สวัสดีค่ะสมาชิกทุกท่าน
แนะนำตัวก่อนนะคะ เราและสามีกำลังจะอายุ30ค่ะ
จะมาขอความช่วยเหลือจากคนที่มีธุรกิจส่วนตัวหรือกำลังจะเริ่ม และคนที่ไม่ได้ทำงานประจำ หรือใครมีประสบการณ์ชีวิตด้านนี้รบกวนด้วยนะคะ ยินดีรับคำแนะนำทุกท่านค่ะ
สามีเราทำงานบริษัทต่างชาติค่ะ เป็นผู้บริหารระดับสูง
เราเคยทำงานประจำมา4ปีกว่า สามีให้ออกเพราะงานเราตอนนั้นใช้แรง ทำงานเป็นกะและรายได้น้อย
จนมาเปิดบริษัทด้วยกัน และตอนนี้เรายังสานต่อบริษัทที่เปิดด้วยกัน เราทำงานทุกวันโดยต่อยอดสกิลMarketingที่เคยได้มา และธุรกิจส่วนตัวถือว่าได้ใช้สกิลที่มีด้วย แต่ก็ไม่ได้เต็มที่มากเพราะงานบ้านด้วยค่ะ ธุรกิจตอนนี้ก็เอื่อยๆแต่ก็ทำเงินได้ค่ะ
โดยสามีคอยดูบ้าง อยู่ห่างๆ ไม่ได้ทำเต็มตัว โฟกัสเหมือนแต่ก่อนตอนที่เปิดบริษัทแรกๆ สาเหตุหลักคือไม่มีเวลา งานประจำเค้าก็หนักมากค่ะ
ย้อนความไปตอนที่เปิดธุรกิจแรกๆก็ลงทุนไปเยอะค่ะ รวมๆหลักล้าน ทำงานทุกวัน ทำงานหนักสุดๆ ใช้สมองแรงกายแรงใจ
เริ่มตั้งแต่รายได้เป็น0 จดทะเบียนบริษัท เริ่มจ้างพนักงาน เวลาผ่านไปจนรายได้เริ่มเยอะขึ้น เงินพอๆกับงานประจำของสามี เค้าเลยลาออกค่ะ
ตอนนั้นเราก็สนับสนุนเต็มที่ เป็นไงเป็นกัน พยายามใช้จ่ายประหยัด เพราะเราคิดว่าเพื่ออนาคต และสามีไม่ต้องทำงาน9-5 แต่เงินเก็บเริ่มหมด เพราะนำเงินไปต่อยอดลงทุนกับบริษัท (ซึ่งทุกวันนี้ยังเป็นประโยชน์ ไม่เสียเปล่า)
สรุปตอนนั้นเราก็ช่วยกันทำงาน แต่ความเครียดก็เริ่มทวีคูณขึ้น พอสามีเราเห็นเราเครียดเรื่องเงิน ไม่มีความสุข ทำให้ทั้งคู่เริ่มหาทางออกเพราะอยู่แบบนั้นก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ประจวบเหมาะ ด้วยความโชคดีหรืออะไรก็ไม่รู้นะคะ บริษัทเก่าสามีติดต่อกลับมาพร้อมยื่นข้อเสนอให้กลับไปทำงานค่ะ เพิ่มเงินให้2เท่า สาเหตุหลักคือสามีเราสามารถทำเงินบริษัทได้มาก ด้วยสถานการณ์การเงินของเราสองคนตอนนั้น สามีเราเลยตอบตกลง ความเครียดก็เริ่มหายไป ความสุขเริ่มกลับมา และกลับมาเก็บเงินได้อีกรอบ
ตอนนี้ความเครียดเริ่มกลับมาอีกรอบ กังวลหลายด้าน เพราะสามีจะลาออกแบบไม่กลับเดือนหน้า
และกลับมาสานต่อธุรกิจแบบเต็มตัว และตอนนี้วางแผนเก็บเงินไว้ใช้จ่ายอย่างน้อย1ปี
ในฐานะ สถานการณ์ของเรา ก็อดไม่ได้ที่จะไม่ให้กังวล ไม่ให้เครียด แต่สนับสนุนทักการตัดสินใจของเค้า
เค้าเคยพูดกับเราหลายรอบ "ว่าการทำงานให้คนอื่นมันไม่เหมือนกับการทำงานของตัวเอง passionเริ่มหมด เป็นเหมือนกับดัก ทำงานให้คนอื่นตลอดไปแล้วจะรอเอาเงินเดือนสูงๆทุกเดือน ยอมรับว่าไม่ง่ายที่จะปฏิเสธข้อเสนอน่าเย้ายวนใจ และเป็นการออกที่เสี่ยง แต่เรามาไกลขนาดนี้แล้ว"
และความประสบความสำเร็จของธุรกิจมีมากกว่า50% แต่ต้องทำงานหนักมากๆ และห้ามยอมแพ้ (เตือนตัวเอง^^)
เราเชื่อใจเค้านะคะว่าเค้าทำได้ เราต้องทำได้ เพราะเค้าเก่ง
แต่เราไม่รู้จะจัดการความรู้สึกยังไง เราไม่อยากเห็นแก่ตัวให้เค้าทำงานที่ไม่มีความสุขเพราะสงสารเค้าเวลาเค้ามาบ่นเรื่องงาน(ซึ่งน้อยมาก)
หลังจากเครียดมาหลายวัน วันนี้เริ่มดีขึ้น เพราะสามีเราบอกว่าถ้าทุกอย่างสุดท้ายไม่เวิคเค้าก็จะกลับไปหางานใหม่ ถึงจะรายได้น้อยกว่าเก่าก็ไม่เป็นไร
ลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ไปให้สุด
อยากขอคำแนะนำในฐานะเจ้าของธุรกิจ การใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยง ความกลัวต่างๆนานา การบริหารจัดการด้วยตัวเอง ไม่มีใครมาวางแผนให้ทุกอย่างทำเอง ขาดทุนหรือรายได้น้อย เจอวันดีวันร้าย จัดการกันยังไงบ้างคะ
ขอบคุณมากค่ะ
สามีกำลังจะออกจากงานรายได้สูงและออกมาทำธุระกิจเต็มตัว(อีกรอบ)
แนะนำตัวก่อนนะคะ เราและสามีกำลังจะอายุ30ค่ะ
จะมาขอความช่วยเหลือจากคนที่มีธุรกิจส่วนตัวหรือกำลังจะเริ่ม และคนที่ไม่ได้ทำงานประจำ หรือใครมีประสบการณ์ชีวิตด้านนี้รบกวนด้วยนะคะ ยินดีรับคำแนะนำทุกท่านค่ะ
สามีเราทำงานบริษัทต่างชาติค่ะ เป็นผู้บริหารระดับสูง
เราเคยทำงานประจำมา4ปีกว่า สามีให้ออกเพราะงานเราตอนนั้นใช้แรง ทำงานเป็นกะและรายได้น้อย
จนมาเปิดบริษัทด้วยกัน และตอนนี้เรายังสานต่อบริษัทที่เปิดด้วยกัน เราทำงานทุกวันโดยต่อยอดสกิลMarketingที่เคยได้มา และธุรกิจส่วนตัวถือว่าได้ใช้สกิลที่มีด้วย แต่ก็ไม่ได้เต็มที่มากเพราะงานบ้านด้วยค่ะ ธุรกิจตอนนี้ก็เอื่อยๆแต่ก็ทำเงินได้ค่ะ
โดยสามีคอยดูบ้าง อยู่ห่างๆ ไม่ได้ทำเต็มตัว โฟกัสเหมือนแต่ก่อนตอนที่เปิดบริษัทแรกๆ สาเหตุหลักคือไม่มีเวลา งานประจำเค้าก็หนักมากค่ะ
ย้อนความไปตอนที่เปิดธุรกิจแรกๆก็ลงทุนไปเยอะค่ะ รวมๆหลักล้าน ทำงานทุกวัน ทำงานหนักสุดๆ ใช้สมองแรงกายแรงใจ
เริ่มตั้งแต่รายได้เป็น0 จดทะเบียนบริษัท เริ่มจ้างพนักงาน เวลาผ่านไปจนรายได้เริ่มเยอะขึ้น เงินพอๆกับงานประจำของสามี เค้าเลยลาออกค่ะ
ตอนนั้นเราก็สนับสนุนเต็มที่ เป็นไงเป็นกัน พยายามใช้จ่ายประหยัด เพราะเราคิดว่าเพื่ออนาคต และสามีไม่ต้องทำงาน9-5 แต่เงินเก็บเริ่มหมด เพราะนำเงินไปต่อยอดลงทุนกับบริษัท (ซึ่งทุกวันนี้ยังเป็นประโยชน์ ไม่เสียเปล่า)
สรุปตอนนั้นเราก็ช่วยกันทำงาน แต่ความเครียดก็เริ่มทวีคูณขึ้น พอสามีเราเห็นเราเครียดเรื่องเงิน ไม่มีความสุข ทำให้ทั้งคู่เริ่มหาทางออกเพราะอยู่แบบนั้นก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ประจวบเหมาะ ด้วยความโชคดีหรืออะไรก็ไม่รู้นะคะ บริษัทเก่าสามีติดต่อกลับมาพร้อมยื่นข้อเสนอให้กลับไปทำงานค่ะ เพิ่มเงินให้2เท่า สาเหตุหลักคือสามีเราสามารถทำเงินบริษัทได้มาก ด้วยสถานการณ์การเงินของเราสองคนตอนนั้น สามีเราเลยตอบตกลง ความเครียดก็เริ่มหายไป ความสุขเริ่มกลับมา และกลับมาเก็บเงินได้อีกรอบ
ตอนนี้ความเครียดเริ่มกลับมาอีกรอบ กังวลหลายด้าน เพราะสามีจะลาออกแบบไม่กลับเดือนหน้า
และกลับมาสานต่อธุรกิจแบบเต็มตัว และตอนนี้วางแผนเก็บเงินไว้ใช้จ่ายอย่างน้อย1ปี
ในฐานะ สถานการณ์ของเรา ก็อดไม่ได้ที่จะไม่ให้กังวล ไม่ให้เครียด แต่สนับสนุนทักการตัดสินใจของเค้า
เค้าเคยพูดกับเราหลายรอบ "ว่าการทำงานให้คนอื่นมันไม่เหมือนกับการทำงานของตัวเอง passionเริ่มหมด เป็นเหมือนกับดัก ทำงานให้คนอื่นตลอดไปแล้วจะรอเอาเงินเดือนสูงๆทุกเดือน ยอมรับว่าไม่ง่ายที่จะปฏิเสธข้อเสนอน่าเย้ายวนใจ และเป็นการออกที่เสี่ยง แต่เรามาไกลขนาดนี้แล้ว"
และความประสบความสำเร็จของธุรกิจมีมากกว่า50% แต่ต้องทำงานหนักมากๆ และห้ามยอมแพ้ (เตือนตัวเอง^^)
เราเชื่อใจเค้านะคะว่าเค้าทำได้ เราต้องทำได้ เพราะเค้าเก่ง
แต่เราไม่รู้จะจัดการความรู้สึกยังไง เราไม่อยากเห็นแก่ตัวให้เค้าทำงานที่ไม่มีความสุขเพราะสงสารเค้าเวลาเค้ามาบ่นเรื่องงาน(ซึ่งน้อยมาก)
หลังจากเครียดมาหลายวัน วันนี้เริ่มดีขึ้น เพราะสามีเราบอกว่าถ้าทุกอย่างสุดท้ายไม่เวิคเค้าก็จะกลับไปหางานใหม่ ถึงจะรายได้น้อยกว่าเก่าก็ไม่เป็นไร
ลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ไปให้สุด
อยากขอคำแนะนำในฐานะเจ้าของธุรกิจ การใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยง ความกลัวต่างๆนานา การบริหารจัดการด้วยตัวเอง ไม่มีใครมาวางแผนให้ทุกอย่างทำเอง ขาดทุนหรือรายได้น้อย เจอวันดีวันร้าย จัดการกันยังไงบ้างคะ
ขอบคุณมากค่ะ