กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจัดการประกวด-มอบถ้วยพระราชทาน “รวมศิลป์ แผ่นดินสยาม”
(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เพื่อปลุกกระแสอนุรักษ์สืบสาน และสร้างมูลค่าเพิ่ม
ให้กับศิลปวัฒนธรรมไทย ณ จังหวัดร้อยเอ็ด
วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๖ นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม มอบหมายให้ นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน การประกวดดนตรีและการแสดงพื้นบ้าน ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พุทธศักราช ๒๕๖๖ “รวมศิลป์ แผ่นดินสยาม” (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ณ หอประชุมอาคาร ๖๐ พรรษา มหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะที่ทรงเป็นวิศิษฏศิลปิน และเพื่ออนุรักษ์ ส่งเสริม เผยแพร่ดนตรีและการแสดงพื้นบ้านให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และเกิดกระแสอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้แสดงความสามารถ รวมถึงยกระดับขีดความสามารถของดนตรี พัฒนาเทคนิคทางการแสดง ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับศิลปวัฒนธรรมไทย ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณฯ พระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศ ในการประกวดของแต่ละปีอย่างต่อเนื่อง
นางสาววราพรรณ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ตระหนักในคุณค่าของศิลปะการแสดงพื้นบ้าน ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการแสดงพื้นบ้านถูกรุกโดยสื่อเทคโนโลยีอันหลากหลาย จึงทำให้คนรุ่นใหม่ละเลยหรือลดความสนใจในการแสดงเหล่านี้ แต่หากได้มีการพัฒนาฟื้นฟู และปรับปรุงให้สอดคล้องกับยุคสมัยก็จะสามารถสร้างความนิยมและรายได้ให้แก่คณะนักแสดงได้อีกครั้ง ด้วยการแสดงพื้นบ้านแต่ละอย่างล้วนมีเสน่ห์และอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป ที่สำคัญการแสดงพื้นบ้านแต่ละประเภทจะเป็นเสมือนตัวแทนทางวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น นับได้ว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงมรดกภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ได้สั่งสมมาเป็นเวลายาวนาน ทั้งนี้การพัฒนาจะต้องไม่ละเลยและทอดทิ้งซึ่งเอกลักษณ์ดั้งเดิมของการแสดงพื้นบ้านแต่ละท้องถิ่น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคณะนักแสดงและศิลปินทั้งในปัจจุบันและอนาคตด้วย
รองอธิบดี สวธ. กล่าวต่อว่า การประกวดดนตรีและการแสดงพื้นบ้าน “รวมศิลป์ แผ่นดินสยาม” ได้จัดการประกวดไปแล้วที่ภาคกลาง ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคมที่ผ่านมา สำหรับครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองและยังมีกำหนดจัดการประกวด อีก ๒ ภูมิภาค คือ การประกวดรวมศิลป์พื้นบ้านภาคใต้ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จังหวัดสงขลา และการประกวดรวมศิลป์พื้นบ้านภาคเหนือ วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
พิธีเปิดงาน “รวมศิลป์ แผ่นดินสยาม” ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดร้อยเอ็ด
ภาพบรรยากาศในการประกวดฯ
สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลการประกวดรวมศิลป์พื้นบ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานฯ และเงินรางวัล ๑๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่
คณะขัตติยาสาเกตนคร จังหวัดร้อยเอ็ด
การแสดงของคณะขัตติยาสาเกตนคร
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๑ ได้รับถ้วยรางวัลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และเงินรางวัล ๘๐,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ คณะนาคะบรรเลง จังหวัดขอนแก่น
การแสดงของคณะนาคะบรรเลง
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๒ ได้รับถ้วยรางวัลปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และเงินรางวัล ๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ คณะสินรินทร์รวมใจ จังหวัดสุรินทร์
การแสดงของคณะสินรินทร์รวมใจ
รางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัลละ ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร จำนวน ๒ รางวัล ได้แก่
๑.
คณะต้นน้ำชี จังหวัดชัยภูมิ
การแสดงของคณะต้นน้ำชี
๒. คณะชมรมดนตรีไทย จังหวัดสุรินทร์ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตาแตรว
การแสดงของคณะชมรมดนตรีไทย โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดนบ้านตาแตรว
++++++++++
รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงภาพรวมของการประกวดดนตรีและการแสดงพื้นบ้าน “รวมศิลป์ แผ่นดินสยาม” (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
โอกาสนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เชิญชวนทุกท่านร่วมกันส่งกำลังใจ และติดตามการประกวด “รวมศิลป์ แผ่นดินสยาม” อีก ๒ ภูมิภาค ผ่านช่องทางของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมการประกวดหรือข้อมูลทางวัฒนธรรมได้ทาง
www.culture.go.th เฟซบุ๊ก กรมส่งเสริมวัฒนธรรมและ line@วัฒนธรรม
การประกวด-มอบถ้วยพระราชทาน “รวมศิลป์ แผ่นดินสยาม” (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ณ จังหวัดร้อยเอ็ด
นางสาววราพรรณ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ตระหนักในคุณค่าของศิลปะการแสดงพื้นบ้าน ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการแสดงพื้นบ้านถูกรุกโดยสื่อเทคโนโลยีอันหลากหลาย จึงทำให้คนรุ่นใหม่ละเลยหรือลดความสนใจในการแสดงเหล่านี้ แต่หากได้มีการพัฒนาฟื้นฟู และปรับปรุงให้สอดคล้องกับยุคสมัยก็จะสามารถสร้างความนิยมและรายได้ให้แก่คณะนักแสดงได้อีกครั้ง ด้วยการแสดงพื้นบ้านแต่ละอย่างล้วนมีเสน่ห์และอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป ที่สำคัญการแสดงพื้นบ้านแต่ละประเภทจะเป็นเสมือนตัวแทนทางวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น นับได้ว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงมรดกภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ได้สั่งสมมาเป็นเวลายาวนาน ทั้งนี้การพัฒนาจะต้องไม่ละเลยและทอดทิ้งซึ่งเอกลักษณ์ดั้งเดิมของการแสดงพื้นบ้านแต่ละท้องถิ่น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคณะนักแสดงและศิลปินทั้งในปัจจุบันและอนาคตด้วย
รองอธิบดี สวธ. กล่าวต่อว่า การประกวดดนตรีและการแสดงพื้นบ้าน “รวมศิลป์ แผ่นดินสยาม” ได้จัดการประกวดไปแล้วที่ภาคกลาง ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคมที่ผ่านมา สำหรับครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองและยังมีกำหนดจัดการประกวด อีก ๒ ภูมิภาค คือ การประกวดรวมศิลป์พื้นบ้านภาคใต้ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จังหวัดสงขลา และการประกวดรวมศิลป์พื้นบ้านภาคเหนือ วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานฯ และเงินรางวัล ๑๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ คณะขัตติยาสาเกตนคร จังหวัดร้อยเอ็ด
๑. คณะต้นน้ำชี จังหวัดชัยภูมิ