ผมขับรถยนต์มา 10 กว่าปี ตั้งแต่เคยขับมาทั้งในเมือง ต่างจังหวัด ยังไม่เคยชนรถ โดนรถชน ชนคน ชนหมา ชนต้นไม้ ตกข้างทาง ชนเสา ยกเว้น เบียดฟุตบาท เคยในช่วงแรกๆที่หัดขับรถ ความเร็วที่ขับก็ตั้งแต่ 50 km/h ไปจนถึง 190 km/h โดยส่วนตัวผมคิดว่าตัวเองมีทักษะในการขับมากพอสมควร
ยิ่งถ้ามองดีๆ อุบัติเหตุส่วนมากมักเกิดจากผู้หญิง ผมเคยเจอผู้หญิงหลายๆคนที่ชอบโวยวาย เวลาที่ไปเฉี่ยว ชน และพยายามอ้างว่าตัวเองถูก อีกฝ่ายผิดเสมอ พอขับได้อีกสัก 2 เดือนก็ไปชนคนอื่นใหม่ แล้วก็อ้างว่าตัวเองถูกอีกแล้ว
แต่ในความจริงแม้ว่าตัวเองจะถูก แต่สิ่งที่ผิดคือ ไหวพริบ และการตัดสินใจ เพราะว่าคนจำนวนมากที่ขาดสิ่งเหล่านี้แม้ขับรถไปสักพักสุดท้ายก็จะหาเรื่องชนกับคนอื่นใหม่ๆ อยู่ตลอด ไม่ไปชนเขา ก็โดนเขาชน
ยกตัวอย่างเช่น ขับมาเลนขวาเร็วๆ พอเขาเบียดมากระทันหันตัวเองเบรคไม่ทัน ก็เลยอ้างไว้ก่อนว่าตัวเองถูก แม้ความจริงหากขับรถเป็น เราจะสามารถประเมินได้อยู่แล้วว่า เลนข้างๆ มีท่าทีจะเบียดเข้ามาเลนขวา เราจึงต้องชะลอก่อน
ในกรณีที่ เราขับมาด้วยความเร็วสูง เราย่อมรับรู้ได้เองว่าเลนด้านข้างมีรถที่เร็วพอๆกับเราขับไล่กันมาหรือไม่ นั่นก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหาก มีรถมาตัดหน้าแล้วเราเบรคไม่ทันเราก็สามารถประเมินได้ว่าจะเบี่ยงไปเลนข้างๆแทนได้หรือไม่ เมื่อมองจากกระจกข้างแล้วว่าเบี่ยงได้อย่างปลอดภัย
ซึ่งในความจริง คนที่ไม่สามารถทำสิ่งที่กล่าวไปข้างต้นได้จริง ย่อมขับไปแล้วชนกับคนอื่นอยู่เรื่อยๆ ขับปีนึง ชนไปแล้ว 3 ครั้ง ปีหน้าก็ไปชนใหม่ เพราะขาดทักษะที่จำเป็นสำหรับการเป็นนักขับที่ดี
เหตุผลที่ผู้หญิงขับรถไม่เก่งเท่าผู้ชาย
ยิ่งถ้ามองดีๆ อุบัติเหตุส่วนมากมักเกิดจากผู้หญิง ผมเคยเจอผู้หญิงหลายๆคนที่ชอบโวยวาย เวลาที่ไปเฉี่ยว ชน และพยายามอ้างว่าตัวเองถูก อีกฝ่ายผิดเสมอ พอขับได้อีกสัก 2 เดือนก็ไปชนคนอื่นใหม่ แล้วก็อ้างว่าตัวเองถูกอีกแล้ว
แต่ในความจริงแม้ว่าตัวเองจะถูก แต่สิ่งที่ผิดคือ ไหวพริบ และการตัดสินใจ เพราะว่าคนจำนวนมากที่ขาดสิ่งเหล่านี้แม้ขับรถไปสักพักสุดท้ายก็จะหาเรื่องชนกับคนอื่นใหม่ๆ อยู่ตลอด ไม่ไปชนเขา ก็โดนเขาชน
ยกตัวอย่างเช่น ขับมาเลนขวาเร็วๆ พอเขาเบียดมากระทันหันตัวเองเบรคไม่ทัน ก็เลยอ้างไว้ก่อนว่าตัวเองถูก แม้ความจริงหากขับรถเป็น เราจะสามารถประเมินได้อยู่แล้วว่า เลนข้างๆ มีท่าทีจะเบียดเข้ามาเลนขวา เราจึงต้องชะลอก่อน
ในกรณีที่ เราขับมาด้วยความเร็วสูง เราย่อมรับรู้ได้เองว่าเลนด้านข้างมีรถที่เร็วพอๆกับเราขับไล่กันมาหรือไม่ นั่นก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหาก มีรถมาตัดหน้าแล้วเราเบรคไม่ทันเราก็สามารถประเมินได้ว่าจะเบี่ยงไปเลนข้างๆแทนได้หรือไม่ เมื่อมองจากกระจกข้างแล้วว่าเบี่ยงได้อย่างปลอดภัย
ซึ่งในความจริง คนที่ไม่สามารถทำสิ่งที่กล่าวไปข้างต้นได้จริง ย่อมขับไปแล้วชนกับคนอื่นอยู่เรื่อยๆ ขับปีนึง ชนไปแล้ว 3 ครั้ง ปีหน้าก็ไปชนใหม่ เพราะขาดทักษะที่จำเป็นสำหรับการเป็นนักขับที่ดี