เรื่องหุ้น ITV ผมว่าเป็นเรื่องปัญญาอ่อนสุด ๆ เลยครับ

อ้างรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3)
บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ

ข้อเท็จจริงคือ ITV นั้น  เป็นธุรกิจที่ได้สัมปทานจากรัฐ  เป็นสัมปทานออกอากาศทางทีวี
ที่รัฐยกเลิกสัญญาไปแล้วตั้งแต่ปี 2550     

โดยสถานะ  ITV สิ้นสภาพความเป็น "สื่อ" ไปแล้ว   ยุติการดำเนินการสื่อ  เลิกจ้างพนักงานไปเกือบยี่สิบปีแล้ว
การอ้างว่า  ทุกวันนี้   บริษัท ITV  ยังประกอบธุรกิจอยู่ นั้น   ปัญญาอ่อนสุด ๆ เลยครับ
จากสื่อสัมปทานออกอากาศทางโทรทัศน์  มาเป็นบริษัทรับจ้างทำโฆษณาประชาสัมพันธ์  มันคนละเรื่องจริง ๆ
คนละเรื่องที่จะไปเอาผิดตามมาตรา 98 (3)    มันฝืนข้อเท็จจริง  มันขัดกับความเหมาะสมทางกฎหมาย

ไอ้คนร้อง  ก็ฟลุคครั้งเดียว  คือเรื่องนายกฯสมัครทำกับข้าวออกทีวี
โดนพจนานุกรมเล่นซะจนโดนสั่งปลดออกจากตำแหน่งนายกฯ   สังคมก็เข้าใจดีว่าเป็นอย่างนั้นเพราะอะไร
ไม่ใช่เพราะการร้องและคนร้องมีหลักฐานแน่นหนาอะไรเลย
และหลังจากนั้น  ร้องอีกไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเรื่อง   ไม่เห็นได้ผลอะไร  ไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไรต่อใครสักเรื่อง

การตรวจสอบ กับ การหาเรื่อง  มันต่างกันลิบ
น่าอาย

โดยเฉพาะการเห็นคำว่า  school  ในข้อมูลการจบการศึกษาของพิธา
เท่านั้นแหละ  เอามาร้องถามทันทีว่าจบจากฮาวาร์ดจริงหรือเปล่า   น่าขายหน้าจริง ๆ
อายุปูนนี้  การศึกษาระดับนี้  เป็นนักร้องมาหลายปี   ตีความคำว่า  school แบบเด็กประถม แล้วร้องปาว ๆ   น่าอายมาก ๆ

พอเถอะครับคุณเรื่องไกร    
สังคมไทยอยากได้อะไรมากกว่านี้   ไม่ใช่การร้องเปะปะไร้สาระ   จะอาศัยแค่ช่องทางกฎหมายเล่นงาน  เหมือนชงรอให้มีคนคบ
สังคมรับไม่ได้แล้วครับ   จากคุณสมัครมาถึงพิธานี่   สั่งคมเปลี่ยนไปเยอะแล้วครับ  อึดอัดยอมรับจนรับไม่ไหวแล้ว   พอเหอะ

เรื่องหุ้น ITV นี่  หากบ้าจี้เล่นงานพิธาเข้าจริง ๆ     ปัญหาบ้านเมืองตามมาอีกเยอะ  ความขัดแย้งรุนแรงแน่
คนชื่อ เรืองไกร  รับผิดชอบอะไร ?

ข้อเท็จจริงไม่ใช่พิธาถือหุ้นสื่อ   ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญห้าม
แต่ยังพยายามหาเรื่องเล่นงาน     น่าสมเพชมากครับ
ถีบขาคู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่