วันพืชมงคลที่ผ่านมาเป็นวันหยุดงานของผู้เขียน
ประกอบกับอยากชวนเพื่อนไปมู ไหว้พระ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เดินทางใกล้ๆ ค่าใช้จ่ายน้อยๆ
และความสงสัยที่ว่า อากาศแบบนี้ รถติดแบบนี้ มองไปทางไหนก็มีรถทุกบ้าน แต่ถนนไม่มี
ยังมีใครนั่งรถเมลล์อยู่ไหมน้า? สุดท้ายจึงเป็นทริปที่เราแพลนขึ้นง่ายๆ
จ่ายหลักสิบ แถมไม่ต้องวุ่นวายหาที่จอดรถ ค่าใช้จ่ายรวบรวมตอนท้ายนะคะ
เริ่มทริปด้วยการขึ้นรถเมล์สาย 2 ที่สี่แยกบางนา เป็นรถปรับอากาศ เบาะกว้าง แอร์ฉ่ำ
คนไม่เยอะ ตั๋วมีแบบสแกนจ่ายด้วย รถออกจากป้ายสี่แยกบางนา 10:00 น.
ขึ้นทางด่วนใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึงปากคลองตลาด ค่าโดยสารคนละ 27.- บาท
ลงรถที่ปากคลองตลาดสถานที่แรกที่เราจะไปคือ ศาลเจ้าพ่อหอกลอง
ผู้เขียนเคยมาขอพรที่ศาลจ้าพ่อหอกลองปากคลองตลาด แล้วสำเร็จจึงมากราบขอบคุณท่าน
แล้วพาเพื่อนมากราบเพื่อเป็นสิริมงคล ศาลนี้สร้างขึ้นประมาณ 40 กว่าปี
เนื่องจากมีการเวียนคืนที่สำหรับสร้างหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ทำบุญดอกไม้ธูปเทียนไป 20.- บาท
เสร็จสิ้นภารกิจเราจะไปหาข้าวกินที่ปากคลองตลาด เดินมาทางโซนดอกไม้ปลอม
เจอร้านตามสั่งแอร์เย็น ราคาน่ารัก ชื่อร้านเสาวภา เบเกอรี่
ร้านไม่เล็กไม่ใหญ่ ราคาถูกแบบที่ไม่น่าเชื่อว่าอยู่ใจกลาง กทม.
คนท้องถิ่นเข้าตลอด อาหารสด รสชาติดี ปลาหมึกสดมาก เราลงเมนูไว้ให้ด้วยนะคะ
ติดกันมีร้านกาแฟสด เริ่มต้น 35.- บาท แต่ผู้เขียนจัดมาจากบ้านแล้ว เลยไม่ได้ลอง
อิ่มท้องแล้วมีแรงเดินดูดอกไม้ต่อจ้า เพื่อนฝากซื้อสำหรับจัดแจกัน
เลยได้ทิวลิปมา 10 ดอก ในราคา 280.- บาท
หมุดหมายต่อไปของเราคือการไปไหว้ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครค่ะ
ระหว่างทางเดินก็เจอกับอาคารสวยงามมากมาย ทั้งหอนาฬิกา ป้อมต่างๆ
สถานที่ราชการที่ยังเป็นอาคารเก่า ที่ได้รับการดูแลอย่างดี
ด้วยว่าเราจะไปศาสนสถานกัน กางเกงขาสั้นห้ามเข้าแน่นอน
เลยได้แวะซื้อกางเกงช้างหน้าวัดพระโพธิ์ ราคาตัวละ 120.- บาท
ระหว่างเดินไปศาลหลักเมืองฯ ผ่านวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)
สวยงามเกินห้ามใจไหว และด้วยอากาศที่ร้อนมากช่วงเที่ยงวัน จึงเข้าไปกราบพระให้หายเหนื่อย
วัดโพธิ์โด่งดังด้วยชื่อเสียงด้านการนวดแผนไทย บริเวณวัดมีรูปปั้นฤาษีดัดตนที่เป็นแบบแผน
การเรียนนวดแผนไทยในปัจจุบัน อีกสิ่งที่งดงามไม่แพ้กันคือสถาปัตยกรรมที่ผสมผสาน
ความงามแบบไทยและศิลปะการประดับกระเบื้องเคลือบแบบจีน รวมทั้งรูปปูนปั้นแบบศิลปะจีน
ที่รู้จักกันในนามว่า “ยักษ์วัดโพธิ์” พร้อมแล้วก็เข้าไปไหว้พระวัดโพธิ์เลยจ้า (เข้าชมฟรี)
เจ้าหน้าที่วัดแนะนำวิหารพระยืนศักดิ์สิทธิ์
เหมาะสำหรับผู้ต้องการมาขอพรให้ได้เข้ารับราชการ
ออกจากวัดโพธิ์ เราจะผ่านสถานที่สำคัญอย่าง กรมแผนที่ทหาร กระทรวงกลาโหม
หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน และรั้วพระบรมมหาราชวัง
หมุดหมายของเราคือศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร
ตั้งอยู่ด้านขวาของกระทรวงกลาโหม ตรงข้ามสนามหลวง
ภายในจำหน่ายดอกไม้ ธูป เทียน ผ้าสามสี น้ำมันตะเกียง ในราคาชุดละ 60.- บาท
ศาลหลักเมืองฯ จะมีจุดไหว้ด้วยกัน 5 จุด คือถวายดอกบัวพระพุทธ, ถวายดอกไม้ธูปเทียนพวงมาลัย
และห่มผ้าผ้าสามสีศาลหลักเมืองจำลอง, สักการะหลักเมืองของจริง, สักการะพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เจ้าพ่อหอกลอง เจ้าพ่อเจตคุปต์ พระกาฬไชยศรี และจบด้วยเติมน้ำมันตะเกียงเป็นจุดสุดท้าย
จากตัวศาลหลักเมืองมองเห็นพระบรมมหาราชวังได้ และนั่นคือจุดหมายต่อไปของเรา
เพียงเดินข้ามถนนมา จะพบแหล่งหลบร้อนที่ดีมากๆ คืออุโมงค์หน้าพระลาน
ภายในติดแอร์เย็นฉ่ำ และจัดนิทรรศการภาพถ่ายที่สวยงามในโอกาสต่างๆ
หายเหนื่อย คลายร้อนได้สักพัก ไปต่อกันที่วัดพระแก้วพระบรมมหาราชวังกันเลย
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) เป็นวัดที่สร้างขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง
ตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ สมัยอยุธยา วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก
เป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาท
ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และยังเป็นที่ตั้งของพิพิฒภัณฑ์วัดพระแก้ว และพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทอีกด้วย
ด้วยเพราะเป็นพระบรมหาราวัง การตรวจจากเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดเล็กน้อย
ด้านการแต่งกายที่สุภาพ ของมีคม และไฟแช็กห้ามนำเข้าไป
ที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ห้ามถ่ายภาพภายใน
คนเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีน อินเดีย และชาวตะวันตก
ภายในมีร้านดอยคำและโกลด์เด้นเพลสให้บริการ ส่วนตัวผู้เขียนติดใจโอเลี้ยง
ของโกลด์เด้นเพลสมาก แต่เสียดายวันนี้คนเยอะไม่มีโต๊ะว่างจึงอดไปตามระเบียบ
ขากลับเราเดินมารอรถเมล์สาย 2 เหมือนเดิมกลับบางนา
ป้ายขากลับอยู่ฝั่งสนามหลวงตรงข้ามศาลฎีกา รอบนี้ได้รถแอร์ที่ไม่ได้ใหม่มาก
เป็นรถหวานเย็น ไม่ขึ้นทางด่วน กลับทางถนนเส้นสุขุมวิท รถติดเล็กน้อย
แต่ก็สะดวกสบายเพราะไม่ได้ขับเอง 555 ค่าโดยสารคนละ 23.- บาท
สรุปรวมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ค่ารถ บางนา-ปากคลองตลาด 27 บาท.-
ค่าดอกไม้ธูปเทียนศาลเจ้าพ่อหอกลอง 20.- บาท
ค่าเครื่องสักการะศาลหลักเมือง 60.- บาท
ค่ารถ สนามหลวง-บางนา 23.- บาท
รวม 130.- บาท
นั่งรถเมล์ไหว้พระ กรุงเทพฯ [One day trip]
ประกอบกับอยากชวนเพื่อนไปมู ไหว้พระ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เดินทางใกล้ๆ ค่าใช้จ่ายน้อยๆ
และความสงสัยที่ว่า อากาศแบบนี้ รถติดแบบนี้ มองไปทางไหนก็มีรถทุกบ้าน แต่ถนนไม่มี
ยังมีใครนั่งรถเมลล์อยู่ไหมน้า? สุดท้ายจึงเป็นทริปที่เราแพลนขึ้นง่ายๆ
จ่ายหลักสิบ แถมไม่ต้องวุ่นวายหาที่จอดรถ ค่าใช้จ่ายรวบรวมตอนท้ายนะคะ
เริ่มทริปด้วยการขึ้นรถเมล์สาย 2 ที่สี่แยกบางนา เป็นรถปรับอากาศ เบาะกว้าง แอร์ฉ่ำ
คนไม่เยอะ ตั๋วมีแบบสแกนจ่ายด้วย รถออกจากป้ายสี่แยกบางนา 10:00 น.
ขึ้นทางด่วนใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึงปากคลองตลาด ค่าโดยสารคนละ 27.- บาท
ลงรถที่ปากคลองตลาดสถานที่แรกที่เราจะไปคือ ศาลเจ้าพ่อหอกลอง
ผู้เขียนเคยมาขอพรที่ศาลจ้าพ่อหอกลองปากคลองตลาด แล้วสำเร็จจึงมากราบขอบคุณท่าน
แล้วพาเพื่อนมากราบเพื่อเป็นสิริมงคล ศาลนี้สร้างขึ้นประมาณ 40 กว่าปี
เนื่องจากมีการเวียนคืนที่สำหรับสร้างหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ทำบุญดอกไม้ธูปเทียนไป 20.- บาท
เสร็จสิ้นภารกิจเราจะไปหาข้าวกินที่ปากคลองตลาด เดินมาทางโซนดอกไม้ปลอม
เจอร้านตามสั่งแอร์เย็น ราคาน่ารัก ชื่อร้านเสาวภา เบเกอรี่
ร้านไม่เล็กไม่ใหญ่ ราคาถูกแบบที่ไม่น่าเชื่อว่าอยู่ใจกลาง กทม.
คนท้องถิ่นเข้าตลอด อาหารสด รสชาติดี ปลาหมึกสดมาก เราลงเมนูไว้ให้ด้วยนะคะ
ติดกันมีร้านกาแฟสด เริ่มต้น 35.- บาท แต่ผู้เขียนจัดมาจากบ้านแล้ว เลยไม่ได้ลอง
อิ่มท้องแล้วมีแรงเดินดูดอกไม้ต่อจ้า เพื่อนฝากซื้อสำหรับจัดแจกัน
เลยได้ทิวลิปมา 10 ดอก ในราคา 280.- บาท
หมุดหมายต่อไปของเราคือการไปไหว้ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครค่ะ
ระหว่างทางเดินก็เจอกับอาคารสวยงามมากมาย ทั้งหอนาฬิกา ป้อมต่างๆ
สถานที่ราชการที่ยังเป็นอาคารเก่า ที่ได้รับการดูแลอย่างดี
ด้วยว่าเราจะไปศาสนสถานกัน กางเกงขาสั้นห้ามเข้าแน่นอน
เลยได้แวะซื้อกางเกงช้างหน้าวัดพระโพธิ์ ราคาตัวละ 120.- บาท
ระหว่างเดินไปศาลหลักเมืองฯ ผ่านวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)
สวยงามเกินห้ามใจไหว และด้วยอากาศที่ร้อนมากช่วงเที่ยงวัน จึงเข้าไปกราบพระให้หายเหนื่อย
วัดโพธิ์โด่งดังด้วยชื่อเสียงด้านการนวดแผนไทย บริเวณวัดมีรูปปั้นฤาษีดัดตนที่เป็นแบบแผน
การเรียนนวดแผนไทยในปัจจุบัน อีกสิ่งที่งดงามไม่แพ้กันคือสถาปัตยกรรมที่ผสมผสาน
ความงามแบบไทยและศิลปะการประดับกระเบื้องเคลือบแบบจีน รวมทั้งรูปปูนปั้นแบบศิลปะจีน
ที่รู้จักกันในนามว่า “ยักษ์วัดโพธิ์” พร้อมแล้วก็เข้าไปไหว้พระวัดโพธิ์เลยจ้า (เข้าชมฟรี)
เจ้าหน้าที่วัดแนะนำวิหารพระยืนศักดิ์สิทธิ์
เหมาะสำหรับผู้ต้องการมาขอพรให้ได้เข้ารับราชการ
ออกจากวัดโพธิ์ เราจะผ่านสถานที่สำคัญอย่าง กรมแผนที่ทหาร กระทรวงกลาโหม
หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน และรั้วพระบรมมหาราชวัง
หมุดหมายของเราคือศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร
ตั้งอยู่ด้านขวาของกระทรวงกลาโหม ตรงข้ามสนามหลวง
ภายในจำหน่ายดอกไม้ ธูป เทียน ผ้าสามสี น้ำมันตะเกียง ในราคาชุดละ 60.- บาท
ศาลหลักเมืองฯ จะมีจุดไหว้ด้วยกัน 5 จุด คือถวายดอกบัวพระพุทธ, ถวายดอกไม้ธูปเทียนพวงมาลัย
และห่มผ้าผ้าสามสีศาลหลักเมืองจำลอง, สักการะหลักเมืองของจริง, สักการะพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เจ้าพ่อหอกลอง เจ้าพ่อเจตคุปต์ พระกาฬไชยศรี และจบด้วยเติมน้ำมันตะเกียงเป็นจุดสุดท้าย
จากตัวศาลหลักเมืองมองเห็นพระบรมมหาราชวังได้ และนั่นคือจุดหมายต่อไปของเรา
เพียงเดินข้ามถนนมา จะพบแหล่งหลบร้อนที่ดีมากๆ คืออุโมงค์หน้าพระลาน
ภายในติดแอร์เย็นฉ่ำ และจัดนิทรรศการภาพถ่ายที่สวยงามในโอกาสต่างๆ
หายเหนื่อย คลายร้อนได้สักพัก ไปต่อกันที่วัดพระแก้วพระบรมมหาราชวังกันเลย
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) เป็นวัดที่สร้างขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง
ตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ สมัยอยุธยา วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก
เป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาท
ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และยังเป็นที่ตั้งของพิพิฒภัณฑ์วัดพระแก้ว และพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทอีกด้วย
ด้วยเพราะเป็นพระบรมหาราวัง การตรวจจากเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดเล็กน้อย
ด้านการแต่งกายที่สุภาพ ของมีคม และไฟแช็กห้ามนำเข้าไป
ที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ห้ามถ่ายภาพภายใน
คนเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีน อินเดีย และชาวตะวันตก
ภายในมีร้านดอยคำและโกลด์เด้นเพลสให้บริการ ส่วนตัวผู้เขียนติดใจโอเลี้ยง
ของโกลด์เด้นเพลสมาก แต่เสียดายวันนี้คนเยอะไม่มีโต๊ะว่างจึงอดไปตามระเบียบ
ขากลับเราเดินมารอรถเมล์สาย 2 เหมือนเดิมกลับบางนา
ป้ายขากลับอยู่ฝั่งสนามหลวงตรงข้ามศาลฎีกา รอบนี้ได้รถแอร์ที่ไม่ได้ใหม่มาก
เป็นรถหวานเย็น ไม่ขึ้นทางด่วน กลับทางถนนเส้นสุขุมวิท รถติดเล็กน้อย
แต่ก็สะดวกสบายเพราะไม่ได้ขับเอง 555 ค่าโดยสารคนละ 23.- บาท
สรุปรวมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ค่ารถ บางนา-ปากคลองตลาด 27 บาท.-
ค่าดอกไม้ธูปเทียนศาลเจ้าพ่อหอกลอง 20.- บาท
ค่าเครื่องสักการะศาลหลักเมือง 60.- บาท
ค่ารถ สนามหลวง-บางนา 23.- บาท
รวม 130.- บาท