จากที่เคยได้อ่านกระทู้ของเพื่อนๆหลายๆท่าน วันนี้มีประสบการณ์เรื่องของการชอบดึงจมูกเล็บ เดิมทีเป็นคนชอบทำเล็บเองตลอด ชอบตัดชอบเเคะชอบทำสีคงรำคานไม่น้อยสำหรับคนที่เห็นหนังเล็กๆอยู่ข้างๆซอกนิ้วมือ เนื่องจากเราทำสีบ่อยเลยทำให้เล็บไม่เคยจะยาวไปกว่านร้เลย ที่สำคัญหม่ชอบทา แฮนด์ครีม เลยทำให้นิ้วหรือผิวบริเวณมือเเห้งไปใหญ่ ด้วยความที่ดคงเองหลายนฝรอบ เจ็บจี๊ดๆแปบไกินยาหาย รอบนี้ไม่เป็นดั่งหวัง😅
อาการหลังดึงหนังเล็กๆออกครั้งเเรกมีอาการเจ็บ เจ็บเเบบทุกครั้ง 3วันเเรกเริ่มเเดงเเต่นังไม่เเสดงอาการว่ามีหนองหรือมีอะไร พอวันที่4เช้าตื่นมารู้สึกข้างๆขอบเล็บเ้านขวา(เวลายื่นมือออก) มีอาการเเดงเเละบวมข้างเดียว แต่ที่ตกใจคือตอนกลางคืนปวดร้าวยาวตั้งเเต่ปลายนิ้วจนถึง ข้อศอก พอคลำๆรู้สึกเป็นก้อนไตๆ แข็งๆ ก็ไม่เอะใจอีกกินยาพาราคาะ เเต่ไม่ได้กินฆ่าเชื้อ ยกของไม่ได้เลยปวดร้าวตึงมาก
อดทนนะคะ ผ่านมาอีก2วัน จนเกือบครบสัปดาห์ ทีนี้ไอเส้นที่ปวดไมันร้าวมายันรักแร้ ด้วยความที่ติดงาน ต้องขับรถไปต่างจังหวัดกะทันหันหมอก็ไม่ได้ไปหา มาเฝ้าคุณย่าที่เพิ่งออกจากไอซียู มือที่เดิมทีเเดงเเค่ฝั่งเดียว เริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น นอนกลางคืนปวดแสบปวดร้อน แล้วอยู่โรงพยาบาลเราล้างมือบ่อย สบู่บ้างเเอลกอฮอบ้าง โดนน้ำที่จ้องคอยล้างหลอดใส่อาหารเช็ดตัวคุณย่าบ้าง โดนน้ำบ่อย จึงทำให้เริ่มมีหนองรอบๆโคเล็บทั้ง2ฝั่ง สังเกตดูดีดีเริ่มมีน้องกินเข้าไปในเนื้อเล็บ มันทรมานมาก งอนิ้วไม่ได้ ถ้าไม่กินยาเเก้ปวดคือนอนไม่ได้เลย มันปวดเเสบปวดร้อนอักเสบทั้งนิ้ว ร้าวรานสะท้านทั้งเเขนยันถึงโคนรักแร้
โทษตัวเองค่ะที่ประมาทไม่คิดว่าแผลนิดเดียวจะทำเราเเทบเป็นคนพิการเเขนเดียว เลยตัดสินใจลงไปหาคุณหมอโรงพยาบาลรัฐทีที่เราเฝ้าคุณย่า เนื่องจากสิทธิ์รักษาเราอยู่อีกอำเภอเลยยื่นสิทธิ์ชำระเงินเองไป ได้คิวหมอเรียกเข้าพบ ได้อาจารย์หมอประจำโรงพยาบาล วินาทีที่คุณหมอกำลังวิเคราะห์ ก็มีสายด่วนเข้ามาที่คุณหมอว่ามีเคสฉุกเฉินคนไข้กำลังช็อคหมดสติ คุณหมอเลยบอกพยาบาลว่า ปิดรับเคสเเค่ตรงเราก่อนเพราะมีเคสด่วนกว่าถ้าไม่มีใครถึงขั้นจะตายหรือวิกฤตยังไม่รับให้หมอท่านอืนดูก่อน แกจับๆคลำๆไม่กี่วิบอกว่าต้องกรีดเอาหนองออกนะ เล็บไม่ต้องถอด กรีดออกเเค่1/4 เดี๋ยวออกไปยื่นเอกสารโต๊ะพยาบาลข้างหน้าเเล้วรอผมห้องทำแผล เเล้วแกก็รีบวิ่งไปดูเคสวิกฤต ระหว่างรอพยาบาลหัตถการแจ้งว่าโชคดีมากเลยนะคะที่ได้ทำกับระหว่างรอพยาบาลหัตถการแจ้งว่าโชคดีมากเลยนะคะที่ได้ทำกับอาจารย์หมอแกเก่งมากเลยมีลูกศิษย์ท่านหลายหลายคนที่เป็นหมออยู่ในโรงพยาบาลนี้
2.30ชม.ผ่านไป อาจารย์หมอกลับมาค่ะพยาบาลเตรียมเครื่องมือให้กับคุณหมอคุณหมอกำลังจะนั่ง อาจารย์หมอกลับมาค่ะพยาบาลเตรียมเครื่องมือให้กับคุณหมอคุณหมอกำลังจะนั่งเก้าอี้เพื่อวิเคราะห์แนวตัดสักพักมีสายเข้ามาอีกมีเคสที่ลูกศิษย์ท่านรับไว้คนไข้เอาหัวกระแทกพื้นลงมาพฤศจิอาจารย์รีบรับสายแล้วคุยกับนักเรียนเป็นศัพท์ที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่สรุปยังไม่ทันได้ฉีดยาชา แต่ก่อนไปแกก็สั่งคุณหมออีกท่านว่าเวลากรีดกรีดที่สุดเล็บเอาออกแค่หนึ่งส่วนสี่นะทำได้ใช่ไหม แล้วแกก็วิ่งจากไป
ในใจคิดว่าเอาเเล้วได้ทำกับหมอใหมาฝ่จะทำดีไหมน้อ ใจวิตกกังวลกลัวก็กลัว คุณหมอผู้หญิงเริ่มทำคุณหมอผู้หญิงเริ่มทำการเตรียมฉีดยาชาแต่ถ้าเราทุกเรื่องพี่เห็นเข็มฉีดยาชาที่มีขนาดใหญ่มากก็เลยหันหน้าหนีฉีดเข็มที่หนึ่งตรงส่วนอื่นชาหมดยกเว้นส่วนที่บวมและมีหนองเนื่องจากมันอักเสบคุณหมอบอกว่าอักเสบเยอะมาก ยาชาไม่ทำงานเชื่อไหมว่ามันเจ็บที่สุดนอกจากศัลยกรรมอื่นๆการถอดเล็บเพียงแค่หนึ่งส่วนสี่มันทำให้เราเจ็บแสบ ปวดบอกอาการไม่ถูก ทั้งนิ้วทั้งมือชาหมดยกเว้นรอบๆจมูกเล็บ เข็มเเรกที่เเทงเข้าไปหนองพุ่งออกมาจนคุณหมออุทาน อื้อหือ ส่วนเราก็ร้องอื้หือเช่นกับเพราะปวดมากๆ คุณหมอเริ่มถามว่ารู้สึกชามั้ยคะเราเลยบอกว่าชาค่ะชาทั้งนิ้วแต่ต้องแผลไม่ชาเลยค่ะ🤣🤣"งั้นคุณหมอจะเพิ่มยาชานะคะตรงนี้ยังเจ็บอยู่มั้ยคะ"เราบอกว่าเจ็บแกก็ฉีดซ้ำ "อักเสบเยอะมากอดทนนะคะตรงไหนเจ็บบอกเจ็บนะ" แล้วเเกก็ทิ่มไปทั้งหมด4เข็ม อารมณ์ตอนนั้นคือมันรู้สึกเย็นวาบๆผสมกับแสบและปวด คสักประมาณ10วิได้คุณหมอทำการกรีด จังหวะกรีดรู้สึกว่าแสบและเจ็บมากเพราะยาชามันไม่ออกฤทธิ์ในบริเวณที่เป็นหนองและอักเสบจังหวะดึงเล็บออกคือแซ่บสุดสุดไปเลยเหมือนกับว่ายาชาที่ฉีดสี่เข็มไม่ได้มีผลอะไรเลย อารมณ์ทำสดชัดๆ เรานอนเกเเละสะดุ้งจนคุณหมอบอกว่างั้นฉีดตรงเเผลอีกเข็มนะคะเพราะต้องขูดหนองออก จังหวะนี้เเหละที่ทำเราน้ำตาไหลการฉีดยาชาบนเเผลที่เปิดแล้วมันทั้งแสบ ทั้งปวดทั้งเสียว จนเราบอกหมอว่าไม่ต้องฉีดก็ได้ค่ะทำเลย ในใจคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียหายแล้วถ้าไม่ทำในใจคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียหายแล้วถ้าไม่ทำก็จะปวดอาจจะติดเชื้อเพิ่มกลัวโดนตัดนิ้วค่ะยอมเจ็บตอนนี้ซะยังดีกว่าทำจริงๆไม่ถึง10นาทีเสร็จ หลังทำมีปวดตุบๆนิดหน่อย คุณหมอบอกว่ากลัวที่อีงักเสบจะไม่ยุบเเกให้ดูอาการ ถ้าไม่หายค่อยมาถอดทั้งเล็บ (ในใจคิดว่าทำไมในใจคิดว่าทำไมหมอไม่ถอดทั้งเล็บตั้งแต่ตอนนี้ไปเลยเพราะกลัวว่าจะเจ็บสองรอบ555)เเต่ก็กลัวเพราะเล็บถ้าถอดใช้เวลาหลายเดือนเลยกว่าจะงอก
พอแล้วค่ะเข็ดแล้ว จมูกเล็บอย่าไปดึงเชียวเเหละ เเนำนำทำให้หนังนิ่มก่อนโดยทาออยหรือแฮนด์เจลล์ อาจจะเป็นพวกน้ำยาที่อาจจะเป็นพวกน้ำยาที่ทำให้หนังนิ่มก่อนแล้วค่อยใช้กรรไกรหรือที่ตัดเล็บตัดออกดีกว่า อย่าหาดึงนะคะ เพลินจริงเเต่รอบนี้เข็ดไปอีกนาน
ค่าเสียหายคือ
ค่าเเพทย์55 บาท
ค่ายาเเก้อักเสบแก้ปวด 50 บาท
ค่าหัตถ์การถอดเล็บ 300 บาท
รวม 405 บาท
จมูกเล็บอักเสบมีหนองบวมปวดร้าวทั้งแขน
อาการหลังดึงหนังเล็กๆออกครั้งเเรกมีอาการเจ็บ เจ็บเเบบทุกครั้ง 3วันเเรกเริ่มเเดงเเต่นังไม่เเสดงอาการว่ามีหนองหรือมีอะไร พอวันที่4เช้าตื่นมารู้สึกข้างๆขอบเล็บเ้านขวา(เวลายื่นมือออก) มีอาการเเดงเเละบวมข้างเดียว แต่ที่ตกใจคือตอนกลางคืนปวดร้าวยาวตั้งเเต่ปลายนิ้วจนถึง ข้อศอก พอคลำๆรู้สึกเป็นก้อนไตๆ แข็งๆ ก็ไม่เอะใจอีกกินยาพาราคาะ เเต่ไม่ได้กินฆ่าเชื้อ ยกของไม่ได้เลยปวดร้าวตึงมาก
อดทนนะคะ ผ่านมาอีก2วัน จนเกือบครบสัปดาห์ ทีนี้ไอเส้นที่ปวดไมันร้าวมายันรักแร้ ด้วยความที่ติดงาน ต้องขับรถไปต่างจังหวัดกะทันหันหมอก็ไม่ได้ไปหา มาเฝ้าคุณย่าที่เพิ่งออกจากไอซียู มือที่เดิมทีเเดงเเค่ฝั่งเดียว เริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น นอนกลางคืนปวดแสบปวดร้อน แล้วอยู่โรงพยาบาลเราล้างมือบ่อย สบู่บ้างเเอลกอฮอบ้าง โดนน้ำที่จ้องคอยล้างหลอดใส่อาหารเช็ดตัวคุณย่าบ้าง โดนน้ำบ่อย จึงทำให้เริ่มมีหนองรอบๆโคเล็บทั้ง2ฝั่ง สังเกตดูดีดีเริ่มมีน้องกินเข้าไปในเนื้อเล็บ มันทรมานมาก งอนิ้วไม่ได้ ถ้าไม่กินยาเเก้ปวดคือนอนไม่ได้เลย มันปวดเเสบปวดร้อนอักเสบทั้งนิ้ว ร้าวรานสะท้านทั้งเเขนยันถึงโคนรักแร้
โทษตัวเองค่ะที่ประมาทไม่คิดว่าแผลนิดเดียวจะทำเราเเทบเป็นคนพิการเเขนเดียว เลยตัดสินใจลงไปหาคุณหมอโรงพยาบาลรัฐทีที่เราเฝ้าคุณย่า เนื่องจากสิทธิ์รักษาเราอยู่อีกอำเภอเลยยื่นสิทธิ์ชำระเงินเองไป ได้คิวหมอเรียกเข้าพบ ได้อาจารย์หมอประจำโรงพยาบาล วินาทีที่คุณหมอกำลังวิเคราะห์ ก็มีสายด่วนเข้ามาที่คุณหมอว่ามีเคสฉุกเฉินคนไข้กำลังช็อคหมดสติ คุณหมอเลยบอกพยาบาลว่า ปิดรับเคสเเค่ตรงเราก่อนเพราะมีเคสด่วนกว่าถ้าไม่มีใครถึงขั้นจะตายหรือวิกฤตยังไม่รับให้หมอท่านอืนดูก่อน แกจับๆคลำๆไม่กี่วิบอกว่าต้องกรีดเอาหนองออกนะ เล็บไม่ต้องถอด กรีดออกเเค่1/4 เดี๋ยวออกไปยื่นเอกสารโต๊ะพยาบาลข้างหน้าเเล้วรอผมห้องทำแผล เเล้วแกก็รีบวิ่งไปดูเคสวิกฤต ระหว่างรอพยาบาลหัตถการแจ้งว่าโชคดีมากเลยนะคะที่ได้ทำกับระหว่างรอพยาบาลหัตถการแจ้งว่าโชคดีมากเลยนะคะที่ได้ทำกับอาจารย์หมอแกเก่งมากเลยมีลูกศิษย์ท่านหลายหลายคนที่เป็นหมออยู่ในโรงพยาบาลนี้
2.30ชม.ผ่านไป อาจารย์หมอกลับมาค่ะพยาบาลเตรียมเครื่องมือให้กับคุณหมอคุณหมอกำลังจะนั่ง อาจารย์หมอกลับมาค่ะพยาบาลเตรียมเครื่องมือให้กับคุณหมอคุณหมอกำลังจะนั่งเก้าอี้เพื่อวิเคราะห์แนวตัดสักพักมีสายเข้ามาอีกมีเคสที่ลูกศิษย์ท่านรับไว้คนไข้เอาหัวกระแทกพื้นลงมาพฤศจิอาจารย์รีบรับสายแล้วคุยกับนักเรียนเป็นศัพท์ที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่สรุปยังไม่ทันได้ฉีดยาชา แต่ก่อนไปแกก็สั่งคุณหมออีกท่านว่าเวลากรีดกรีดที่สุดเล็บเอาออกแค่หนึ่งส่วนสี่นะทำได้ใช่ไหม แล้วแกก็วิ่งจากไป
ในใจคิดว่าเอาเเล้วได้ทำกับหมอใหมาฝ่จะทำดีไหมน้อ ใจวิตกกังวลกลัวก็กลัว คุณหมอผู้หญิงเริ่มทำคุณหมอผู้หญิงเริ่มทำการเตรียมฉีดยาชาแต่ถ้าเราทุกเรื่องพี่เห็นเข็มฉีดยาชาที่มีขนาดใหญ่มากก็เลยหันหน้าหนีฉีดเข็มที่หนึ่งตรงส่วนอื่นชาหมดยกเว้นส่วนที่บวมและมีหนองเนื่องจากมันอักเสบคุณหมอบอกว่าอักเสบเยอะมาก ยาชาไม่ทำงานเชื่อไหมว่ามันเจ็บที่สุดนอกจากศัลยกรรมอื่นๆการถอดเล็บเพียงแค่หนึ่งส่วนสี่มันทำให้เราเจ็บแสบ ปวดบอกอาการไม่ถูก ทั้งนิ้วทั้งมือชาหมดยกเว้นรอบๆจมูกเล็บ เข็มเเรกที่เเทงเข้าไปหนองพุ่งออกมาจนคุณหมออุทาน อื้อหือ ส่วนเราก็ร้องอื้หือเช่นกับเพราะปวดมากๆ คุณหมอเริ่มถามว่ารู้สึกชามั้ยคะเราเลยบอกว่าชาค่ะชาทั้งนิ้วแต่ต้องแผลไม่ชาเลยค่ะ🤣🤣"งั้นคุณหมอจะเพิ่มยาชานะคะตรงนี้ยังเจ็บอยู่มั้ยคะ"เราบอกว่าเจ็บแกก็ฉีดซ้ำ "อักเสบเยอะมากอดทนนะคะตรงไหนเจ็บบอกเจ็บนะ" แล้วเเกก็ทิ่มไปทั้งหมด4เข็ม อารมณ์ตอนนั้นคือมันรู้สึกเย็นวาบๆผสมกับแสบและปวด คสักประมาณ10วิได้คุณหมอทำการกรีด จังหวะกรีดรู้สึกว่าแสบและเจ็บมากเพราะยาชามันไม่ออกฤทธิ์ในบริเวณที่เป็นหนองและอักเสบจังหวะดึงเล็บออกคือแซ่บสุดสุดไปเลยเหมือนกับว่ายาชาที่ฉีดสี่เข็มไม่ได้มีผลอะไรเลย อารมณ์ทำสดชัดๆ เรานอนเกเเละสะดุ้งจนคุณหมอบอกว่างั้นฉีดตรงเเผลอีกเข็มนะคะเพราะต้องขูดหนองออก จังหวะนี้เเหละที่ทำเราน้ำตาไหลการฉีดยาชาบนเเผลที่เปิดแล้วมันทั้งแสบ ทั้งปวดทั้งเสียว จนเราบอกหมอว่าไม่ต้องฉีดก็ได้ค่ะทำเลย ในใจคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียหายแล้วถ้าไม่ทำในใจคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียหายแล้วถ้าไม่ทำก็จะปวดอาจจะติดเชื้อเพิ่มกลัวโดนตัดนิ้วค่ะยอมเจ็บตอนนี้ซะยังดีกว่าทำจริงๆไม่ถึง10นาทีเสร็จ หลังทำมีปวดตุบๆนิดหน่อย คุณหมอบอกว่ากลัวที่อีงักเสบจะไม่ยุบเเกให้ดูอาการ ถ้าไม่หายค่อยมาถอดทั้งเล็บ (ในใจคิดว่าทำไมในใจคิดว่าทำไมหมอไม่ถอดทั้งเล็บตั้งแต่ตอนนี้ไปเลยเพราะกลัวว่าจะเจ็บสองรอบ555)เเต่ก็กลัวเพราะเล็บถ้าถอดใช้เวลาหลายเดือนเลยกว่าจะงอก
พอแล้วค่ะเข็ดแล้ว จมูกเล็บอย่าไปดึงเชียวเเหละ เเนำนำทำให้หนังนิ่มก่อนโดยทาออยหรือแฮนด์เจลล์ อาจจะเป็นพวกน้ำยาที่อาจจะเป็นพวกน้ำยาที่ทำให้หนังนิ่มก่อนแล้วค่อยใช้กรรไกรหรือที่ตัดเล็บตัดออกดีกว่า อย่าหาดึงนะคะ เพลินจริงเเต่รอบนี้เข็ดไปอีกนาน
ค่าเสียหายคือ
ค่าเเพทย์55 บาท
ค่ายาเเก้อักเสบแก้ปวด 50 บาท
ค่าหัตถ์การถอดเล็บ 300 บาท
รวม 405 บาท