่เป็นการส่งใบสมัครเพื่อขอทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นพนักงานกรุงไทยเลยค่ะ เพราะธนาคารจะมีโครงการ ‘ทุนการศึกษา’ เป็นสปอนเซอร์ส่งคนที่ได้รับการคัดเลือกให้ไปเรียนแล้วกลับมาทำงานที่ธนาคาร เป็นทุนที่เปิดรับสมัครทั้งคนนอกและคนใน
พี่แอนท์เลือกที่จะยื่นใบสมัครขอรับทุนฯ ที่ธนาคารกรุงไทย เพราะคิดว่าที่นี่น่าจะตอบโจทย์ตัวเองได้ดี ตอนนั้นมีความคิดว่าธนาคารกรุงไทย นี่แหละเป็นที่ที่จะทำให้เราสร้าง Impact เชิงบวกและเชิงกว้างให้กับสังคมได้ดีที่สุด
หลังจากที่ยื่นใบสมัครใช้เวลาประมาณ 3 เดือนก็รู้ผลว่า สอบผ่านได้ทุนธนาคารไปเรียนต่อ MBA ที่ Wharton School, University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอะไรที่ Once in a Lifetime มาก ซึ่งก่อนที่จะบินไปเรียนต่อ พี่แอนท์ก็ได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้งานที่ธนาคารกรุงไทย เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้าน ทำให้มีความรู้เรื่องสินเชื่อมากขึ้น และเห็นโอกาสมากมายที่จะสามารถทำให้กับธนาคารได้
ตัดภาพมาเป็นช่วงตอนเรียน MBA ที่อเมริกา ถ้าเคยได้ยินกันมา ร้อยทั้งร้อย จะบอกว่าเรียน MBA หนักหนาสาหัสมาก การบ้าน งานเยอะแยะจิปาถะ กิจกรรมก็ต้องทำ แต่ว่าก็เป็นข้อดี เพราะขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เราต้องบริหารจัดการเวลาให้ได้มีประสิทธิภาพมาก เปลี่ยนให้เป็นคนที่เก่งขึ้น
หลังจากเรียนจบกลับมา ขยับตำแหน่งมาเป็น Senior Officer จากที่เคยทำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รายย่อย กลับมาก็เปลี่ยนแนวค่ะ เพราะอยากเรียนรู้เรื่องใน Area อื่นเพิ่ม อยากเอาความรู้และทักษะจากที่ไปเรียนกลับมาช่วยลูกค้าและธนาคาร ทางผู้ใหญ่ที่ธนาคารกรุงไทยก็ให้โอกาส ให้เราไปทำงานด้าน Relationship Manager ดูแลลูกค้าเกี่ยวกับการให้สินเชื่อระดับประเทศ ได้ใช้ทุกทักษะ ทุกสกิลที่เรียนมาหมดกับการทำงานในการผลักดันการลงทุนด้าน Infrastructure ที่สำคัญของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นถนน ทางด่วน โรงไฟฟ้า เขื่อน เป็นต้น จากนั้นก็ Rotate มาทำงานในตำแหน่ง Personal Assistant ของผู้บริหารระดับสูง รับผิดชอบด้านการบริหารโครงการต่างๆ ที่สำคัญของธนาคาร ทำมาประมาณ 4 ปี ก็ขอโอกาสมาอยู่ในตำแหน่งงานปัจจุบัน ด้านยุทธศาสตร์องค์กร รับผิดชอบด้านการวิเคราะห์ธุรกิจ พัฒนากระบวนการต่างๆ และกำหนดยุทธศาสตร์องค์กร ตามที่บอกไปตอนต้นค่ะ
ที่ขอ Rotate มาตำแหน่งนี้ เพราะมีความรู้สึกว่า สนใจอยากที่จะเรียนรู้งานส่วนที่ได้เห็นภาพรวมของทั้งธนาคารมากขึ้น ซึ่งทางธนาคารกรุงไทยก็ให้โอกาสตลอด ขอแค่กล้าที่จะแสดงความเห็น บอกเป้าหมายที่เราอยากจะสร้าง Impact ธนาคารก็จะให้โอกาสได้ไปลอง เรามี Passion ขณะที่ธนาคารก็มีโอกาสให้ มันก็เลยเป็นเรื่องที่ตรงกันพอดี
ถ้าถามว่าความสนุกและท้าทายของการทำงานที่นี่ตลอด 13 ปีเป็นยังไงบ้าง พี่แอนท์คิดว่าคงเป็นเรื่องการได้หยิบได้จับโครงการต่างๆ โดยใช้ความรู้ ทักษะ และศักยภาพของตัวเองในการพัฒนาโครงการพื้นฐานภาครัฐให้เข้าถึงประชาชน และช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และ Health Wallet การทำงานกับคนที่มี Passion เดียวกัน มันทำให้รู้สึกว่า ทุกคนต้องช่วยกัน ผลักดันสิ่งเดียวกัน ทุกคนมีการเปิดรับและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น
อีกเรื่องที่ดีและอยากแชร์ตลอด 13 ปีที่กรุงไทยเป็นเรื่องที่ธนาคารดูแลเราเป็นอย่างดี ทั้งโอกาสการเรียนรู้ทั้งในงาน การพัฒนาทักษะผ่านการอบรม การ Workshop ร่วมกับองค์กรระดับประเทศและระดับนานาชาติ รวมถึงมีสวัสดิการที่ไม่น้อยหน้าองค์กรในต่างประเทศ อาทิ สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน เป็นต้น
เส้นทางการทำงานที่กรุงไทยของพี่แอนท์ มีและเกิดขึ้นได้เพราะความกล้าและโอกาส อย่างที่เล่า เริ่มต้นจากการเป็นพนักงานระดับเจ้าหน้าที่ตัวน้อย ค่อยๆ ไต่มาเรื่อยๆ จนวันนี้อยู่ระดับบริหารแล้วก็ถือว่าเข้าใกล้เป้าหมายในชีวิตของตัวเราเองมากขึ้นๆ แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ นอกจากความตั้งใจ เติมจุดแข็ง ลดจุดอ่อน เพื่อให้พร้อมกับโอกาสที่อาจจะเข้ามา ในขณะที่ธนาคารกรุงไทยให้สิ่งที่สำคัญกับเรา คือ ‘โอกาส ’ ขอแค่มีความกล้าที่จะก้าวข้าม Comfort Zone ของตัวเอง ซึ่งที่นี่เป็นที่ที่มีความท้าทายสุดๆ มีอะไรให้ทำตลอด ธนาคารเองก็มีการเพิ่มเติมความรู้ มีโค้ชจากต่างประเทศมาสอน ช่วยพัฒนาทักษะซอฟต์สกิล ยิ่งได้ทำงานที่ท้าทาย ผลงานก็เป็นตัวชี้วัดผลตอบแทน ถ้าสนใจและมี Passion ที่อยากสร้าง Impact ระดับประเทศ สมัครเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งธนาคารกรุงไทยกันได้นะคะ
หลังจากปิดจ็อบบทสนทนาครั้งนี้กับพี่แอนท์-จิตรฤทัย ด้วยคำถามทิ้งท้าย กล่าวขอบคุณพร้อมกับมือที่กดปิดโปรแกรมสนทนา เราก็เก็ตฟีลตามมาทันทีว่า ทำไมคำว่า Passion ถึงได้กลายมาเป็นคำศัพท์คู่บุญเหล่าชาวมนุษย์เงินเดือน (แต่จริงๆ ก็ทุกคน) เพราะความหลงใหล เป็นจุดสตาร์ตที่จะผลักและดันให้เราไปถึงเป้าหมาย แต่การจะไปถึงยอดภูเขาแห่งความสำเร็จได้ไวขึ้นหรือเปล่า การพาตัวเองออกไปหาและคว้าโอกาสไว้ให้ได้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน
ในฐานะที่ตัวเองก็เป็นสมาชิกชมรมมนุษย์ออฟฟิศเหมือนกัน ยังไงก็ขอส่งกำลังใจให้เหล่าเพื่อนมนุษย์เงินเดือนทั้งมือใหม่และมือเก๋า เดินทางไปให้ถึงยอดภูเขาแห่งความสำเร็จอย่างสวยงามในเร็ววัน 💪💪
สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพลังขับเคลื่อนของธนาคารกรุงไทย
คลิก https://hr.krungthai.com/Home/JoinUs
[Advertorial]
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน