[CR] เที่ยวเกาะช้าง 4 วัน 3 คืน

ทริปนี้เป็นการผจญภัยครั้งแรกของพวกเราทั้ง 5 คนบนเกาะช้าง ใช้เวลา 4 วัน 3 คืน
สวัสดีค่ะพวกเราเป็นนักศึกษา รายวิชาท่องเที่ยว ของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านบางมด ที่พวกเราได้ไปท่องเที่ยวบนเกาะช้าง จังหวัดตราด เป็นระยะเวลา4วัน 3 คืน โดยการท่องเที่ยวของเราจะสอดคล้องกับการท่องเที่ยวแบบ SDGs ต้องขอบอกก่อนเลยว่าการไปเที่ยวครั้งนี้แผนที่ว่างไว้คือพวกเราจะไปเกาะจิกแต่ด้วยทุนทรัพย์ทำให้เรามาเกาะช้างแทน งั้นเรามาฟังเรื่องราวการท่องเที่ยวของเราเลยดีกว่าค่ะ
 
วันที่ 21 เมษายน 2566
พวกเราเริ่มต้นออกเดินทางไปขนส่งเอกมัยถึงเวลาประมาณ 6.30 น.

แล้วได้ซื้อตั๋วไปกลับจากทัวข์บขส.จากขนส่งเอกมัยมาลงท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง

พวกเราเดินทางจากขนส่งเอกมัยเวลา 7.45น. ถึงท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง 13.45น.

ใช้เวลาข้ามมาถึงเกาะช้างเวลา 14.15 น. โดยมีพี่เจ้าของที่พักมารับไปโฮมสเตย์ ซึ่งโฮมสเตย์ที่เราได้จองไว้นั้นอยู่ห่างจากท่าเรือแค่ 350 เมตร

สำหรับที่พักของพวกเราในทริปนี้ พวกเราพักกันที่ เกาะช้างบ้านริมทะเล รีสอร์ท
พอเราไปถึงทางเข้าโฮมสเตย์แล้ว ถ้าตรงไปจะเป็นท่าเทียบเรือที่เป็นจุดที่ชาวบ้านใช้เวลาซื้อขายปลากัน แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายเข้าไปจะเป็นที่พักของพวกเรา ซึ่งจะเห็นได้ว่าบรรยากาศรอบๆ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เห็นทั้งวิวภูเขาและนํ้าทะเลที่ใสมากๆ ห้องพักติดกับทะเลมีสะพานเชื่อมไปยังห้องพัก แล้วออกเรือไปอีกนิดจะเป็นกระชังปลาที่ชาวบ้านใช้เลี้ยงปลายํ่าสวาทไว้ขายส่งออกกัน ให้ความรู้สึกคล้ายๆกับเราอยู่มัลดีฟไทยแลนด์กันเลยทีเดียว

ปล.พี่นางเจ้าของรีสอร์ทใจดีมากกกกก ให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน

เวลาประมาณ17.00 น.พวกเราได้เช่ามอเตอร์ไซจากที่พักไปเกาะช้างขวาได้แวะไปที่หาดทรายขาว
วันที่ 22 เมษายน 2566
 วันที่สองของพวกเราได้เดินทางไปทางเกาะช้างฝั่งซ้าย เพื่อไปชุมชนสลักคอกและสลักเพชร

และเราได้แวะกันที่บ้านรักกะลาเพื่อทำพวงกุญแจจากกะลา คุณป้าที่สอนพวกเราเล่าว่ากะลาที่นำมาทำเป็นกะลาที่มาจากชาวบ้านบนเกาะที่อยากมีรายได้เสริมจากอาชีพหลักก็หันมาทำ สิ่งของเครื่องใช้จากกะลามะพร้าว

วันที่ 23 เมษายน 2566
วันที่สามเป็นวันพักของพวกเราเช้านี้เราจะไปกินข้าวร้านนึงที่บังเอิญขับรถไปเจออยู่ที่เกาะช้างฝั่งขวา บอกเลยว่าคุ้มมากกก ทั้งราคาและปริมาณที่สอดคล้องกัน ตกปรกไม่จกตา

ขอแวะร้าน มารินค๊อฟฟี่ หาดทรายขาว Marin Coffee พักเหนื่อยก่อนแป๊บนึง พอดูราคาแล้วก็แอบสูงนิดนึง แต่ก็เป็นปกติของคาเฟ่ทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นที่เกาะช้างหรือแม้กระทั่งกรุงเทพก็ตาม

เราได้เดินทางไปบ้านบางเบ้า บอกเลยว่าเส้นทางน่ากลัวมากก ทั้งชันและสูงแต่ก็คุ้มกับบรรยากาศรอบๆ มองเห็นทะเลอันกว้างใหญ่ มีลมพัดตลอดเวลา

และพวกเราได้แวะไปที่ตลาดบ้านบางเบ้า บอกเลยว่าละลายทรัพย์มากกกกก มีอะไร น่าสนใจ หรือว่าขายอะไรบ้าง

หลังจากกลับมาจากบ้านบางเบ้า เราได้รับความอนุเคราะห์จากลุงเจ้าของกระชังปลาย่ำสวาท หรือ ปลากะรังจุดฟ้า หรือปลากุดสลาด  ให้เข้าไปดูวิธีการให้อาหาร การเลี้ยงปลาย่ำสวาท ที่ได้ยินราคาแล้วไม่กล้ากินเลย
อาหารมื้อเย็นวันที่สามของเรา คือเมนู ต้มหมูชะมวงหวาน จัดเป็นอาหารประจำจังหวัดตราด ที่เราได้วิธีการทำมาจากคุณแม่ของพี่เจ้าของที่พักของเรา ให้อนุเคราะห์มาสอนให้เราด้วยบอกเลยว่าอิ่ม อร่อย แปลกใหม่ ไม่เคยทานแบบนี้มาก่อน
วันที่ 24 เมษายน 2566
วันสุดท้ายบนเกาะช้าง เราได้ไปดูการขายปลาย่ำสวาทใกล้ๆที่พัก ซึ่งคนที่ขายก็คือคุณลุงเจ้าของกระชังปลาย่ำสวาทคนเมื่อวาน การซื้อขายจะเป็นเฉพาะที่ตัวใหญ่จะไปขายบนร้านปลาอาหารใหญ่ๆ ทั้งในกรุงเทพและชลบุรี ราคาขายส่งกี่โลละ 1200 บาท ขายปลีกกี่โลละ 1500 บาท

เที่ยงแล้วถึงเวลาเดินทางกรุงเทพ ลาก่อนเกาะช้าง
จากการเดินทางในครั้งนี้ เราได้รู้สึกยังไงบ้าง หรือว่าเกิดประสบการณ์ การเรียนรู้อย่างไรบ้าง
ดี ไม่ดี แปลกใหม่ ลองสะท้อนการเรียนรู้มาหน่อย
        หลังจากการเดินทางครั้งนี้ทำให้พวกเราได้ทราบว่าในการเดินทาง เราต้องมีการวางแผนการเดินทางก่อน เพราะจะช่วยให้การเดินทางของเราสะดวกมากขึ้นแต่ในครั้งนี้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น เนื่องจากเมื่อถึงวันที่เดินทางจริงๆและไปถึงสถานที่จริงแพลนการเดินทางของกลับใช้ไม่ได้ได้เลย แต่จากการที่แพลนการเดินทางของเราใช้งานไม่ได้ก็ทำให้เราเกิดทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าขึ้น ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปตามแผน เหตุการณ์แรกคือที่จริงทางกลุ่มไม่ได้จะเดินทางไปที่เกาะช้างแต่จะเดินทางไปที่เกาะพะงัน แต่เนื่องด้วยระยะทางและเวลาการเดินทางใช้เวลามากไปส่งผลทำให้มีเวลาในการทำงานน้อยทางกลุ่มเราจึงเปลี่ยนสถานที่มาเป็นเกาะช้างแทน เหตุการณ์ที่สองเมื่อไปถึงเกาะช้างเราวางแผนกันไว้ว่าจะใช้รถสองแถวในการเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ แต่เมื่อไปถึงและได้สอบถามราคาต่อเที่ยวตกอยู่เที่ยวละไม่ต่ำกว่า60บาท จึงทำให้เราต้องเปลี่ยนเป็นเช้ารถจักยานยนต์แทนเพราะประหยัดกว่า เหตุการณ์ที่สามคือสถานที่ที่เราจะไปดันติดต่อคนดูแลไม่ได้เราเลยจำเป็นต้องหาสถานที่ใหม่ ซึ่งสถานที่ใหม่ที่ได้คือ บ้านรักกะลา  
ที่เป็นสถานที่แสดงให้เห็นว่าคนบนเกาะนั้นยังคงนำเอาสิ่งที่ตนเองมีมาทำให้เป็นสินค้าประจำหมู่บ้านบนเกาะช้างและยังทำให้เกิดประสบการณ์การเป็นอยู่กับเพื่อนทั้งการใช้ชีวิต การเดินทาง พวกเราได้เรียนรู้สิ่งที่ดีคือการมีน้ำใจของคนไทยที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่คนก็พร้อมจะช่วยเหลือเสมอ แต่มันสิ่งที่ดีในการเดินทางครั้งนี้คือการได้ไปเจอผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติและวิถีชีวิตต่างๆของคนบนเกาะที่แสดงถึงการเป็นอยู่การกิน และสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับกลุ่มพวกเราคือปลาย่ำสวาท ที่ราคาเกินที่จะเอื้อมถึงและเป็นปลาซิกเนเจอร์ของเกาะช้างด้วย
ชื่อสินค้า:   GEN 441 เกาะช้าง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่