เรากับแฟนอยู่ด้วยกันซื้อบ้านด้วยกันแล้วมาปีนึง
พออะไรๆเริ่มเข้าที่เลยจะจัดงานแต่งงานแฟนก็ให้ไปถามที่บ้านว่าจะนัดคุยกันยังไงเมื่อไร

เราเลยมาคุยกับที่บ้านจริงจัง
ที่บ้านบอกว่าจะเรียกสินสอดประมาณนึงด้วยเงินหลักล้าน(ไม่ได้รับปากว่าคืนไม่คืน)และทองอีกส่วนนึง(ส่วนนี้คืนให้แน่ๆ)
โดยให้เหตุผลว่าใครๆก็ให้กันเท่านี้ สมเหตุสมผลแล้ว โดยบ้านแฟนไม่ได้ช่วยนะคะ
แต่อาจจะมีขวัญถุงตอนแต่ง บ้านเขาก็ไม่ได้รวยไรมากแค่มีใช้ไม่ลำบาก

เราเลยพยายามคุยกับที่บ้าน แต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่องจนทะเลาะกัน จนที่บ้านบอกว่า 
ไม่งั้นก็ไม่ต้องมาขอ ก็อยู่ๆกันไป ไม่รู้เราจะไปเข้าข้างแฟนทำไม 
เรื่องสินสอดมันเกี่ยวอะไรกับเรา แต่เรามองว่าแฟนก็เป็นครอบครัวเราเหมือนกันเราเลยกังวล

พอเรามาคุยกับแฟน เขาก็ยอมรับว่าก็คิดมาก แต่จะพยายามหามาให้ 
แต่เราก็สงสารเขาด้วย อยากช่วยด้วยแต่ทุกวันนี้ก็มีผ่อนบ้านผ่อนรถอยู่ 
เก็บเงินค่าจัดงานแต่งงานอีก เขาเห็นเราผิดใจกับที่บ้านก็ปลอบก็บอกว่าไม่ต้องคิดมากเขาทำได้ 
เรายิ่งรู้สึกแย่ ว่าทำไมที่บ้านเราต้องอยากได้สินสอดด้วย ใช่ว่าถ้าเราแต่งไปแล้วละจะไม่ซัพพอร์ตที่บ้านสักหน่อย

ใจจริงเราก็อยู่กันไปได้นะคะไม่ติดอะไร จดทะเบียนเฉยๆ
แต่แฟนอยากจัดงานแต่งงานมากๆ
เขาบอกครั้งเดียวในชีวิตยังไงก็ต้องจัด

ณ ตอนนี้เหมือนไม่มีใครมีปัญหาอะไร มีแต่เราที่มีปัญหาไปเอง 
แฟนรับปากว่าจะหามาให้แต่อาจจะช้าหน่อย แพลนแต่งอาจจะต้องเลื่อน
ส่วนที่บ้านก็ไม่ได้เร่งให้แต่ง มีแต่เราที่เครียดไปเอง
ทำยังไงดีคะ ไม่อยากผิดใจกับที่บ้านด้วยแต่ตอนนี้ลึกๆก็ไม่สบายใจไปแล้ว 
รู้สึกแย่กับที่บ้านทุกทีที่คิดเรื่องนี้ แก้ยังไงได้บ้างคะ หรือต้องแก้ที่เราเอง