‘พิธา’ แถลงใหญ่ทำเอ็มโอยูวันนี้ เผยอีก 2 พรรคขอร่วมรบ. รวม 313 เสียงเป็นรัฐบาล
https://www.matichon.co.th/politics/news_3986019
 
 
‘พิธา’ แถลงใหญ่ทำเอ็มโอยูวันนี้ เผยอีก 2 พรรคขอร่วมรบ. รวม 313 เสียงเป็นรัฐบาล
 
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะแกนนำการจัดตั้งรัฐบาล นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค พร้อมแกนพรรคก.ก. ได้เชิญพรรคฝ่ายประชาธิปไตย 5 พรรค ร่วมดินเนอร์ที่ร้าน chez miline เขตดุสิต ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, พรรคเสรีรวมไทย (สร.) นำโดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรค, พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค, พรรคประชาชาติ (ปช.) นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรค และพรรคเป็นธรรม นำโดย นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรค, นายกัณวีร์ สืบแสง ว่าที่ส.ส.พรรค
  
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำทั้ง 6 พรรคใช้เวลาหารือร่วมกันประมาณ 2 ชั่วโมง บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น กระทั่งเวลา 18.00 น. การหารือได้เสร็จสิ้น ก่อนร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำ นายพิธาพูดเพียงสั้นๆ ว่า “ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี และจะนัดแถลงข่าวอย่างเป็นการอีกครั้งในวันที่ 18 พฤษภาคม เวลา 10.00 น.”
 
จากนั้นเวลา 18.10 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้เดินทางมาที่ร้านอาหาร โดยนายปิยบุตร กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับการประชุม เป็นเพียงผู้ช่วยหาเสียง พวกเขามาฉลองชัยจึงชวนมาทานข้าวด้วยเท่านั้น

ต่อมาเวลา 20.00 น. นายพิธา พร้อมแกนนำได้เดินทางออกจากร้าน พร้อมกล่าวย้ำอีกครั้งว่า ขอให้รอฟังแถลงในวันที่ 18 พฤษภาคม ที่โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ จะมีความชัดเจนในระดับหนึ่ง
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพูดคุยเป็นที่พอใจหรือไม่ นายพิธายิ้มและกล่าวว่า พอใจและชื่นมื่น พอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ อย่างที่บอกว่าอยากให้มีส่วนร่วมทั้งความชัดเจนและมีเสถียรภาพในการจัดตั้งรัฐบาล
 
เมื่อถามว่า ประชาชนค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี นายพิธากล่าวว่า ขอให้มั่นใจในเอกภาพและความชัดเจนของภาคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันว่าสบายใจได้ ไม่มีความไม่แน่นอนอะไรสิ่งที่น่าวิตกกังวล จะพยายามให้มีเสถียรภาพบริหารประเทศให้มากที่สุดและเร็วที่สุด ย้ำว่าไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองแน่นอน
 
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่ามีอีก 2 พรรคจะเข้าร่วม คือพรรคพลังสังคมใหม่ 1 ที่นั่ง และพรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 ที่นั่ง โดยประสานตรงไปยังนายพิธา เพื่อขอเข้าพรรคร่วมรัฐบาล
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทำให้ขณะนี้มีพรรคร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเป็น 8 พรรค รวม 313 ที่นั่ง โดยในวันที่ 18 พฤษภาคม การหารือการทำเอ็มโอยู จะมีอยู่ 2 แผ่น ในเนื้อหาจะมีเรื่องให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการรื้อสัญญาผลิตไฟฟ้าที่ทำให้ค่าไฟแพง และในเอ็มโอยูจะไม่มีเรื่องการแก้ไข มาตรา 112 และเรื่องนิรโทษกรรม เกรงว่าจะมีการต่อต้านรุนแรงส่งผลให้การจัดตั้งรัฐบาลมีปัญหา ดังนั้นจะลดเงื่อนไขนี้ลง เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้ก่อนแล้วค่อยมาคุยกันในภายหลัง ทั้งนี้หัวหน้าพรรคทั้ง 8 ได้กำหนดวันเซ็นเอ็มโอยูในวันที่ 22 พฤษภาคม เป็นวันครบรอบ 9 ปีในการทำรัฐประหาร
 
รายงานข่าวแจ้งว่า แกนนำพรรคต่างๆ ยังหารือกันถึงเรื่องเสียงที่จะหามาสนับสนุนให้เกิน 376 เสียงทั้งจาก ส.ว.และ ส.ส.พรรคอื่นๆ โดยแกนนำบางคนเสนอกับทางพรรคก้าวไกลว่าอย่าปิดกั้นจำกัดตัวเองมากเกินไปว่าจะไม่เอาเสียงจากพรรคอื่นๆ เช่น พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ควรจะเปิดทางไว้บ้าง

---

‘พิธา’ ตอบ ‘ซีเอ็นเอ็น’ ประเทศไทยต้องปลอดทหาร ยุติการผูกขาด มุ่งกระจายอำนาจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3986049

‘พิธา’ ตอบ ‘ซีเอ็นเอ็น’ ประเทศไทยต้องปลอดทหาร ยุติการผูกขาด มุ่งกระจายอำนาจ
 
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกอากาศสดไปทั่วโลก ซาอิน แอชเชอร์ ผู้ประกาศข่าวหญิงได้สัมภาษณ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและว่าที่นายกคนที่ 30 ของประเทศไทย ในรายการ Quest Means Business เป็นภาษาอังกฤษ ความยาว 8.39 นาที ระบุหัวข้อว่า “Head of Thailand’s victorious Move Forward Party speaks to Zain Asher” หรือหัวหน้าพรรคก้าวไกลเพิ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง
 
นายพิธาให้สัมภาษณ์ว่า นโยบายหลักในการทำงานของรัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นมี 3 ประการ คือการให้ประเทศไทยปลอดทหาร ยุติการผูกขาด และมุ่งกระจายอำนาจ โดยทั้งแนวทาง 3 ด้าน เป็นหนทางเดียวทำให้ไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และจะกลับมาทำงานได้ตามปกติอีกครั้ง ประเทศไทยจะต้องกลับไปสู่เวทีโลก
 
พรรคก้าวไกลได้เสนอการแก้ไขกฎหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต่างๆ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การปรับลดงบประมาณ ทำให้กองทัพมีความโปร่งใส รับผิดชอบมากขึ้น และลดจำนวนนายพลในกองทัพลง ความสำเร็จของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่า นโยบายเหล่านี้ไม่เพียงแต่โดนใจคนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนทั้งสังคมด้วย และขณะนี้กำลังเจรจากับพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม และได้เสียงข้างมากเพียงพอในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดตั้งรัฐบาล

นายพิธายังกล่าวตอบผู้ประกาศข่าวหญิงซีเอ็นเอ็น กรณีมีการตั้งข้อสังเกตถึงการออกเสียงของ ส.ว.ในการเลือกนายรัฐมนตรี ว่า “ส.ว.ไม่ได้สามัคคีกันเหมือนเมื่อ 4 ปีก่อนที่โหวตเลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมตรี นอกจากนี้ ส.ส.ยังต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในความเห็นของสาธารณะที่พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2562
 
“หากเรายังคงสื่อสารและอธิบายสิ่งที่เรากำลังพยายามทำเพื่อประเทศ และเรามีความหมายต่ออนาคตของประเทศนี้มากเพียงใด ผมคิดว่านั่นไม่ใช่อุปสรรคสำคัญ และราคาที่ต้องจ่ายกับการต่อต้าน 25 ล้านเสียงของผู้มีสิทธิออกเสียงในไทยมันหนักหนาสาหัสมาก” นายพิธากล่าว

เมื่อถูกถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากกองทัพจะพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้ง นายพิธากล่าวว่า ต้องลดความเสี่ยงของการถูกโค่นล้ม แต่ก็ต้องพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ แม้ไม่กังวลแต่ก็ไม่ประมาท พรรคก้าวไกลมีทีมงานที่แข็งแกร่งอยู่รอบตัว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ตกเป็นเป้าได้ง่ายๆ

---

ธนาธร รับตกใจ ก้าวไกลชนะที่ 1 ภูมิใจสังคมตอบรับ ชุดความคิดที่ถูกมองว่ามันสุดโต่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3986105

ธนาธร รับตกใจ ก้าวไกลชนะที่ 1 ภูมิใจสังคมตอบรับ ชุดความคิดที่ถูกมองว่ามันสุดโต่ง 
 
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถึงชัยชนะของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า
 
ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว 3 วัน ผมเพิ่งได้มีโอกาสใช้เวลานั่งทบทวนการเดินทางที่ผ่านมา และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 
  
ผมตกใจกับผลการเลือกตั้ง คาดเดาไว้ว่าพรรคก้าวไกลจะได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน แต่ไม่เคยคาดว่าจะได้จำนวนที่นั่งเป็นอันดับหนึ่ง
สำหรับผม หากมองการเมืองไทยร่วมสมัย การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ยุคสมัยการเมือง 2549-2566 ได้ปิดฉากลง การเลือกตั้งที่ผ่านมาทำให้สังคมเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ยุคสมัยการเมืองเข้าสู่ยุคใหม่ที่ดุลยภาพการเมืองเปลี่ยนไปและมีผู้เล่นใหม่เข้ามา

เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาชัดเจน สิ่งที่ถาโถมเข้ามาในใจของผมคือสำนึกของความรับผิดชอบ ต่อจากนี้ พรรคก้าวไกลจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันอนาคตประเทศไทย
 
ผมเชื่อมั่นในพรรคก้าวไกล คนที่ปรามาสพวกเราว่าไม่มีประสบการณ์ ไม่เคยเห็นเบื้องหลังการทำงานของเรา พวกเขาไม่เคยเห็นการทำงานอย่างหนักและจริงจัง เพื่อเตรียมตัวรับปัญหาและความท้าทายของเรา พวกเขาไม่เคยเห็นเราทำงานเป็นทีม ที่พลังมาจากการยึดโยงกันด้วยอุดมการณ์ ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตน

ที่เรามาถึงตรงนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ผลลัพท์ของการเลือกตั้งคือผลรวมของการทำงานของพวกเราตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มันคือบทพิสูจน์ประสิทธิภาพการบริหารจัดการองค์กรของเรา ผมเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เราหักปากกาเซียนมาแล้วด้วยผลการเลือกตั้ง เราจะลบคำปรามาสเหล่านั้นด้วยการทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างมีพลัง
 
ผมเชื่อมั่นใน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคของเรา พิธา จะพาประเทศไทยไปข้างหน้า เท่าทันยุคสมัย กล้าเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ๆของประเทศ ในขณะเดียวกับที่ฟื้นฟูประชาธิปไตยไปพร้อมๆกัน ผมเชื่อว่าเขาจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดี
 
ที่มากกว่าชัยชนะที่เป็นคะแนนนับ ส่วนตัวผมภูมิใจมากกว่ากับชัยชนะทางความคิด ชุดความคิดที่พวกเรานำเสนอต่อสังคมกลายเป็นความคิดนำ เราสามารถตีความอย่างนี้ได้ เพราะความตรงไปตรงมาและความเสมอต้นเสมอปลายของการนำเสนอ ทั้งในสภา, นอกสภา และระหว่างเลือกตั้ง
 
เมื่อเราเสนอชุดความคิดในลักษณะเช่นนี้ คะแนนเลือกตั้งจึงสามารถใช้บอกความต้องการของสังคมได้ เรื่องสุดโต่งวันนั้นกลายเป็นเรื่องที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขว้างวันนี้ 
 
การเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นก้าวสำคัญของการเดินทาง แต่เรายังห่างไกลกับเป้าหมายการเดินทาง ผมเชิญชวนทุกท่าน เดินทางด้วยกันต่อ ยังต้องฝ่าด่านสมาชิกวุฒิสภา ยังต้องแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งอย่างน้อยมีประชามติอีก 3 ครั้ง และการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ อีก 1 ครั้งในอีก 4 ปีข้างหน้า กว่าจะเอาระบอบรัฐประหาร ในรูปแบบรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ออกจากการเมือง และนำประชาธิปไตยกลับสู่สังคมไทยได้
 
นี่ยังไม่นับการรณรงค์ทางความคิดในประเด็นที่สำคัญอีกหลายประเด็น เช่น การกระจายอำนาจ, การปฏิรูปกองทัพ และเรื่องสำคัญอื่นๆ ที่ต้องขอแรงทุกท่าน เดินทางร่วมกันต่อไป
 
ขอบคุณผู้สนับสนุนทุกคน ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อนสมัยเรียนทั้งประถม, มัธยม และมหาวิทยาลัย ทั้งไทยและอังกฤษ สหายนักกิจกรรม, เพื่อนสมัยทำงาน, เพื่อนกลุ่มผจญภัยและออกกำลังกาย, ทีมงานในบริษัทไทยซัมมิท, เพื่อนร่วมกลุ่มอุตสาหกรรม, เพื่อนผองน้องพี่ในองค์กร, ครูบาอาจารย์ที่ประศาสน์ความรู้ความคิด และคอยให้คำแนะนำ, และเพื่อนใหม่ที่พานพบในระหว่างการเดินทางทางการเมือง
ไม่มีการสนับสนุนจากทุกคน พวกเราจะมาถึงที่นี่ไม่ได้เลย

ขอบคุณพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคทุกคนที่แสดงสปิริตประชาธิปไตยอย่างสง่างาม ขอให้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ทำงานร่วมกันอย่างให้เกียรติกันและจริงใจต่อกัน เป็นเสาหลักสองต้นให้กับการฟื้นฟูประเทศและประชาธิปไตย
 
ขอบคุณเป็นอย่างมากกับสมาชิกในครอบครัวทุกคน เป็นเกียรติของผมที่ได้เกิดและเติบโตในครอบครัวนี้
 
สุดท้าย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน ผมเชื่อว่าพรรคก้าวไกล ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและอนาคตของลูกหลาน ที่ประชาชนฝากไว้ในมือเรา ผมเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะตอบสนองเสียงเพรียกแห่งอนาคต ด้วยการทำงานอย่างซื่อตรงในอุดมการณ์
 
น้ำทุกขวด ดอกไม้ทุกดอก ข้าวทุกกล่อง ขนมทุกห่อ จดหมายทุกฉบับ รอยยิ้มทุกรอยยิ้ม กำลังใจทุกดวง ที่ท่านให้ระหว่างทาง เป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่าเราทรยศต่อประชาชนไม่ได้
 
อาจจะช้าไปหน่อย ขอบคุณทุกคนจากใจจริง เดินต่อไปด้วยกัน มาถากถางเส้นทางใหม่ของยุคสมัยร่วมกัน มาสร้างอนาคตใหม่ด้วยกัน 

https://www.facebook.com/ThanathornOfficial/posts/pfbid02UnYgGNooknBTpiRt9bEbNUVxyRZuwHgupoU7jio2QnYpAyihn6jRha6WZWqN5E8Wl