บันทึกเรื่องราวการเดินทางของพวกเรากลุ่มนานๆที เด็กดีจะออกบ้าน
สวัสดีทุกคนครับ วันนี้กลุ่มของพวกเราจะมารีวิวการไปเที่ยวที่ชุมชนเกาะพิทักษ์ จังหวัดชุมพร การท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในรายวิชา GEN441 จะเป็นการให้นักศึกษาจับกลุ่มและไป Backpack Trip กัน ซึ่งกลุ่มของพวกเราจะมีสมาชิกด้วยกันทั้งหมด 4 คน ในวันที่เราวางแผนว่าจะไปที่ไหนดีโดยรวมที่ทุกคนอยากก็คือภาคเหนือเพราะอากาศมันร้อนมากแต่ติดปัญหาตรงที่ช่วงนั้นภาคเหนือกำลังประสบปัญหาฝุ่น pm 2.5 ดังนั้นพวกเราจึงเลือกไปที่ทะเล~~กัน แต่ทะเลที่ไหนดีล่ะ เราจึงแยกย้ายกันหา จนได้มาเป็นที่ชุมชนเกาะพิทักษ์ จังหวัดชุมพร โดยการเดินทางไปสามารถที่จะนั่งรถไฟจากสถานีกลางบางซื่อ จังหวัดกรุงเทพ ไปลง สถานี หลังสวนที่ จังหวัดชุมพรได้เลย ในส่วนของที่พักนั้นพวกเราเลือกพักที่ บ้านโกงกางโฮมสเตย์ แค่ชื่อที่พักก็ฟิลธรรมชาติสุดๆ ถ้าพร้อมแล้วก็เชิญติดตามการเดินทางของพวกเราได้เลยครับ
Day 0 (21/04/2023) เริ่มต้นเดินทาง
จุดเริ่มต้นของพวกเราจะนัดหมายกันที่ “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” ชื่อเดิมจะเป็นสถานีกลางบางซื่อ โดยรถไฟจะออกจากกรุงเทพประมาณ 22:20 น. พวกเราจึงนัดกัน ไม่เกิน 22:00เพราะว่าเราไม่รู้ว่าการเดินทางในครั้งนี้เราไม่รู้เลยว่าการนั่งรถไฟต้องทำอะไรยังไงบ้างจึงเผื่อเวลาไว้ก่อน และทุกคนก็มาถึงพร้อมกันตามเวลาที่นัดหมาย พวกเราได้เดินหาชานชาลาที่จะพาเราไปชุมพรจึงเดินหาป้ายและถามฝ่ายบริการจนได้ที่นั่งรอขึ้นชานชาลา เมื่อใกล้ถึงเวลาที่รถไฟจะออกจะมีประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นรถไฟโดยจะมีผู้ตรวจสอบตั๋วรถไฟก่อนที่จะให้ผู้โดยสารขึ้นไปยังชานชาลา เมื่อขึ้นรถไฟก็หาที่นั่งของตัวเองบางคนอาจจะนั่งผิดที่บ้างถ้าตรงนั้นเป็นที่ของเราสามรถบอกคนที่นั่งอยู่ได้เลยไม่ต้องกลัวจากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตั๋วที่นั่งอีกรอบหนึ่งก่อนที่รถไฟจะออก เมื่อตรวจสอบเสร้จแล้วรถไฟก็ได้แล่นออกจากชานชาลา
บรรยากาศสถานีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ครับ หรืออีกชื่อคือ สถานีกลางบางซื่อ
Day 1 (22/04/2023)
08:00น. และแล้วรถไฟก็ได้มาถึงสถานี หลังวสวน จังหวัดชุมพร
พวกเราก็ได้ลงมายืดเส้นยืดสายหลังจากนั่งมาเป็นเวลานานแล้วก็ถามกันว่าเราจะไปกันยังไงต่อจึงถามชาวบ้านแถวนั้นว่ามีรถประจำทางพาไปที่ข้ามเรือเกาะพิทักษ์บ้างไหมจนได้คำตอบมาว่ามีแต่วินที่พาไปได้ซึ่งตกต่อคนแล้วเป็นเงินจำนวนเยอะเกินไปเราจึงติดต่อทางที่พัก ที่พักจึงส่งคนขับรถมารับไปยังเกาะแต่ว่าต้องรอถึงประมาณ 11 โมงซึ่งเป็นเวลาหลายชั่วโมงพวกเราจึงถามชาวบ้านว่าแถวนั้นมีร้านข้าวที่ไหนบ้างได้คำตอบมาว่าเดินไปฝั่งตรงข้ามจะมีร้านข้าวพวกเราก็เดินไปแต่สิ่งที่เจอคือร้านข้าวยังไม่เปิดเราจึงตัดสินใจเดินกันต่อไปโดยไม่รู้จุดหมายจนพบกับร้านข้าวแกงร้านหนึ่งพวกเราจึงรีบตรงไปที่ร้านนั้นเลยเพราะหิวกันมากๆ มีอาหารหลายอย่างน่ากินมาก มีทั้ง แกงส้ม น้ำพริก เครื่องจิ้มต่างๆ และยังมีอาหารอื่นๆอีกหลายอย่าง มื้อเช้านี้อิ่มท้องแล้วครับ กินไปคุยไปกับเจ้าของร้าน สรุปถูกคอกันเฉยครับ เจ้าขอร้านที่นี่เฟรนลี่ เป็นกันเอง พี่ๆเลยแนะนำที่ท่องเที่ยวหลายที่ให้พวกเราเลยครับ และที่เซอร์ไพรส์ไปกว่านั้นคือ..พี่เจ้าของร้านให้ยืมรถ รถอะไร ซาเล้งงงง จ้าาา
และแล้วเราก็ขี่รถซิ่งของเราไปถึง เกาะพิทักษ์ อย่างปลอดภัย บรรยากาศทางเข้าเกาะเงียบสงบ น้ำใส๊ใส สามารถมองเห็นตัวปลาได้เลย รู้สึกสัมผัสได้ถึงธรรมชาติของชาวเกาะจริงๆ รวมๆแล้วสวยสุดลูกหูลูกตามากครับ หลังจากนั้นเราก็นั่งเรือ มุ่งตรงไปที่บ้านพักของเรากันครับ บ้านพักของเราจะเป็นในรูปแบบโฮมสเตย์ เป็นแพแบบติดทะเล ชื่อว่า “บ้านโกงกางโฮมสเตย์” อยากจะบอกว่าเห็นบรรยายกาศได้แบบ 360 องศา ทัชใจมากครับ และที่พักแห่งนี้ยังมีตลาดอีกด้วย มีของขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อมัดย้อม หอยเน้นลาย กำไลเปลือกหอย โดยของที่ขายจะเป็นของชาวบ้านที่เอามาวางขายกัน และยังมี เซเว่นอิเลเฟนท เอ๊ะชื่อมันแปลกๆไปหรือเปล่าน้า ไม่ใช่เซเว่นเหมือนในเมืองนะครับ ที่นี่เป็นร้านสะดวกซื้อของชาวบ้านในเกาะนี้ มีของขายมากมาย น่าสนใจเลยทีเดียว
สำหรับวันแรก กิจกรรมเบาๆก่อนครับ ผมและเพื่อนๆได้มาศึกษาเกี่ยวกับการทำลอบดักปลาหมึก โดยลอบดักของที่นี่จะใช้เป็นใบเป้งในการทำ โดยจะครอบลงบนลอบ เพื่อให้ดักจับปลาหมึกไม่ให้หลุกออกจากที่ดักนั่นเอง พี่ๆที่นี่ให้ความรู้ดีมาก สอนวิธีการทำ ให้ลงมือทำเอง รู้สึกได้เรียนรู้วิถีชีวิตของที่นี่มากขึ้น ได้ลองทำอะไรที่แปลกใหม่ สนุกดีครับ
หลังจากที่พวกเราทำกิจกรรมกันเสร็จแล้ว ถึงเวลาปล่อยจอยกันแล้วครับ ตกเย็นผมกับเพื่อนๆก็ไปเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน พายเรือคายัคดูพระอาทิตย์ตกไปด้วยกันอย่างสบายใจ บอกเลยว่า ฟินสุดๆครับ ช่วงนี้เป็นช่วงที่พวกเราได้พักผ่อนพร้อมกันแบบสุดยอดไปเลยครับ อารมณ์นี้ครับ...คว่ำสิครับรออะไร
เป็นภาพที่มีเสียง
หลังจากเล่นน้ำกันเสร็จก็ได้เวลาอาหารมื้อเย็นที่พวกเรารอคอยกันแล้วครับ มีอาหารสดๆจากทะเล น่าอร่อยทั้งนั้นเลยครับ มีทั้ง กั้ง ปลา กุ้ง ปู ผมกับเพื่อนๆก็ไม่รอช้า อิ่มพุงกลางกันทุกคน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันพักผ่อนโดยที่นอนของเราจะนอนมุ้งและมีพัดลมอยู่ด้านนอก บรรยายไม่ร้อนเลย เพราะลมทะเลตอนกลางคืนอากาศดีมาก หลับปุ๋ยเลยครับ
Day 2 (23/4/2023)
ตื่นมาก็มีอาหารเช้ามาเสิร์ฟเลยครับ เมนูมื้อเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มปลา อร่อยมากอีกตามเคยครับ และเราก็ไปเดินเล่นรอบๆเกาะกัน ช่วง 9-10 โมง แวะอุดหนุนน้ำแข็งใสของคุณลุงกันสักหน่อย น่ากินมากเวอร์ ละก็นั่งชิงช้าคุยเล่นไปกินน้ำแข็งใสไป เสร็จแล้วก็กลับไปที่พัก มาถึงก็เจออาหารกลางวันมาเสิร์ฟอีกแล้ว มีแต่อาหารน่ากินทั้งนั้นเลย มีปลาทอด ปลาหมึกแบบจัดหนักจัดเต็ม จะบอกว่าอร่อยมาก ฉ่ำเวอร์ครับ
หลังจากอิ่มกันแล้ว พวกเราก็มาทำกิจกรรม ผ้ามัดย้อม ที่บ้านของป้าผา บ้านของป้าผาทำผ้ามัดย้อมขาย ป้าผาเป็นคนท้องถิ่นของที่นี่ครับ จึงมีความรู้และความชำนาญในการทำผ้ามัดย้อมอย่างมากครับ วันนี้พวกเรามาศึกษาการทำผ้ามัดย้อมจากป้าผากันครับ และที่จะเอาไปมัดย้อมมีหลายอย่างครับ เช่น หมวก กระป๋า แต่พวกเราเลือกเป็นเสื้อสีขาว อยากใส่เท่ๆครับ และการทำผ้ามัดย้อมของป้าผาสามารถสร้างรายได้ให้กับป้าผา และยังยกระดับกิจกรรมผ้ามัดย้อมและสร้างชื่อเสียงให้กับเกาะพิทักษ์ด้วยครับ สวยมั้ยครับเสื้อของพวกผม..
หลังจากนั้นป้าก็ให้เกร็ดความรู้พวกผมว่า เกาะพิทักษ์ เดิมมีชื่อเรียกว่า เกาะผีทัก เพราะว่าในสมัยก่อนมีชาวประมงออกเรือหาปลามาถึงบริเวณเกาะนี้ เล่ากันว่าเมื่อมองขึ้นฝั่งจะเห็นเงาคนกำลังกวักมือเรียก แต่พอเข้าไปใกล้ ๆ เกาะกลับไม่พบใคร ทำให้ชาวประมงพากันเรียก เกาะแห่งนี้ว่า "เกาะผีทัก" จนเมื่อมีชาวบ้านอยู่อาศัยบนเกาะจึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น "เกาะพิทักษ์" เพื่อความเป็นสิริมงคล ฟังไปแล้วพวกผมก็แอบขนลุกหน่อยๆนะครับ
ช่วง 18.30 น. พวกเราก็ออกไปไดหมึกกัน โดยพี่เปิ้ลจะเป็นคนพาไปไดหมึกและเป็นผู้ดูแลตลอดการเดินทางของเราครับ ใช้เวลาในการไดหมึกพาสมควรครับ อยากกินหมึกสดๆต้องอดใจรอหน่อยนะครับ หมึกที่เราตกได้จะเอาไปทำเป็นอาหารมื้อเย็นครับ แค่คิดก็หิวแล้ว
Day 3 (24/4/2023) Last day Trip
วันสุดท้ายของพวกเราสำหรับเกาะพิทักษ์แล้วครับ ได้เวลาเดินทางกลับแล้วครับ ความประทับใจของพวกเราในการมาเกาะพิทักษ์ในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแต่มีความสุขที่ได้ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่เป็นการที่เราได้รู้จักกับคนมากมาย ได้พูดคุยกับคนที่เราไม่รู้จักและรู้ว่าผู้คนที่นี่มีน้ำใจมากแค่ไหน คอยช่วยเหลือพวกเราตอนที่เกิดปัญหา ทั้งไม่มีรถ ไม่มีที่พักพิง แต่ทุกคนก็พร้อมที่จะยื่นมือมาช่วยทั้งๆที่รู้จักการได้ไม่นาน บางคนไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำแต่มาช่วยอย่างเต็มที่โดยไม่ได้หวังอะไร ประทับใจมากๆครับ และได้เจอคุณลุง คุณป้าบนเกาะที่น่ารักกับพวกเรามาก คอยดูแลพวกเราเป็นอย่างดี และยังได้เรียนรู้ภาษาวัฒนธรรมที่แตกต่างกันแต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ ได้ลองใช้ชีวิตจากที่ไม่เคยใช้มาก่อน เรียนรู้อาชีพของที่นี่การใช้ชีวิตของคนบนเกาะ พวกเขาเก่งกันมากๆ อยู่กันอย่างพอเพียงแต่มีความสุข และพวกเราได้ลองไปทำลอบ ได้ไปตกหมึก และทำให้เราได้รู้ว่าเกาะพิทักษ์แห่งนี้ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพราะมีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และยังใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอีกด้วยครับ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าครับ..
สรุปค่าใช้จ่ายการเดินทางครั้งนี้ของพวกเรา
ค่าที่พัก 1800 ต่อคน รวมอาหาร 3 มื้อ
ค่ารถไฟ 1174 รวมทั้งไปและกลับ ขบวนรถไปด่วนพิเศษ
ค่ารถไปท่าเรือ 1000 บาท รวม 6 คน ตกคนละ 167 ค่าเหมาเรือไปไดหมึก 1000 บาท ตกคนละ 167
ค่าเสื้อมัดย้อมคนละ 200 ต่อคน
*ไม่รวมค่าใช้จ่ายจิปาถะของแต่ละคนครับ*
ไปติดตามชมความสนุกและความตลกของพวกเราได้ใน Youtube ต่อนะครับ
[CR] รีวิว การไปเที่ยวแบบชาวเกาะที่ "เกาะพิทักษ์" จังหวัดชุมพร
สวัสดีทุกคนครับ วันนี้กลุ่มของพวกเราจะมารีวิวการไปเที่ยวที่ชุมชนเกาะพิทักษ์ จังหวัดชุมพร การท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในรายวิชา GEN441 จะเป็นการให้นักศึกษาจับกลุ่มและไป Backpack Trip กัน ซึ่งกลุ่มของพวกเราจะมีสมาชิกด้วยกันทั้งหมด 4 คน ในวันที่เราวางแผนว่าจะไปที่ไหนดีโดยรวมที่ทุกคนอยากก็คือภาคเหนือเพราะอากาศมันร้อนมากแต่ติดปัญหาตรงที่ช่วงนั้นภาคเหนือกำลังประสบปัญหาฝุ่น pm 2.5 ดังนั้นพวกเราจึงเลือกไปที่ทะเล~~กัน แต่ทะเลที่ไหนดีล่ะ เราจึงแยกย้ายกันหา จนได้มาเป็นที่ชุมชนเกาะพิทักษ์ จังหวัดชุมพร โดยการเดินทางไปสามารถที่จะนั่งรถไฟจากสถานีกลางบางซื่อ จังหวัดกรุงเทพ ไปลง สถานี หลังสวนที่ จังหวัดชุมพรได้เลย ในส่วนของที่พักนั้นพวกเราเลือกพักที่ บ้านโกงกางโฮมสเตย์ แค่ชื่อที่พักก็ฟิลธรรมชาติสุดๆ ถ้าพร้อมแล้วก็เชิญติดตามการเดินทางของพวกเราได้เลยครับ
Day 0 (21/04/2023) เริ่มต้นเดินทาง
จุดเริ่มต้นของพวกเราจะนัดหมายกันที่ “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” ชื่อเดิมจะเป็นสถานีกลางบางซื่อ โดยรถไฟจะออกจากกรุงเทพประมาณ 22:20 น. พวกเราจึงนัดกัน ไม่เกิน 22:00เพราะว่าเราไม่รู้ว่าการเดินทางในครั้งนี้เราไม่รู้เลยว่าการนั่งรถไฟต้องทำอะไรยังไงบ้างจึงเผื่อเวลาไว้ก่อน และทุกคนก็มาถึงพร้อมกันตามเวลาที่นัดหมาย พวกเราได้เดินหาชานชาลาที่จะพาเราไปชุมพรจึงเดินหาป้ายและถามฝ่ายบริการจนได้ที่นั่งรอขึ้นชานชาลา เมื่อใกล้ถึงเวลาที่รถไฟจะออกจะมีประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นรถไฟโดยจะมีผู้ตรวจสอบตั๋วรถไฟก่อนที่จะให้ผู้โดยสารขึ้นไปยังชานชาลา เมื่อขึ้นรถไฟก็หาที่นั่งของตัวเองบางคนอาจจะนั่งผิดที่บ้างถ้าตรงนั้นเป็นที่ของเราสามรถบอกคนที่นั่งอยู่ได้เลยไม่ต้องกลัวจากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตั๋วที่นั่งอีกรอบหนึ่งก่อนที่รถไฟจะออก เมื่อตรวจสอบเสร้จแล้วรถไฟก็ได้แล่นออกจากชานชาลา
บรรยากาศสถานีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ครับ หรืออีกชื่อคือ สถานีกลางบางซื่อ
Day 1 (22/04/2023)
08:00น. และแล้วรถไฟก็ได้มาถึงสถานี หลังวสวน จังหวัดชุมพร
พวกเราก็ได้ลงมายืดเส้นยืดสายหลังจากนั่งมาเป็นเวลานานแล้วก็ถามกันว่าเราจะไปกันยังไงต่อจึงถามชาวบ้านแถวนั้นว่ามีรถประจำทางพาไปที่ข้ามเรือเกาะพิทักษ์บ้างไหมจนได้คำตอบมาว่ามีแต่วินที่พาไปได้ซึ่งตกต่อคนแล้วเป็นเงินจำนวนเยอะเกินไปเราจึงติดต่อทางที่พัก ที่พักจึงส่งคนขับรถมารับไปยังเกาะแต่ว่าต้องรอถึงประมาณ 11 โมงซึ่งเป็นเวลาหลายชั่วโมงพวกเราจึงถามชาวบ้านว่าแถวนั้นมีร้านข้าวที่ไหนบ้างได้คำตอบมาว่าเดินไปฝั่งตรงข้ามจะมีร้านข้าวพวกเราก็เดินไปแต่สิ่งที่เจอคือร้านข้าวยังไม่เปิดเราจึงตัดสินใจเดินกันต่อไปโดยไม่รู้จุดหมายจนพบกับร้านข้าวแกงร้านหนึ่งพวกเราจึงรีบตรงไปที่ร้านนั้นเลยเพราะหิวกันมากๆ มีอาหารหลายอย่างน่ากินมาก มีทั้ง แกงส้ม น้ำพริก เครื่องจิ้มต่างๆ และยังมีอาหารอื่นๆอีกหลายอย่าง มื้อเช้านี้อิ่มท้องแล้วครับ กินไปคุยไปกับเจ้าของร้าน สรุปถูกคอกันเฉยครับ เจ้าขอร้านที่นี่เฟรนลี่ เป็นกันเอง พี่ๆเลยแนะนำที่ท่องเที่ยวหลายที่ให้พวกเราเลยครับ และที่เซอร์ไพรส์ไปกว่านั้นคือ..พี่เจ้าของร้านให้ยืมรถ รถอะไร ซาเล้งงงง จ้าาา
และแล้วเราก็ขี่รถซิ่งของเราไปถึง เกาะพิทักษ์ อย่างปลอดภัย บรรยากาศทางเข้าเกาะเงียบสงบ น้ำใส๊ใส สามารถมองเห็นตัวปลาได้เลย รู้สึกสัมผัสได้ถึงธรรมชาติของชาวเกาะจริงๆ รวมๆแล้วสวยสุดลูกหูลูกตามากครับ หลังจากนั้นเราก็นั่งเรือ มุ่งตรงไปที่บ้านพักของเรากันครับ บ้านพักของเราจะเป็นในรูปแบบโฮมสเตย์ เป็นแพแบบติดทะเล ชื่อว่า “บ้านโกงกางโฮมสเตย์” อยากจะบอกว่าเห็นบรรยายกาศได้แบบ 360 องศา ทัชใจมากครับ และที่พักแห่งนี้ยังมีตลาดอีกด้วย มีของขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อมัดย้อม หอยเน้นลาย กำไลเปลือกหอย โดยของที่ขายจะเป็นของชาวบ้านที่เอามาวางขายกัน และยังมี เซเว่นอิเลเฟนท เอ๊ะชื่อมันแปลกๆไปหรือเปล่าน้า ไม่ใช่เซเว่นเหมือนในเมืองนะครับ ที่นี่เป็นร้านสะดวกซื้อของชาวบ้านในเกาะนี้ มีของขายมากมาย น่าสนใจเลยทีเดียว
สำหรับวันแรก กิจกรรมเบาๆก่อนครับ ผมและเพื่อนๆได้มาศึกษาเกี่ยวกับการทำลอบดักปลาหมึก โดยลอบดักของที่นี่จะใช้เป็นใบเป้งในการทำ โดยจะครอบลงบนลอบ เพื่อให้ดักจับปลาหมึกไม่ให้หลุกออกจากที่ดักนั่นเอง พี่ๆที่นี่ให้ความรู้ดีมาก สอนวิธีการทำ ให้ลงมือทำเอง รู้สึกได้เรียนรู้วิถีชีวิตของที่นี่มากขึ้น ได้ลองทำอะไรที่แปลกใหม่ สนุกดีครับ
หลังจากที่พวกเราทำกิจกรรมกันเสร็จแล้ว ถึงเวลาปล่อยจอยกันแล้วครับ ตกเย็นผมกับเพื่อนๆก็ไปเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน พายเรือคายัคดูพระอาทิตย์ตกไปด้วยกันอย่างสบายใจ บอกเลยว่า ฟินสุดๆครับ ช่วงนี้เป็นช่วงที่พวกเราได้พักผ่อนพร้อมกันแบบสุดยอดไปเลยครับ อารมณ์นี้ครับ...คว่ำสิครับรออะไร
เป็นภาพที่มีเสียง
Day 2 (23/4/2023)
ตื่นมาก็มีอาหารเช้ามาเสิร์ฟเลยครับ เมนูมื้อเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มปลา อร่อยมากอีกตามเคยครับ และเราก็ไปเดินเล่นรอบๆเกาะกัน ช่วง 9-10 โมง แวะอุดหนุนน้ำแข็งใสของคุณลุงกันสักหน่อย น่ากินมากเวอร์ ละก็นั่งชิงช้าคุยเล่นไปกินน้ำแข็งใสไป เสร็จแล้วก็กลับไปที่พัก มาถึงก็เจออาหารกลางวันมาเสิร์ฟอีกแล้ว มีแต่อาหารน่ากินทั้งนั้นเลย มีปลาทอด ปลาหมึกแบบจัดหนักจัดเต็ม จะบอกว่าอร่อยมาก ฉ่ำเวอร์ครับ
ช่วง 18.30 น. พวกเราก็ออกไปไดหมึกกัน โดยพี่เปิ้ลจะเป็นคนพาไปไดหมึกและเป็นผู้ดูแลตลอดการเดินทางของเราครับ ใช้เวลาในการไดหมึกพาสมควรครับ อยากกินหมึกสดๆต้องอดใจรอหน่อยนะครับ หมึกที่เราตกได้จะเอาไปทำเป็นอาหารมื้อเย็นครับ แค่คิดก็หิวแล้ว
วันสุดท้ายของพวกเราสำหรับเกาะพิทักษ์แล้วครับ ได้เวลาเดินทางกลับแล้วครับ ความประทับใจของพวกเราในการมาเกาะพิทักษ์ในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแต่มีความสุขที่ได้ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่เป็นการที่เราได้รู้จักกับคนมากมาย ได้พูดคุยกับคนที่เราไม่รู้จักและรู้ว่าผู้คนที่นี่มีน้ำใจมากแค่ไหน คอยช่วยเหลือพวกเราตอนที่เกิดปัญหา ทั้งไม่มีรถ ไม่มีที่พักพิง แต่ทุกคนก็พร้อมที่จะยื่นมือมาช่วยทั้งๆที่รู้จักการได้ไม่นาน บางคนไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำแต่มาช่วยอย่างเต็มที่โดยไม่ได้หวังอะไร ประทับใจมากๆครับ และได้เจอคุณลุง คุณป้าบนเกาะที่น่ารักกับพวกเรามาก คอยดูแลพวกเราเป็นอย่างดี และยังได้เรียนรู้ภาษาวัฒนธรรมที่แตกต่างกันแต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ ได้ลองใช้ชีวิตจากที่ไม่เคยใช้มาก่อน เรียนรู้อาชีพของที่นี่การใช้ชีวิตของคนบนเกาะ พวกเขาเก่งกันมากๆ อยู่กันอย่างพอเพียงแต่มีความสุข และพวกเราได้ลองไปทำลอบ ได้ไปตกหมึก และทำให้เราได้รู้ว่าเกาะพิทักษ์แห่งนี้ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพราะมีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และยังใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอีกด้วยครับ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าครับ..
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้