ถ้าทำอะไรไม่ได้จริงๆ ก็ยื้อไปอย่างนี้
อย่างมากก็ปล่อยให้รัฐบาลชุดเดิมเป็นรัฐบาลรักษาการณ์ไปอีก 1 ปี
รัฐบาลรักษาการณ์ถูกจำกัดอำนาจโดยรัฐธรรมนูญอยู่แล้วที่จะทำอะไรไม่ได้เต็มที่
เช่น ไม่สามารถอนุมัติงานหรือโครงการที่จะสร้างความผูกพันต่อ ครม.ชุดต่อไป เว้นแต่ที่กำหนดไว้แล้วในงบประมาณรายจ่ายประจำปี (ฉะนั้น ปีหน้า พรบ.งบประมาณของปีใหม่ ยังไม่ผ่านสภาฯ ก็จะไม่มีเงินเดือนจ่ายข้าราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ก็ต้องไปประท้วง สว. เอง)
อย่างมากประเทศก็ถูกแช่แข็งความก้าวหน้าพัฒนาไปอีก 1 ปี (วัตถุประสงค์เดิมของ กปปส ในปี 2557 คือ แช่แข็งประเทศไทย 5 ปี แต่ตอนนี้ ประเทศไทยถูกแช่แข็งมาแล้วกว่า 9 ปี ก็รอให้ครบปี 67 ก็ครบ 10 ปีพอดีอย่างที่เหล่า กปปส ต้องการ)
จากนั้น เมื่อหมดอำนาจของ สว. ชุดนี้ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช.
แล้วรอ สว. ชุดใหม่ที่จะมาจากการสรรหาโดยกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ ก็จะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่
จากนั้น ก็เริ่มกระบวนการนำตัว สว. ที่มีส่วนในการให้ความร่วมมือในการสืบต่ออำนาจเผด็จการมาลงโทษ ยึดทรัพย์ จำคุก ต่อไป
สว. ชุด 250 คนนี้จะหมดวาระในวันที่ 12 พ.ค. 2567 (เหลืออีกไม่ถึง 1 ปีเต็ม)
อย่างมากก็ปล่อยให้รัฐบาลชุดเดิมเป็นรัฐบาลรักษาการณ์ไปอีก 1 ปี
รัฐบาลรักษาการณ์ถูกจำกัดอำนาจโดยรัฐธรรมนูญอยู่แล้วที่จะทำอะไรไม่ได้เต็มที่
เช่น ไม่สามารถอนุมัติงานหรือโครงการที่จะสร้างความผูกพันต่อ ครม.ชุดต่อไป เว้นแต่ที่กำหนดไว้แล้วในงบประมาณรายจ่ายประจำปี (ฉะนั้น ปีหน้า พรบ.งบประมาณของปีใหม่ ยังไม่ผ่านสภาฯ ก็จะไม่มีเงินเดือนจ่ายข้าราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ก็ต้องไปประท้วง สว. เอง)
อย่างมากประเทศก็ถูกแช่แข็งความก้าวหน้าพัฒนาไปอีก 1 ปี (วัตถุประสงค์เดิมของ กปปส ในปี 2557 คือ แช่แข็งประเทศไทย 5 ปี แต่ตอนนี้ ประเทศไทยถูกแช่แข็งมาแล้วกว่า 9 ปี ก็รอให้ครบปี 67 ก็ครบ 10 ปีพอดีอย่างที่เหล่า กปปส ต้องการ)
จากนั้น เมื่อหมดอำนาจของ สว. ชุดนี้ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช.
แล้วรอ สว. ชุดใหม่ที่จะมาจากการสรรหาโดยกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ ก็จะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่
จากนั้น ก็เริ่มกระบวนการนำตัว สว. ที่มีส่วนในการให้ความร่วมมือในการสืบต่ออำนาจเผด็จการมาลงโทษ ยึดทรัพย์ จำคุก ต่อไป