เมื่อวันที่14 พฤษภาคม 2566 ตอนเวลาประมาณ14.00ได้ไปหาแพทย์ที่โรงบาล พานทอง แพทย์ได้วินิจฉัยว่าติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน แล้วให้ยากลับบ้านทางคุณหมอได้บอกกับเราว่าถ้ารู้สึกเจ็บหรืออาเจียนหน้ามืดเป็นลมไห้รีบมาหาแพทย์ทันทีหลังจากนั้นตอนเวลาประมาณ22.00เราได้เจ็บท้องและรีบไปโรงพยาบาลพานทองทันที ได้เจอนางพยาบาลที่เข้าเวร เราได้บอกอาการที่เป็นอยู่ทั้งหมด แต่นางกับพูดว่านางวินิจฉัยเองและจ่ายยาและจะพูดคุยกับคุณหมอให้แต่ไม่สามารถพบคุณหมอได้ในขณะนั้น ไม่สามารถเข้าตรวจกับหมอได้ เราเลยถามว่าขอพบคุณหมอสักหน่อยไม่ได้เลยเหรอค่ะเพราะว่าคุณหมอเมื่อเย็นได้บอกว่าถ้าเจ็บไห้มา แต่นางกลับพูดว่าไม่ถึงหัวใจวายหรือหมดสติหรือเคสฉุกเฉินรุนแรงไม่สามารถเข้าพบแพทย์ได้ (เข้าใจแต่นางพูดแย่มาก+กับอาการเจ็บท้องของเราด้วยใครได้ยินคงโมโหมากๆ) หลังจากนั้นเราได้เดินออกมาและบอกกับนางเวรพยาบาลคนนั้นว่าเราจะไปที่อื่นที่ได้คุยกับคุณหมอได้เพราะเราเจ็บท้องมากๆไม่สามารถทนต่อไปได้ ถึงเสียเงินก็ยอม นางได้บอกว่าสิทธิ์เราอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นเราบอกเราไม่สนใจยอมเสียเงินเพราะเราทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว แฟนรีบขับรถพาเรามาโรงพยาบาลพนัสในทันทีพอมาตรวจที่พนัส ทั้งหมอทั้งพยาบาลมานุ่มตรวจเราอย่างเต็มที่แม่แต่เวรเปลก็ถึงขั้นเดินมารับเราที่รถ ทางพนัสได้อัลตราซาวหน้าท้องละพบสิ่งผิดปกติละได้ตรวจภายในละส่งต่อให้คุณหมอสูติเฉพาะทาง สรุปแล้วเราเป็นถุงน้ำในรังไข่รั่วและท้องนอกมดลูกถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยถ้ามาช้ากว่านี้ต้องผ่าตัดปีกมดลูกทิ้งถึงขั้นไม่สามารถมีลูกได้อีก อยากถามว่าเราสามารถเอาผิดกับใครได้หรือไม่ แล้วจะไม่มีไครเปลี่ยนโรงพยาบาลแห่งนี้เลยหราทั้งที่ผ่านมาเราได้ข่าวมาหลายๆเคสที่ต้องตายเพราะวินิจฉัยผิดและให้รออาการ (คนดีที่รู้จักก้อยังมีเราไม่ได้บอกว่าทั้งหมด แต่รอบนี้มันเกิดขึ้นกับเรา) #เตือนภัย #ปวดท้อง #ตัดปีกมดลูก #ท้องนอกมดลูก #ถุงน้ำในรังไข่รั่ว #โรงพยาบาลพานทอง #วินิจฉัยผิด #พยาบาลไม่สนใจ #ค่อยระวัง #ภัยใกล้ตัวของผู้หญิงเกือบทุกคน
การวินิจฉัยผิดของโรงพยาบาลและไม่สนใจคนไข้