เข้าเรื่องเลยนะครับ เรื่องนี้ไม่ใช่นิยายแต่เป็นชีวิตจริงของผม
ผมอายุ 42 ผมโสดมา 20 ปีแล้วครับ พ่อแม่เสียไปหมดแล้ว ญาติไม่มีต่างคนต่างแยกย้าย ไม่มีเบอร์ ไม่มีไลน์ ไม่รู้จะติดต่อยังไง
เพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตเหลืออยู่คนเดียวแต่ก็ 1-2 ปีเจอกันที
ผมสังเกตตัวเองว่า สมัยก่อนตอนพ่อแม่ยังอยู่ ผมเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มากกว่านี้ ชอบแบ่งปัน แต่หลังจากที่ท่านเสีย ผมก็เสียไปหมดทุกอย่าง ทั้งงาน เพื่อน คนที่คบ ๆ กันอยู่เกือบ ๆ จะได้เป็นแฟน ผมต้องอยู่ตัวคนเดียวในบ้านทาวเฮ้าเล็ก ๆ ย่านชานเมือง ไร้งาน ไร้อนาคต ไร้เงินเริ่มต้นชีวิต ผมหาเงินได้เดือนละ 1000 กว่าบาทจากการเก็บ Bitcoin ในเวปฟรี เวปคลิกโฆษณา เวปทำแบบสอบถาม ผมมีปัญญาหาได้แค่นี้ครับ ทุนก็ไม่มี
ไปสมัครโรงงานรอบ ๆ บ้านไม่มีใครรับเลย หางานในกรุงเทพก็ไม่ได้ เพราะอายุ 35 แล้ว ผู้สัมภาษณ์งานก็ให้เหตุผลมาตรง ๆ ว่า แก่ไป ผมเรียกเงินเดือนน้อย ๆ เขาก็ยังไม่เอา
ความหวังเดียวของผมในตอนนั้นคือ สอบข้าราชการ เพราะถ้าอายุยังไม่ 59 ยังไงก็ยังมีความหวังที่จะสอบได้
ผมเก็บตัวอยู่แต่ในห้องเกือบทั้งวัน อ่านหนังสือวันละ 10 ชั่วโมง หา Bitcoin วันละ 5 ชั่วโมง
ผมแทบไม่ได้พูดกับผู้คนเลย ยกเว้นเวลาสั่งกับข้าว ผมเริ่มมีปัญหาเรื่องการพูด เริ่มพูดติดอ่าง ปากขยับไม่ค่อยได้
ผมวนเวียนอยู่กับการสอบ สอบตกแล้ว ตกอีก ในที่สุดก็สอบ กพ ผ่านโดยใช้เวลา 5 ปี
และสอบเข้าทำงานในหน่วยงานราชการแห่งนึง ได้บรรจุตอนอายุ 40
ปัญหาเริ่มเกิดตอนทำงาน ผมกลายเป็นคนพูดน้อย พูดไม่ทัน ความคิดไปไวกว่าคำพูด พูดติด ๆ ขัด ๆ
และผมยังค้นพบว่าตัวเอง มีน้ำใจน้อยลง คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร หลังจากทำงานมาแล้ว 2 ปี ก็ยังไม่ดีขึ้น
แต่เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ทำงาน ก็ยังไม่มีใครว่าอะไร (หรือว่าแต่ผมไม่ได้ยิน) เพื่อนร่วมก็ยังปฏิบัติต่อผมดี
ผมมานั่งคิดดู เพราะเราอยู่คนเดียวมานานหรือเปล่า ทำให้เราเป็นแบบนี้
หรือเราโทษความซวยของชีวิต ความเหงาไม่ได้ ต้องโทษตัวเราเอง ทำให้เราเป็นแบบนี้
ผมหาเงินได้ ผมก็กิน เที่ยวคนเดียว เก็บเงิน แต่ไม่เก็บเผื่ออนาคต ไม่บริจาค ไม่ทำบุญ ไม่ให้ใครทั้งนั้น ทั้ง ๆ ที่ใจอยากจะให้ แต่ก็มีอีกใจบอกว่าเก็บไว้เถอะ
ทำบุญให้พ่อแม่ ก็น้อยครั้งมาก
ชีวิตในวัย 40 กว่า กับการอยู่ตัวคนเดียวมันค่อนข้างยาก เวลาผมไม่สบาย ผมป่วย ผมอ้วกในบ้าน ยังคิดเลยว่า ถ้าวันนึงเราล้มลงหัวกระแทกพื้นตายไป ใครจะมาพบศพ การคิดว่าตนเองถ้าต้องเป็นศพไร้ญาติ มันก็เศร้า ๆ หน่อย แต่คงไม่เดือนร้อนอะไรมากมั้งเพราะตอนนั้นผมก็ไม่อยู่แล้ว จะสนใจเรื่องในโลกมนุษย์ทำไม
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาได้นั้นย่อมแสดงว่าผมเองรู้ตัวแล้วว่าผมเป็นคนยังไง
และจะหาทางแก้ไขความเห็นแก่ตัวของผมต่อไป คิดว่าน่าจะมีหนทาง หรือท่านใดอยากแนะนำอะไรผมก็ยินดีครับ
กระทู้นี้เหมือนมาเล่าประสบการณ์ชีวิตให้ทุกท่านฟัง ขอบคุณที่มาอ่านเป็นเพื่อนแก้เหงาครับ
อยู่คนเดียวนาน ๆ จะทำให้คุณเห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตัวเอง (หรือเปล่า)
ผมอายุ 42 ผมโสดมา 20 ปีแล้วครับ พ่อแม่เสียไปหมดแล้ว ญาติไม่มีต่างคนต่างแยกย้าย ไม่มีเบอร์ ไม่มีไลน์ ไม่รู้จะติดต่อยังไง
เพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตเหลืออยู่คนเดียวแต่ก็ 1-2 ปีเจอกันที
ผมสังเกตตัวเองว่า สมัยก่อนตอนพ่อแม่ยังอยู่ ผมเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มากกว่านี้ ชอบแบ่งปัน แต่หลังจากที่ท่านเสีย ผมก็เสียไปหมดทุกอย่าง ทั้งงาน เพื่อน คนที่คบ ๆ กันอยู่เกือบ ๆ จะได้เป็นแฟน ผมต้องอยู่ตัวคนเดียวในบ้านทาวเฮ้าเล็ก ๆ ย่านชานเมือง ไร้งาน ไร้อนาคต ไร้เงินเริ่มต้นชีวิต ผมหาเงินได้เดือนละ 1000 กว่าบาทจากการเก็บ Bitcoin ในเวปฟรี เวปคลิกโฆษณา เวปทำแบบสอบถาม ผมมีปัญญาหาได้แค่นี้ครับ ทุนก็ไม่มี
ไปสมัครโรงงานรอบ ๆ บ้านไม่มีใครรับเลย หางานในกรุงเทพก็ไม่ได้ เพราะอายุ 35 แล้ว ผู้สัมภาษณ์งานก็ให้เหตุผลมาตรง ๆ ว่า แก่ไป ผมเรียกเงินเดือนน้อย ๆ เขาก็ยังไม่เอา
ความหวังเดียวของผมในตอนนั้นคือ สอบข้าราชการ เพราะถ้าอายุยังไม่ 59 ยังไงก็ยังมีความหวังที่จะสอบได้
ผมเก็บตัวอยู่แต่ในห้องเกือบทั้งวัน อ่านหนังสือวันละ 10 ชั่วโมง หา Bitcoin วันละ 5 ชั่วโมง
ผมแทบไม่ได้พูดกับผู้คนเลย ยกเว้นเวลาสั่งกับข้าว ผมเริ่มมีปัญหาเรื่องการพูด เริ่มพูดติดอ่าง ปากขยับไม่ค่อยได้
ผมวนเวียนอยู่กับการสอบ สอบตกแล้ว ตกอีก ในที่สุดก็สอบ กพ ผ่านโดยใช้เวลา 5 ปี
และสอบเข้าทำงานในหน่วยงานราชการแห่งนึง ได้บรรจุตอนอายุ 40
ปัญหาเริ่มเกิดตอนทำงาน ผมกลายเป็นคนพูดน้อย พูดไม่ทัน ความคิดไปไวกว่าคำพูด พูดติด ๆ ขัด ๆ
และผมยังค้นพบว่าตัวเอง มีน้ำใจน้อยลง คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร หลังจากทำงานมาแล้ว 2 ปี ก็ยังไม่ดีขึ้น
แต่เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ทำงาน ก็ยังไม่มีใครว่าอะไร (หรือว่าแต่ผมไม่ได้ยิน) เพื่อนร่วมก็ยังปฏิบัติต่อผมดี
ผมมานั่งคิดดู เพราะเราอยู่คนเดียวมานานหรือเปล่า ทำให้เราเป็นแบบนี้
หรือเราโทษความซวยของชีวิต ความเหงาไม่ได้ ต้องโทษตัวเราเอง ทำให้เราเป็นแบบนี้
ผมหาเงินได้ ผมก็กิน เที่ยวคนเดียว เก็บเงิน แต่ไม่เก็บเผื่ออนาคต ไม่บริจาค ไม่ทำบุญ ไม่ให้ใครทั้งนั้น ทั้ง ๆ ที่ใจอยากจะให้ แต่ก็มีอีกใจบอกว่าเก็บไว้เถอะ
ทำบุญให้พ่อแม่ ก็น้อยครั้งมาก
ชีวิตในวัย 40 กว่า กับการอยู่ตัวคนเดียวมันค่อนข้างยาก เวลาผมไม่สบาย ผมป่วย ผมอ้วกในบ้าน ยังคิดเลยว่า ถ้าวันนึงเราล้มลงหัวกระแทกพื้นตายไป ใครจะมาพบศพ การคิดว่าตนเองถ้าต้องเป็นศพไร้ญาติ มันก็เศร้า ๆ หน่อย แต่คงไม่เดือนร้อนอะไรมากมั้งเพราะตอนนั้นผมก็ไม่อยู่แล้ว จะสนใจเรื่องในโลกมนุษย์ทำไม
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาได้นั้นย่อมแสดงว่าผมเองรู้ตัวแล้วว่าผมเป็นคนยังไง
และจะหาทางแก้ไขความเห็นแก่ตัวของผมต่อไป คิดว่าน่าจะมีหนทาง หรือท่านใดอยากแนะนำอะไรผมก็ยินดีครับ
กระทู้นี้เหมือนมาเล่าประสบการณ์ชีวิตให้ทุกท่านฟัง ขอบคุณที่มาอ่านเป็นเพื่อนแก้เหงาครับ