เดิมรถยนต์เดิมๆใช้น้ำมันเครื่องมาตราฐาน API SN มาตั้งแต่ ตุลา 2010 แล้ว
ปัจจุบัน Honda 1.5 Turbo ก็เป็นมาตราฐานใหม่ของรถในค่าย
เลยอยากทราบว่า
- ทำไมทาง Honda ยังใช้น้ำมันเครื่องมาตราฐานเก่า API SN supplied by Shell Thailand (2010)
กับเครื่องยนต์ใหม่ที่มี Turbo ทั้งๆที่มาตราฐาน API SP มีมา 3 ปีกว่าแล้ว (2020) แบบนี้มีโอกาสเครื่องยนต์พังมากกว่าปกติหรือเปล่าเหมือนที่เกิดกับต่างประเทศ พวก oil dilution บลาๆและปัญหาเครื่องพัง ที่มาเล CRV-gen 5
- แล้วทำไมเขาไม่อัพเกรดมาตราฐานน้ำมันสักทีครับ ทั้งๆที่ค่ายอื่น Toyota หรือแบรนด์อื่นๆ ก็ใช้ API SP กันหมดแล้ว
แล้วถ้าแบบนี้ทาง Honda Thailand ไม่มีแผนอัพเกรดมาตราฐานของน้ำมันเครื่องแล้ว ทางผู้บริโภคจะเอาน้ำมันเข้าไปเปลี่ยนแทน ทาง Honda ก็ไม่ใช่ บอกว่าจะขาดประกัน แต่ปัญหาคือ คุณภาพน้ำมันเครื่องของคุณมันต่ำไปหรือเปล่า เอา API SN มาใช้กับ 1.5 Turbo ครับ
ที่ต้องมาโพส Pantip เพราะผมติดต่อทั้งทาง email, Chat Facebook ไปแล้วไม่ได้รับคำตอบกลับมาเลย บอกว่าเพียงอย่างเดียวว่า จะติดต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ ติดต่อแบบนี้เป็นเวลา เกือบเดือนไม่คืบหน้าเลยต้องมาถามใน Pantip เผื่อฝ่ายบริหาร Honda , วิศวกร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเห็นมากกว่าที่ติดต่อใน ช่องทางที่เขาบอกมา
ปล0. ผมนี่งงมาก อาชีพผมก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรถยนต์ แต่ทำไมต้องมาตั้งโพสถามบริษัทผลิตรถยนต์ถึงเรื่องมาตราฐานน้ำมันเครื่อง ทางทีม Honda น่าจะมีประสบการณ์และอยู่ในวงการเครื่องยนต์ น่าจะตื่นตัวและเชี่ยวชาญกว่าผม และอีกอย่าง ลูกค้าจ่ายค่าน้ำมันเครื่อง แต่ถ้าน้ำมันเครื่องเกรดเก่า ทำไมไม่อัพเกรดให้คุณภาพมันเหมาะกับเครื่องยนต์ใหม่ๆที่มี Turbo ล่ะครับ ผมงง.. มันใช่หน้าที่ผู้บริโภคไหมที่ต้องไปบอกให้บริษัท ทำนู่ทำนี่
รูปแรก น้ำมันเครื่อง Honda Thailand 0W-20 API SN supplied by Shell Thailand (น่าจะเอาเกรด HX7 มา OEM ถ้าผิดพลาดแก้ให้หน่อยครับ)
รูปสอง น้ำมันเครื่อง Honda Malaysia 0w-20 API SP supplied by ENEOS
Timeline ความแตกต่างระหว่าง API SN , SN+ และ SP
ปล1. API SP ดีกว่า API SN แน่ๆอยู่แล้ว ตามค่ามาตราฐาน
ปล2. ประเทศมาเลเซีย เขาอัพเกรดมาตราฐานเป็น API SP ทั้งหมดแล้ว อาจจะยกเว้น เบอร์ 30 ตั้งแต่ ธค 2021
https://www.honda.com.my/press-release/view/784/honda-malaysia-introduces-new-sp-grade-engine-oil-for-enhanced-engine-protection?fbclid=IwAR3OIav9jvMJSolk-zr9cVmumsh6o9SF5niL4KMV-QAHXMF3c9ESJH6Bpx8
มาตราฐานน้ำมันเครื่องของ Honda Thailand
ปัจจุบัน Honda 1.5 Turbo ก็เป็นมาตราฐานใหม่ของรถในค่าย
เลยอยากทราบว่า
- ทำไมทาง Honda ยังใช้น้ำมันเครื่องมาตราฐานเก่า API SN supplied by Shell Thailand (2010)
กับเครื่องยนต์ใหม่ที่มี Turbo ทั้งๆที่มาตราฐาน API SP มีมา 3 ปีกว่าแล้ว (2020) แบบนี้มีโอกาสเครื่องยนต์พังมากกว่าปกติหรือเปล่าเหมือนที่เกิดกับต่างประเทศ พวก oil dilution บลาๆและปัญหาเครื่องพัง ที่มาเล CRV-gen 5
- แล้วทำไมเขาไม่อัพเกรดมาตราฐานน้ำมันสักทีครับ ทั้งๆที่ค่ายอื่น Toyota หรือแบรนด์อื่นๆ ก็ใช้ API SP กันหมดแล้ว
แล้วถ้าแบบนี้ทาง Honda Thailand ไม่มีแผนอัพเกรดมาตราฐานของน้ำมันเครื่องแล้ว ทางผู้บริโภคจะเอาน้ำมันเข้าไปเปลี่ยนแทน ทาง Honda ก็ไม่ใช่ บอกว่าจะขาดประกัน แต่ปัญหาคือ คุณภาพน้ำมันเครื่องของคุณมันต่ำไปหรือเปล่า เอา API SN มาใช้กับ 1.5 Turbo ครับ
ที่ต้องมาโพส Pantip เพราะผมติดต่อทั้งทาง email, Chat Facebook ไปแล้วไม่ได้รับคำตอบกลับมาเลย บอกว่าเพียงอย่างเดียวว่า จะติดต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ ติดต่อแบบนี้เป็นเวลา เกือบเดือนไม่คืบหน้าเลยต้องมาถามใน Pantip เผื่อฝ่ายบริหาร Honda , วิศวกร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเห็นมากกว่าที่ติดต่อใน ช่องทางที่เขาบอกมา
ปล0. ผมนี่งงมาก อาชีพผมก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรถยนต์ แต่ทำไมต้องมาตั้งโพสถามบริษัทผลิตรถยนต์ถึงเรื่องมาตราฐานน้ำมันเครื่อง ทางทีม Honda น่าจะมีประสบการณ์และอยู่ในวงการเครื่องยนต์ น่าจะตื่นตัวและเชี่ยวชาญกว่าผม และอีกอย่าง ลูกค้าจ่ายค่าน้ำมันเครื่อง แต่ถ้าน้ำมันเครื่องเกรดเก่า ทำไมไม่อัพเกรดให้คุณภาพมันเหมาะกับเครื่องยนต์ใหม่ๆที่มี Turbo ล่ะครับ ผมงง.. มันใช่หน้าที่ผู้บริโภคไหมที่ต้องไปบอกให้บริษัท ทำนู่ทำนี่
รูปแรก น้ำมันเครื่อง Honda Thailand 0W-20 API SN supplied by Shell Thailand (น่าจะเอาเกรด HX7 มา OEM ถ้าผิดพลาดแก้ให้หน่อยครับ)
รูปสอง น้ำมันเครื่อง Honda Malaysia 0w-20 API SP supplied by ENEOS
Timeline ความแตกต่างระหว่าง API SN , SN+ และ SP
ปล1. API SP ดีกว่า API SN แน่ๆอยู่แล้ว ตามค่ามาตราฐาน
ปล2. ประเทศมาเลเซีย เขาอัพเกรดมาตราฐานเป็น API SP ทั้งหมดแล้ว อาจจะยกเว้น เบอร์ 30 ตั้งแต่ ธค 2021
https://www.honda.com.my/press-release/view/784/honda-malaysia-introduces-new-sp-grade-engine-oil-for-enhanced-engine-protection?fbclid=IwAR3OIav9jvMJSolk-zr9cVmumsh6o9SF5niL4KMV-QAHXMF3c9ESJH6Bpx8