เดินทางมาถึงภาค 10 แล้วนะ สำหรับหนังเรื่อง Fast and Furious ที่ตั้งแต่ภาค 6 มาก็เหมือนผสมกาวยางใส่ถุงแล้วดมกันตลอดเวลา เพราะหนังค่อนข้างออกไปทางโม้แบบไม่ต้องอ้างอิงเหตุผลและหลักการอะไรเลย แต่ในความกาวแต่ละภาค มันก็ยังสร้างความสนุกตื่นเต้นเร้าใจให้คนดูอยู่ได้ตลอด ถึงแม้ว่าดูจบแล้วคนดูอาจจะอุทานว่า WTF ไปกับฉากแอ็คชั่นและเนื้อเรื่องที่ออกมาก็ตาม
  
 
สำหรับภาคนี้ หนังโยงเรื่องมาจาก Fast Five ที่เป็นเรื่องราวการล้างแค้นของ ดันเต้ เรเยส ลูกชายของ เฮอร์นัน เรเยส ตัวร้ายในภาคนั้น รอดตายอย่างปาฏิหารย์และกลับมาล้างแค้นด้วยการปั่นหัวทีมงานของ ดอมินิค โทเร็ตโต้ ให้โดนทั้งตามล่าและตามล้าง ให้ทรมานสาสมกับที่เคยทำไว้กับเขา
   

เรื่องราวมีแค่นี้จริงๆ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้ มันคือการล้างแค้นเพียวๆ โดยที่หนังก็พยายามจะไปดึงตัวละครภาคเก่าๆ เข้ามาเอี่ยวทั้งหมด เหมือนเป็น Avengers ของจักรวลา Fast ไปเลย โดยมีการสร้างตัวละครใหม่ขึ้นมาทดแทนตัวละครบางตัวที่บทหายไป หรือบทตายไปแล้ว ซึ่งตัวละครที่เยอะแยะมากมายนี้นั้น ก็ทำให้หนัมันกระจายบทบาทได้ไม่ดีเอาซะเลย
   

แต่ต้องยกให้คนนึงคือ Jason Momoa ในบทของ ดันเต้ เรเยส ที่ออกมาแย่งซีนชาวบ้านไปหมด ตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่โคตรโหด แต่มีความฮาและติงต๊องในตัวเอง ซึ่งมันสร้างสีสันให้กับหนังได้เยอะมาก โดยเฉพาะกับตัวละครเกือบยี่สิบตัวที่เราแทบจะจำชื่อไม่ได้เลย กลายเป็นว่าตัวละครใหม่ตัวนี้ทำให้เราจดจำได้ว่า ดันเต้ เรเยส คือตัวร้ายที่อยู่ใน Fast X
   

จากความผิดหวังในภาค 9 ทำให้ก่อนดูภาคนี้ผมดมกาว เอ้ย ผมวางหัวสมองโล่งๆ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะเลย แล้วก็นั่งดู โอเคหนังมันกลับมาเข้ารูปเข้ารอบได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ถือว่าดี การที่ต้นเรื่องหนัง flash back ไปที่ Fast Five ยิ่งการันตีกับคนดูได้เลยว่า พอจบจากภาค 5 ไป หนังมันออกทะเลไปสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นมาก โดยเฉพาะภาค 9 ที่เละตุ้มเป๊ะไม่มีชิ้นดี พอมาภาคนี้หนังพยายามตบหน้าตัวเองแล้วตบเรื่องราวให้กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้มากขึ้นกว่าเดิม
   

ฉากแอ็คชั่นยังคงเป็นจุดขายที่ดีมากๆ ถึงแม้ว่าคนดูจะรู้แหละว่ามันคือฉากที่โคตรโม้และไม่ต้องคิดถึงหลักความเป็นจริงทั้งทางด้านเหตุผล วิทยาศาสตร์ กลศาสตร์ หรือแม้แต่ศาสตร์อะไรก็ตาม แต่มันคือจินตนาการล้วนๆ ที่ผมก็ต้องบอกว่า ทึ่งไปกับจินตนาการของทีมงานที่หลายๆ ฉากพอดูแล้วว เออ มันคิดได้ยังไงวะว่า รถจะสามารถทำอะไรได้ขนาดนี้ ซึ่งเรียกว่า ฉากแอ็คชั่นของหนังชุดนี้ ดูยังไงก็ไม่มีวันเบื่อแน่ๆ
   

แต่ Fast ก็คือ Fast อะไที่เราไม่คิดว่ามันจะเกิด มันก็เกิด อะไรที่เราคิดว่ามันคือเรื่องบ้าบอ มันก็ถูกเอามาใส่ในหนัง ซึ่งหนังมีเซอร์ไพร์สใหญ่ให้เห็นแน่นอน บางคนอาจจะเดาถูกว่าคืออะไร ซึ่งผมไม่อยากโม้ว่า ผมเดาถูกในฉากสุดท้ายของเรื่อง แต่ไปดูกันเอาเองว่ามันมีเซอร์ไพร์สอะไร แต่รับรอง WTF แน่นอนครับ
   

ยังไงก็ตาม หลายคนอาจจะคิดว่าหนังมันกาวจนไม่ค่อยอยากจะดูหรือตื่นเต้นอะไรกับมันแล้ว แต่ผมว่า ดูมาตั้ง 9 ภาคแล้ว เมากาวมาเยอะแล้ว จะเมาอีกสัก 2-3 ภาคจะเป็นไรไป ลองทำสมองโล่งๆ แล้วดูมันครับ ก็จะสนุกและมันส์ไปอีกแบบ

ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai