สวัสดีค่ะ พวกเราเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยพระจอมธนบุรี(บางมด) ซึ่งพวกเราเนี่ยเรียกได้ว่าเป็น ว่าที่บัญฑิตที่อยากไปเที่ยวด้วยกันก่อนจะจบ พวกเราเลยได้ลงเรียนวิชา Gen441 Culture And Excursion หรือเจนท่องเที่ยว นั่นเอง และจังหวัดที่พวกเราไปกันก็คืออออออออ
สุราษฎร์ธานี
ซึ่งโจทย์ในการไปทริปท่องเที่ยวในรายวิชานี้เนี่ย ให้ไปแบบ Backpack ;-; ซึ่งส่วนตัว(คนที่เขียนกระทู้) ไม่เคยมีความคิดอยากไปเที่ยวแบบ Backpackเลย เป็นประสบการณ์แรกเลยก็ว่าได้ แถมอาจาร์ยยังมีคอนเซปต์ให้ด้วย ให้ไปแบบ "low price high experience" ในหัวตอนนั้นนี่แบบ โล่งสุด ไปไหนดีนะ สภาพจะเป็นไงนะ พอได้คุยกันพวกเราก็มีมติว่า "ลงใต้กันดีกว่า" และจังหวัดที่เราเลือกก็คือ
"ตำบลพูมเรียง อำเภอไชยา สุราษฎร์ธานี"
ทำไมถึงเลือกที่นี่กันน่ะหรอ ก็เพราะเพื่อนในกลุ่มเราเนี่ย มีบ้านอยู่ที่นี่นั่นเอง ซึ่งก็เป็นบ้านคุญปู่ ก็เป็นโอกาสที่ดีเลยที่ได้ทั้งมาเที่ยวและได้มาเยี่ยมคุณปู่ด้วย
แถมยังได้ไกด์พาเที่ยวไปในตัว เรียกว่าเป็น คนพื้นที่เลยแหละ
ทริปนี้พวกเราทั้ง 5 คนวางแผนไว้ว่า ค่าใช้จ่าย ที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเที่ยวแบบประหยัด โดยไม่ให้งบเกิน 3,000 บาท
เพื่อนๆที่อ่านคิดว่ายังไงกัน คิดว่าพวกเราจะทำได้ไหม มาดูกันนนนนน
Day1
วันแรกของการเดินทาง 16 เม.ย. 2566 พวกเราเลือกเดินทางกันโดยรถไฟ ซึ่งเลือกเป็นแบบ ชั้น 2 รถนั่งพัดลม ราคา 394 บาท
(มีเพื่อนในกลุ่มบอกอยากนั่งเอาฟิล-.-)
สถานีรถไฟที่พวกต้องไปขึ้น คือ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์(บางซื่อ) ซึ่งได้มีการซื้อล่วงหน้าที่ สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่
ตอนเพื่อนไปจองนี่ลุ้นสุด เพราะอะไรน่ะหรอ เหลือ 6 ที่สุดท้ายพอดี(ไปทั้งหมด 6 คน มีเพื่อนติดสอยไปด้วยอีกคน)
รอบที่พวกเราเลื่อนไปจะเป็น
สถานีต้นทาง : สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออก 17.30 น.
สถานีปลายทาง : สุราษฎรืธานี ถึง 05.25 น.
เอิ่ม แต่จริงๆควรซื้อไปลง ไชยา นะคะ พวกเราซื้อผิดค่ะ เลยเกินไปหน่อย555555555555
พวกเรานัดรวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยเพราะอยู่กันแถวนี้พอดี จากนั้นเรียกแท็กซี่ 2 คัน แบ่งไปกัน 3 คนต่อ1คัน
เราออกเดินทางกันตอน 16.30 น. ถึงสถานีรถไฟตอน 17.00 น. บอกเลยคำนวนมากันแล้ววว
รอไม่นานก็ถึงเวลา 17.20 น. รถไฟมาเป้ะ คนเข้าแถวรอกันอย่างมีระเบียบและว่องไว พอ17.30 น. ก็ออกเลย
ครั้งแรกของพวกเราตื่นเต้นสุด เป็นแบบพัดลมด้วย คิดไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไง55555555
เป็นแบบนี้ไงงง ไม่ได้แย่เลยนะ ดีกว่าที่คิด เบาะนั่งสบาย ระหว่างรอรถไฟออกก็แอบมีเหงื่อตกนิดหน่อย
นั่งไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่มาเก็บตั๋ว แถมยังมีอาหารมาขายให้อีกด้วย ราคาไม่แพงนะ 25-30 บาท แต่ถูกปากไหมก็อีกเรื่อง แหะๆ
ละก็รถไฟเนี่ยแวะทุกสถานี จังหวัดไหนมีของขึ้นชื่ออะไร ตอนรถไฟจอดก็มีคนขึ้นมาขายกันแบบบคึกคักทีเดียว เช่น สถานีเพชรบุรี ขายหม้อแกงงี้
จะบอกว่าเป็นการนั่งรถไฟที่ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้555555555 หนาวแบบสั่นนนน เป็นสิ่งที่ไม่ได้เตรียมใจไปเจอบอกเลย
ลมแรงมากกก เย็นมากกกกก
.
.
.
.
ขณะนี้เวลา 04.50 น. วันที่ 17 เม.ย.2566
หลังจากนั่งกันอย่างหลังขด หลังแข็ง ลมตีจนจะแข็ง ก็มีแววว่าใกล้ถึง รีบปลุกเพื่อน ละเตรียมตัวลงจากรถไฟ
เราลงกันที่สถานีไชยา ซึ่งรถไฟถึงสถานีตอน 05.10 น. ถือว่าเลทไม่เยอะ ให้อภัยได้
ตอนนี้พวกเรารู้สึกยังไงกันหรอ ทั้งง่วง ทั้งหิว 555555555555
เพื่อนในกลุ่มบอกนัดรถให้มารับตอน 07.00 น. โอมายก้อด ต้องรออีกเกือบ 2ชม. ทำไงดี
อ่าาาา แถวนั้นมีตลาดเช้าค่ะทุกคนนนน เป็นตลาดขายของสด ที่แอบมีร้านโจ้กให้เราประทังชีวิต พอกินเสร็จก็รีบโทรหาพี่ที่เป็นคนขับ
"พี่ครับ มารับพวกผมตอนนี้เลยได้ไหม" ตอนนี้เวลา 06.30 น. ใกล้เคียงอยู่ รอไม่นานเขาก็มารับที่แรกที่เราไปก็คือ บ้านของปู่เพื่อนในทริปนั้นเองงงง
กลับบ้านไปนอนเอาแรงรอเวลาไปทำกิจกรรมกันเถอะะะะ
รถที่เราเหมาก็มารับแล้วววว พี่คนขับชื่อพี่โอ๋ ซึ่งจะอยู่กับพวกเรา2วัน
แอบกระซิบนิดนึง ว่าที่อำเภอไชยา ไม่มีรถสาธารณะเลย ผู้คนที่นั่นมีรถเป็นของตัวเองทุกหลัง แอบมีวินมอไซค์ที่สถานีรถไฟ นั่นคือที่เดียวที่เห็นว่ามีรถรับจ้าง5555555555
พวกเราเลยได้ใช้บริการรถรับเหมาฟิลนักท่องเที่ยวสุดๆ เป็นรถสองแถว ที่เมื่อก่อนน่าจะมีให้ใช้แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว เปลี่ยนมาเป็นแบบเหมานั่นเอง
ซึ่งราคาก็จะอยู่ที่ 1200 ต่อวัน (แอบแรงไปนิสเพราะบางวันเราใช้ไม่ถึงครึ่งวันด้วยซ้ำ) แนะนำว่าเอารถไปเองอาจจะสะดวกกว่า
เบอร์ติดต่อ 089-5923630
พี่โอ๋เป็นฟิลไกด์ที่รู้จักทุกที่ ไปแวะที่ไหนก็รู้จักกับทุกคน สามารถไปส่งได้ทุกที่ แต่ห้ามเย็นเกินไป มีเวลากำหนด แอบเซ็งเพราะอยากไปนั่งริมเลชิวๆ
แต่หากใครต้องการรถรับส่งก็สามารถติดต่อได้เลย รวดเร็ว ตรงเวลาสุดๆ
ตอนนี้ทุกคนก็พร้อมแล้วววว เตรียมตัวเดินทางไปบ้านปู่ เพื่อไปนอนพักเอาแรง ก่อนเดินทางไปทำกิจกรรม
พวกเรานอนกันที่บ้านจนเต็มอิ่ม จนถึงเวลา 10.30 น. พวกเราก็เดินทางกันไปที่วัดพระบรมธาตุไชยา หรือที่มีชื่อเต็มว่าวัดพระบรมธาตุไชยา ราชวรวิหาร ต้องบอกว่าเป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นหนึ่งในสามของโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของภาคใต้
ตรงนี้ก็คือเจดีย์พระมหาธาตุ
พระพุทธรูปรอบ ๆ วิหารคด
พวกเราก็ได้มีโอกาสสักการะพระบรมธาตุเพื่อขอพร และทำความเคารพ และได้เดินดูรอบๆวัด แถมที่นี่ยังมี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา แต่ๆๆๆๆๆ วันที่พวกเราไปมันปิดดดดด เลยไม่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชม บอกเลยเสียดายมาก
สถานที่ต่อไปที่เราก็คือ ฟาร์มแสงเดช ไข่เค็มไชยา
พวกเราได้มีการติดต่อผ่านคุณปู่เพื่อนไว้มาแล้ว ว่าอยากมาลองทำไข่เค็มไชยา ที่เป็นของฝากและของขึ้นชื่อที่นี้
พอไปถึงก็ไป พูดคุย สอบถาม วิธีการทำ สออบถามหาความรู้ต่างๆ และได้ลงมือทำ
ตัวแทนพวกเราที่ได้ไปทำ 2 คน ก่อนลงมือทำคุณป้าก็ได้อธิบายวิธีการทำและสาธิตให้ดูก่อนที่จะให้เราทำ
อุปกรณ์การทำจะมี ไข่เป็ด ดินเหนียวของไชยา เกลือ และก็ขี้เถาแกลบ จากนั้นก็เอาดินกับเกลือผสมกัน และนำไข่เป็ดลงไปคลุกให้ทั่ว จากนั้นนำขึ้นและคลุกขี้เถาแกลบ และนำใส่ถุง ถุงละ4ฟอง ที่นี่จะขาย4ฟอง 35 บาท พอทำเสร็จคุณป้าแยกของพวกเราไว้เลย555555555 ไม่เอาไปขายแน่นอน
ส่วนตัวคิดว่าทำไม่ยากเลย ไม่คิดว่าทำง่ายขนาดนี้ ต่างพื้นที่ก็มีวิธีที่ดองตามแต่ละสูตร ใครมีโอกาสไปแถวนั้น ซื้อกลับมาชิมได้เลย รับรองไม่ผิดหวัง
ต่อไปปปป สถานที่3 ของวันนี้ ก็คืออออออ
สวนโมกขพลาราม หรือชื่อเรียกทางการว่า “วัดธารน้ำไหล”
นั่งรถจากวัดพระบรมธาตุมาไม่นานเราก็มาถึงที่ สวนโมกขพลาราม รถเราจอดที่หน้าวัดเลย พอจอดเสร็จเรียบร้อยพวกเราก็รีบเดินตรงเข้าไปทันที
บริเวณวัดมีความรมรื่น ภายในวัดปราศจากโบสถ์และศาลาอย่างวัดทั่วไป มีความรมรื่น บริเวณวัดใหญ่มากมีป้ายบอกสถานที่ภายในวัดตลอดทาง
เป็นสถานที่ที่น่าสนใจมาก ตอนไปมีการนั่งสมาชิกของแม่ชี ที่บอกเลยว่าสงบมาก ไปเดินที่นั่นรู้สึกสงบตามสภาพของวัด และยังมีจุดต่างๆให้เดินเข้าไปชมอีกด้วย อย่างเช่ร โรงมหรสพทางวิญญาณ ซึ่งประกอบด้วยภาพศิลป์ บนกวี คติธรรมคำสอนในพุทธศาสนานิกายต่างๆ ภาพพุทธประวัติ
ที่นี่ทั้งภายนอกและภายใน น่าสนใจมาก ส่วนตัวยังไม่เคยที่ไหนมาก่อน ที่สวนโมกพลาราม จึงเป็นแลนมาร์คที่หากใครได้ไปเที่ยวที่ สุราษธานี หรือที่ อำเภอไชยา ก็คงพลาดไม่ได้เลย ที่จะเข้าไปเยี่ยมชม
ตอนนี้ก็ถึงเวลาเย็นๆแล้ว พวกเราก็เริ่มหิวกัน ก่อนเข้าบ้านก็ให้พี่โอ๋ พาไปตลาดเย็นของไชยาก่อนเพื่อซื้อของที่แต่ละคนอยากกิน และหาของที่ขึ้นของที่ไชยา นั่นก็คือ ผัดไทไชยา ที่ปู่ของเพื่อนบอกว่าเป็นที่เดียวของไชยาที่ขาย
และนี่ก็คือออ มื้อเย็นของพวกเราทั้ง 6 คน ที่ได้มาจากตลาดก็มี ปูจ๋า (อร่อยมากก) ผัดไทไชยา (อันสีส้มๆ พึ่งเคยชิมครั้งแรกอร่อยแปลกๆ ต้องลองชิมดู) ยำหอยนางรมไปถึงใต้จะขาดหอยได้อย่างไร ละก็ยังมีผัดไทจากปู่ที่ทำมาเพิ่มให้พวกเราโดยเฉพาะ และสุดท้ายยย ยำไข่เค็ม พวกเราอยากลองเอาไข่เค็มจากที่แสงเดช มาลองทำอาหารกันที่บ้าน เมนูก็คือ ยำไข่เค็ม อร่อยนะว่าไม่ได้ อาจเป็นเพราะไข่เค็มเขาอร่อยอยู่แล้ว กินกับอะไรก็อร่อย5555555
หลังจากกินอิ่มก็เตรียมตัวกันไปอาบน้ำนอนนน เจอกันวันที่2 ค้าบบบบบ
[CR] [CR] พี่จะพาน้องล่องไชยา สุราษฎร์ธานี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้